วันที่ 21 มิ.ย. ที่ ควอเทียร์ แกลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ ทอม-อิศรา กิจนิตย์ชีว์ หรือ ทอม Room39 และ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร สองศิลปินเสียงคุณภาพ ให้สัมภาษณ์คู่กันในงานเปิดตัวโกลบอลแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “เลย์ เพราะชีวิตต้องมีรสชาติ” ถึงเรื่องที่ช่วงหลังรับงานคู่กันถี่ พร้อมกระแสข่าวที่ว่าอัพค่าตัวสูงขึ้น ทั้งนี้หนุ่ม ‘เป๊ก’ ยังเปิดใจเรื่องที่ตนเองขึ้นไปพูดขอโทษผู้จัดการส่วนตัวบนเวทีในงานงานหนึ่งด้วย
ออกงานคู่กันเป็นยังไงบ้าง?
ทอม – ผมมองว่าเป็นเรื่องสนุกนะ เพราะเดี๋ยวหลังจบงานก็จะมีรูปภาพที่แฟนคลับแท็กมาถึงพวกเรา แล้วก็เขียนแคปชั่นนั่นนี่ตลกดี
เป๊ก – หลังๆ เริ่มจะมีงานคู่กันบ่อย ก่อนหน้านี้ก็มีหนังสือที่ไปถ่ายแบบด้วยกันมาหลายเล่ม
ตอนนี้หน้ากากทุเรียนกับหน้ากากจิงโจ้เลยกลายเป็นคู่จิ้นไปแล้ว?
เป๊ก – คู่เราจะจิ้นแบบพี่น้องมากกว่าครับ
ทอม – ด้วยความที่พวกเราอยู่ในรายการเดียวกันตอนที่เป็นหน้ากาก ร้องเพลงสไตล์อาร์แอนด์บีเหมือนกัน เลยดูเหมือนเป็นพี่น้องร้องเพลงด้วยกันได้
เป๊ก – แล้วคาแร็กเตอร์ของทอมก็ดูน่ารักๆ ด้วย แฟนคลับก็เลยชอบกัน เลยมาจับคู่เล่นกับจิงโจ้
แบบนี้จะมีโอกาสได้เห็นซิงเกิลที่ทำด้วยกันบ้างไหม?
ทอม – อยากทำเหมือนกันนะครับ จริงๆ ก็เคยคุยกันอยู่อาจจะมีคัฟเวอร์ด้วยกัน คือชวนกันทำอยู่ แต่น่าจะเป็นการทำเล่นๆ มากกว่า คงยังไม่ได้ถึงขั้นจะออกเป็นซิงเกิลจริงจังร่วมกัน ส่วนว่าจะเป็นเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอดูเวลาที่เราสองคนว่างตรงกันด้วย
เป๊ก – น่าจะปลายปีถ้ามีเวลาว่าง อาจจะได้มาคุยกันจริงจังมากขึ้น
มีข่าวว่าเวลาที่ออกงานคู่กันค่าตัวจะอัพขึ้นกว่าเดิม?
เป๊ก – ไม่นะ ค่าตัวของพวกเราสบายๆ นะครับ จริงๆ แต่ละคนก็มีเรตของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าเกิดงานไหนจ้างไปคู่กันมันก็อาจจะต้องบวกเข้าไปบ้างนึดนึง ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ทอม – แต่ว่าเราสองคนก็ยังไม่ได้คิดถึงขั้นที่จะตั้งเรตราคาที่เป็นแพ็คเกจคู่กันนะครับ
ทั้งสองคนมีแฟนคลับเยอะมาก มีข้อตกลงอะไรกันบ้างไหมเวลาไปตามงาน?
ทอม – สำหรับผมไม่ได้มีข้อตกลงอะไรกับแฟนคลับ ผมว่าเขารู้ขอบเขตของเขามากกว่า รู้ว่าหน้าที่ของตัวเขาจะทำอะไรบ้างที่ไม่เป็นการก้าวก่ายในเรื่องของทีมงาน
เป๊ก – จริงๆ ไม่มีข้อตกลงอะไร เราก็จะมีพี่ๆ ที่คอยช่วยดูแลพวกแฟนคลับอยู่แล้ว เพราะบางทีเราก็ไม่สามารถที่จะไปบังคับหรือห้ามได้ทุกคนก็ต้องฝากให้พี่ๆ ช่วยกัน แต่ว่าก็คงไม่ได้มีมาตรการอะไรที่เป็นกฎ เพราะทุกคนก็ตั้งใจที่จะมาเชียร์มาให้กำลังใจเรา รู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวมากกว่า
ล่าสุดไปงานหนึ่งแล้วเห็นเป๊กพูดขอโทษผู้จัดการส่วนตัวบนเวที มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น?
เป๊ก – อ๋อ…คือเหมือนกับว่าเวลาที่เราทำอะไรไม่น่ารัก มันอาจจะต้องมีการขอโทษกันเป็นเรื่องปกติ อารมณ์ประมาณว่าพอเรามายืนตรงจุดนี้บางทีก็ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้เท่าไหร่ บางทีไลฟ์สไตล์ของเราก็ยังเป็นเหมือนเดิม ทีนี้มันก็เหมือนกับว่าเราต้องค่อยๆ ปรับ ตารางชีวิตตอนนี้ก็เปลี่ยนไปเพราะมีงานเยอะขึ้น อาจจะได้มีเวลาของตัวเองน้อยลง เรื่องแฮงเอาต์ก็ต้องลดลง ถามว่าอึดอัดมั้ยที่ต้องปรับตัวเองแบบนี้ ไม่ขนาดนั้นนะครับ อย่างเวลาเราไปเล่นคอนเสิร์ตส่วนใหญ่เพื่อนๆ ก็จะตามมาเชียร์อยู่แล้ว หลังจากที่ทำตัวไม่น่ารักครั้งนั้นเราก็ไม่ได้มีข้อตกลงอะไรเป็นพิเศษกับผู้จัดการส่วนตัว เรายังคงเป็นตัวเองอยู่ แต่ถ้าเกิดอะไรที่มันจะสามารถปรับเพื่อให้ทำงานได้ง่ายขึ้นก็คงจะต้องปรับเพื่อทุกคนครับ
