หลังสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนเพลงลูกทุ่งด้วยการจดทะเบียนสมรสใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเมื่อปีที่แล้ว สำหรับคู่รักต่างค่าย เพชร-สหรัตน์ จากค่ายท็อปไลน์ มิวสิค กับนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง ตั๊กแตน-ชลดา จากแกรมมี่ โกลด์ ล่าสุดเจอหนุ่มเพชร มาร่วมงานแถลงข่าวภาพยนตร์ ส่มภัคเสี่ยน ที่ จ.นครพนม ผลงานการกำกับของ เอ็ม-บุษราคัม วงษ์คำเหลา ลูกสาวคนเก่ง หม่ำ จ๊กมก ซึ่งหนุ่มเพชรร่วมแสดงและแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย พร้อมอัพเดตชีวิตคู่หนึ่งปีที่ผ่านมามีความสุขดี เผยตั๊กแตนหายป่วยจากมะเร็งมดลูกแล้ว ตั้งใจอยากมีลูกเลย รับที่ผ่านมาตั๊กแตนเคยเครียดหนักถึงขั้นอยากลาวงการ ตนได้ให้กำลังใจร่วมฝ่าฝันด้วยกันมา และพร้อมจัดงานแต่งภายในปีหน้า
เรื่องนี้ทั้งเล่นหนังและแต่งเพลงเองด้วย “ใช่ครับ คือเรื่องแต่งเพลงพี่หม่ำเป็นคนให้พล็อตเพลงมา อย่างเพลง “ฮักเจ้าจนตาย” ตอนนี้ยอดวิวเกือบ 90 ล้านแล้ว ท่อนที่ทุกคนจำ “ผ่าตัดหัวใจไม่ต้องใช้ยาชา แค่บอกลาก็ชาทั้งหัวใจ” คือท่อนที่พี่หม่ำเป็นคนให้คำร้องมา นอกนั้นให้เราไปจัดการเอง ก็ได้มีการพูดคุยกันว่าพี่หม่ำต้องการฟีลเพลงประมาณไหน จนเกิดเพลงนี้ขึ้นมา เพลงนี้มีแพลนจะปล่อยก่อนหนังฉาย 4 เดือนด้วยซ้ำ แต่พอมาฟังแล้วพี่หม่ำเขาชอบ เขาก็เลยบอกให้ปล่อยเพลงไปเลย หลังจากปล่อยเพลงก็ทำให้เรามีงาน ตอนนี้ก็เกือบจะร้อยล้านวิวแล้ว คือเพลงนี้ปล่อยมาประมาณ 8-9 เดือนได้แล้วครับ”
“เพลงถัดมาเป็นเพลงออกแนวโย่ๆ เป็นฟีลที่โตโน่ไปกวนในงานแต่ง ชื่อเพลงว่า “ถูกตอก” ซึ่งเพลงนี้พี่หม่ำจะเป็นคนตั้งชื่อให้ ก็จะเป็นแนวกวนๆ ทุกวันนี้ผมก็แต่งเพลงด้วยแล้วก็ร้องเพลงด้วย ล่าสุดเพิ่งทำเพลงให้โตโน่ เพราะโตโน่นั่งอยู่ในกองถ่ายแล้วเดินมาหาแล้วบอกผมว่าเขาอยากร้องเพลงร็อกที่เป็นภาษาอีสาน อาจารย์ช่วยผมได้ไหม คือแต่งเพลงขึ้นมาแล้วจะฟีตเจอริ่งกันก็ได้ ผมก็เลยแต่งเพลงขึ้นมาในกองถ่าย เจอกันก็คุยกันเรื่องเพลง พอผมแต่งเนื้อเสร็จผมก็ส่งให้โน่ ส่วนโตโน่เป็นคนทำดนตรี คิดว่าเร็วๆนี้น่าจะได้ฟัง”
ชีวิตครอบครัวตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง “ก็ปกติ คบกันมาครบปีแล้ว จำได้ว่าตอนวันเกิดตั๊กแตนซึ่งผมไปจัดที่บ้านพี่หม่ำ พี่หม่ำเป็นคนแรกที่รู้ด้วยว่าผมกับตั๊กแตนคบกัน เพราะว่าสมัยก่อนผมก็กินอยู่ที่บ้านพี่หม่ำตลอด หลังๆเริ่มมีครอบครัวก็เลยแยกตัวออกมา ตอนนี้ก็คบกันได้ปีกว่าละ ตอนแรกก็ตกใจเพราะอย่างที่ทราบว่าน้องตั๊กแตนเขาป่วยเป็นมะเร็งมดลูกระยะแรก