ลำไย ไหทองคำ เปิดใจเส้นทางชีวิตจากลำบากจนถึงดังสุด เตรียมโกอินเตอร์เกาหลี
ถ้าพูดถึงนักร้องสาวที่มียอดวิวในยูทูปหลายร้อยล้านวิว ใครๆก็ต้องคิดถึงสาวน้อยคนนี้ ลำไย ไหทองคำ ที่สร้างปรากฎการณ์ดังเพียงชั่วข้ามคืนและดังต่อเนื่องมาจนตอนนี้ ซึ่งนักร้องสาวได้มาเปิดใจใน “รายการต้มยำอมรินทร์” ซึ่งผลิตโดย CHANGE2561 ว่าเธอเคยรับงานเยอะถึง 7 งานภายในวันเดียว และตอนนี้ถึงจะมีโควิด-19 ที่ทำให้งานหดหาย แต่ลำไยก็ไม่ยอมอยู่เฉย ยกขบวนแดนเซอร์ไลฟ์มาจัดคอนเสิร์ตแบบไลฟ์สดเสิร์ฟให้แฟนๆได้มีความสุขกันถึงบ้าน แถมยังไม่ยอมอยู่ว่างทำแหนมขายอีกด้วย แต่กว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ ลำไยก็เปิดใจว่าเธอฝ่าความลำบากมาไม่น้อยทีเดียว
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ก่อนจะมาเป็น ลำไย ไหทองคำ นั่งหัวเราะใส่เสื้อผ้าที่สวยงามแบบนี้ ก็ผ่านความยากลำบากมาก่อน เมื่อก่อนนี้เราไม่ได้เติบโตมาในครอบครัวที่สุขสบายนัก
ลำไย : “ใช่ค่ะ หนูเกิดที่ร้อยเอ็ด พื้นฐานทางบ้านก็เป็นเป็นชาวนาธรรมดาค่ะ ไม่ได้มีเงินทองมากมาย ทำนาอย่างเดียวมันก็ไม่พอค่ะ ยายก็มาเลยขายของที่กรุงเทพฯมากับแม่ แล้วเราก็มาด้วย ตอนนั้นหนูยังเด็กอยู่ อยู่ประมาณอนุบาลค่ะ หนูก็เลยย้ายมาเรียนอนุบาลที่กรุงเทพฯ แล้วก็มาช่วยยายขายของ ยายก็จะเดินขาย พวกลูกอม ถั่วคั่ว เม็ดกะบกคั่ว หนูก็เดินกับยาย เดินขายตามร้านข้าวต้ม”
แล้วชีวิตมันเปลี่ยนมาได้ยังไง ทำไมอยู่ดีๆเราถึงกลายมาเป็นศิลปินที่โด่งดังได้
ลำไย : “หนูก็เดินขายของกับยายไปเรื่อยๆค่ะ หนูก็เรียนไปด้วย พอเรียนถึง ป.4 ทางโรงเรียนก็ให้เราเริ่มสมัครเข้าชมรมได้แล้ว เพราะเราเริ่มโต หนูก็เลือกเข้าชมรมนาฏศิลป์เพราะว่าหนูชอบแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ตอนแรกเราก็ยังไม่ได้เป็นที่จับตา เราก็เป็นเด็กหลังห้องอยู่ เพราะว่าจะมีรุ่นพี่เขาได้ออกงาน เราก็ยังไม่ได้ออก แล้วเราดันไปเล่นทายเพลงกับเพื่อน แล้วมันก็ได้ร้องเพลงอะไรแบบนี้ เพื่อนก็เลยรู้สึกว่า เอ๊ย..ร้องเพลงได้ ร้องเพลงดี ค่อนข้างโอเคเลย วันนั้นมันเหมือนเป็นดวงของหนู คือนักร้องที่เป็นตัวแทนโรงเรียนเขาไม่สบายพอดี แล้วครูประจำชมรมก็เลยเครียดมาก เพราะต้องส่งเด็กประกวดระดับเขตแล้ว เพื่อนหนูก็เลยบอกว่า สุพรรษา (ชื่อจริงของลำไย)ร้องเพลงได้นะคะครูลองฟังดูไหม”
นั่นเป็นจุดเปลี่ยนไหม?