ซึ่งตอนนี้ก็รักษาหายแล้ว ล่าสุดเพิ่งมีเพลงใหม่ออกมา ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนจะเห็นแตนร้องเพลงภาษากลางมาตลอด ไม่เคยเห็นแตนร้องอีสานเลย ซึ่งทางต้นสังกัดไม่ยอมให้ทำแต่มีอยู่เพลงหนึ่งที่ผมทำเล่นๆ คือเพลง “ปล่อยน้ำใส่นาน้อง” ซึ่งเป็นเพลงของผม แตนเขาอยากร้อง เพราะเขาเห็นผมร้องเขาก็บอกผมว่าอยากได้เพลงแบบนี้ ผมก็เลยทำเพลงให้เขาชื่อเพลง “ไหง่ง่อง” แล้วเอาไปแหย่จีเอ็มเอ็มเล่นๆ ซึ่งพี่ตี่ (กริช ทอมมัส) ให้แตนทำเพลงนี้ ซึ่งเพลงนี้ตอนนี้ขึ้นชาร์ตเพลงลูกทุ่งทั่วประเทศเป็นอันดับ 2 โดยเพลงนี้ผมเป็นโปรดิวเซอร์และทำทุกอย่างให้”
เป็นมะเร็งที่มดลูกมีผลกับการมีน้องไหม “มีมาก ผมเป็นโสดเกือบปี โสดคือไม่ได้ยุ่งอะไรกันเลย เราก็ต้องดูแลเขา เพราะมีหลายอย่างเข้ามา พอหมอบอกว่าเป็นมะเร็ง คนที่เป็นไม่ได้มานับหรอกว่าเขาเป็นระดับไหน พอรู้ว่าเป็นก็เครียดพอๆกัน ยิ่งเป็นโรคที่เป็นแล้วตายคนเป็นจะปล่อยวางไม่มีจิตใจทำอะไร เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพราะเรามีโปรเจ็กต์ที่ทำร่วมกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านจัดสรร ก็ 3โครงการ มีทั้งโคราช เชียงใหม่ และภาคตะวันออก เราก็ต้องให้กำลังใจกันจนสุดท้ายหมอบอกว่าหายแล้ว ซึ่งหมอบอกว่ามีน้องได้ก็น่าจะหายขาด”
ตอนที่ตั๊กแตนปล่อยวางนั้นถึงขั้นไหน “คือเขาชวนผมไปอยู่ต่างจังหวัด ไม่รับคอนเสิร์ตแล้ว อยากลาชีวิตร้องเพลง เพราะเพลงตัวเองก็จำเนื้อไม่ได้ เพราะคิดเยอะ เวลาไปคอนเสิร์ตก็ไม่มีความสุข เวลาโชว์ก็เลยดรอปลง เจ้าภาพเห็นโชว์ดรอปลงก็จะพูดปากต่อปากว่าโชว์ไม่ดีเขาก็ไม่จ้าง และด้วยเซนส์ของคนส่วนใหญ่จะคิดว่าถ้าต้องจ้างคนป่วยมาคอนเสิร์ตไม่จ้างดีกว่าสงสารเขา แทนที่จะคิดว่าคนป่วยเราต้องจ้างเพราะเขาจะได้มีเงินรักษาตัว แต่คนส่วนใหญ่ไม่คิดแบบนั้น ผมก็บอกเขาว่าไม่เป็นไรเพราะเรามีธุรกิจของตัวเองอยู่แล้ว เขาไม่ร้องเพลงผมก็สามารถเลี้ยงเขาได้”
ตอนนั้นให้กำลังใจเขาอย่างไร “ผมบอกเขาว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเรายังมีลมหายใจร่วมกันอยู่เราก็จะดูแลให้ดีที่สุด และมีความสุขที่สุด ตอนนี้เขาหายขาดแล้ว เขาแฮปปี้และเขาได้ทำอัลบั้มใหม่ที่เขาอยากทำ เหมือนบริษัทให้รางวัลเขา นอกจากนี้เขายังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลายตัวถือว่าดีมาก”
เตรียมพร้อมการมีน้องอย่างไร “ไม่ได้คุม เราก็ปล่อยไปเรื่อยๆ ด้วยความที่ผมทำงานหนักมาก ทั้งค่ายท็อปไลน์ที่เราดูแล ช่วงหลังๆก็มาช่วยงานพี่หม่ำบ้างเท่าที่ผมช่วยได้”
เราอยู่ท็อปไลน์แล้วมาเขียนเพลงให้แกรมมี่ได้เหรอ “คือผมเซ็นสัญญานักร้องท็อปไลน์ ผมไม่ได้เซ็นสัญญางานแต่งเพลง ดังนั้นผมจะแต่งเพลงให้ใครร้องก็ได้ แต่ผมไม่สามารถไปร้องเพลงให้กับใครได้ แต่โดยมารยาทเวลาผมจะแต่งเพลงให้ใครผมจะต้องขออนุญาตเขาก่อน แม้เราจะไม่มีสัญญาแต่เขาเป็นผู้ปกครองเราก็ต้องบอกเขา ผมทำเพลงให้แตนผมทำเพลงเสร็จก็จะเอาไปให้ค่ายฟังว่าผมทำให้แตนนะ เขาก็โอเค เพลงของแตนตอนนี้ยังปล่อยไม่หมดเลย ส่วนเพลงของผมเองก็เพิ่งปล่อยไปเหมือนกัน เป็นเพลงที่ผมฟีตเจอริ่งกับคุณเอ มหาหิงค์ ชื่อเพลงว่า “เจ็บละเนาะ” เราปล่อยไป 1 เดือน ได้ 36 ล้านวิวแล้ว”
มีไปโชว์ด้วยกันไหม “มี แต่เวลาจ้างต้องจ้างคู่เพราะกฎของแกรมมี่และท็อปไลน์ไม่เหมือนกัน”
เป็นคู่รักข้ามค่ายต้องปรับตัวปรับจูนอย่างไร “สมัยก่อนแตนเขาจะเป็นคนเอาแต่ใจ ผมก็จะดุเขาตลอดว่าไม่ได้ คือเราต้องอาศัยนักข่าว คือถ้าไม่มีนักข่าว เวลาเราทำเพลงดีๆ ออกมาก็จะไม่มีใครมาต่อยอดเพลงเรา ก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ตอนนี้เขาดีขึ้นมากๆ ถ้าเขาใจเย็นทุกอย่างก็จะดีขึ้นมากๆ”
หลายคนสงสัยว่าลูกทุ่งมีแฟนทำไมต้องเก็บเป็นความลับ “ผมน่าจะเป็นคนแรกๆ ที่ไม่เก็บผมมีผมก็บอกเลย บอกด้วยความรู้สึกที่ว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเยอะ คนที่มีครอบครัวผมมองว่าเท่เพราะมีทุกอย่างครบ เราจะได้ถูกมองว่าเราเป็นคนดีมันเหมือนเป็นการบล็อกตัวเอง ถามว่ามันมีผลกับแฟนคลับไหม ผมว่าผู้ชายไม่น่าจะมี ส่วนตั๊กแตนน่าจะมีผลบ้างจากแฟนบางกลุ่มที่มองว่านักร้องหญิงต้องไม่มีเจ้าของ แต่ตอนนี้เหลือเป็นส่วนน้อยแล้ว ตอนข่าวแรงๆ ก็มีส่วนส่วนเพราะแตนเขาชอบอ่านคอมเม้นต์ อย่างมีแฟนแล้วเสียงตก ร้องเพลงไม่ดีทำไมมีแฟนแล้วอัลบั้มแป้ก เราก็พยายามให้เขารับให้ได้ ผมมองว่าเปิดเผยแบบนี้มันดีแล้วเวลาเขาตามผมไปไหนเขาก็มีสิทธิ์ นักร้องหลายคนมีแฟนก็มีงานเยอะแยะ
จะจัดงานแต่งไหม “ตอนแรกผมเตรียมไว้แล้ว แต่แตนเขามาป่วย ผมก็เลยตัดสินใจทุกอย่างไปมุ่งทำธุรกิจโครงการหมู่บ้าน ชลดาปาร์ค และโรงงานผลิตช็อคโกแลตมอลต์ที่ผมทิ้งไม่ได้เพราะทำมานานก่อนเป็นนักร้องเสียอีก คือเราเพิ่งเพิ่มประเทศส่งออกเราก็เลยลงทุนตรงนั้นหมด งานแต่งของผมมีแน่แต่อาจเป็นชวนเพื่อนๆมาสนุกสนานกันมากกว่า เพราะงานแต่งผมมองว่าไม่ได้มีสาระอะไร ถามว่าได้คุยเรื่องงานแต่งกับแตนไหม ได้คุยนะ แต่ผมว่าตอนนี้เขาน่าจะมีความสุขกับธุรกิจที่ทำอยู่ กับเงินที่เขาถืออยู่ แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งที่เขาและเราพร้อมก็น่าจะจัด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นปีหน้า”