ลำไย : “ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนูได้เป็นตัวแทนของโรงเรียน หลังจากนั้นครูก็ส่งหนูเป็นตัวแทนมาตลอดเลย เวลามีงานอะไรกิจกรรมอะไรเราก็เป็นคนที่โดนเรียกใช้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรากล้าแสดงออกมาขึ้นแล้วก็อยากที่จะเข้ามาเรียนต่อในด้านนาฏศิลป์”
ตอนนี้ยอดวิวเพลงผู้สาวขาเลาะเท่าไหร่แล้ว
ลำไย : “น่าจะประมาณ 300 ล้านวิวได้แล้วค่ะ เพลงนี้ก็เป็นจุดเปลี่ยนของชื่อเราเลย”
ตอนผู้สาวขาเลาะผมยาวมาก ทำไมถึงตัดผมสั้น
ลำไย : “เราไว้ผมยาวมาทั้งชีวิต เคยตัดผมสั้นแค่ตอนประถมต้น แล้วหลังจากนั้นก็ไว้ผมยาวมาตลอด แม่ก็ชอบให้ไว้ผมยาวด้วย เปลี่ยนลุกส์ด้วยจะได้เอาเวลาตรงนี้ไปพักผ่อนด้วย ก็มีคนชอบ บอกว่าดูเด็กลง แต่คนที่ชอบผมยาวมากกว่าก็มีค่ะ แต่เขาก็ยังติดตามเราอยู่ เพราะว่าเราก็คือเรา”
ลำไยมีภาพที่บางคนรู้สึกว่า แรง ภาพลักษณ์ในการนำเสนอดูกล้า เซ็กซี่หนักมาก เรามีอะไรอยากบอกคนที่มองเราแบบนั้นไหม?
ลำไย : “จริงๆมันเป็นลุกส์ของเราในการทำงานอะค่ะ คือเหมือนเราเกิดจากกระแส คือตอนแรกเลย คือโดนด่ามาก่อน คือเรื่องที่เราแต่งตัวโป๊ ตอนนั้นเราเด็กด้วย เราแต่งตัวโป๊ด้วย ร้องเพลงแนวสองแง่สองง่าม เราก็เกิดจากกระแสที่เราโดนว่า แม่ก็ให้กำลังใจเราค่ะ เพราะแม่ก็รู้ว่าเราทำงานแหละ ตอนนั้นเราก็ยังเด็กยังคิดอะไรได้ไม่มาก แล้วหลังจากที่เราโดนวิพากษ์วิจารณ์ มันทำให้เราเห็นโลกกว้างมากขึ้นว่า อ๋อ..มันไม่ใช่นะ โลกมันไม่ได้มีแค่โลกของเรา มันมีอะไรที่เราต้องศึกษา คือสิ่งที่เราทำมันก็ไม่ได้ถูกเพราะว่า เราก็ยังเด็กอยู่ด้วย เราก็ไม่ได้รั้นที่จะไม่ปรับปรุง เราก็ปรับปรุงแต่ว่าค่อยๆทีละขั้นตอน เราอาจจะแบบว่าเปลี่ยนไปเรียบร้อยเลยไม่ได้ เราก็ค่อยๆให้มันดีขึ้น ดีขึ้น ค่อยพัฒนาอะไรแบบนี้ค่ะ”
ผลงานตอนนี้มีอะไรบ้าง
ลำไย : “ผลงานอาจจะมีเซอร์ไพร์สเป็นซิงเกิลหลังจากหมดโควิด อาจจะเป็นซิงเกิลที่โกอินเตอร์หน่อยค่ะ จะไปทำเพลงแนวเกาหลี อาจจะได้ฟีเจอริ่งกับพี่ๆที่เป็นศิลปินทางเกาหลีค่ะ ฝากให้ติดตามกันด้วยนะคะ ช่วงนี้เราก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการคุยกันอยู่ค่ะ”
ขอบคุณภาพจาก IG : lamyailion
