วันที่ 30 มิย. ที่ เอ็มควอเทียร์ มีการจัดงาน Taiwan Travel Expo 2017 ซึ่งในงานมีนักแสดงหนุ่ม ” ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” มาร่วมพูดคุยในงาน

 

หลังจบงานนักแสดงหนุ่ม ได้ให้สัมภาษณ์อัพเดตผลงานที่ประเทศจีน และเคลียร์ประเด็นดราม่าเรื่องที่ “ซาร่า คาซิงกินี” ออกมาบอกว่าค่าเลี้ยงดูลูกชาย แม็กซ์เวล ไม่พอใช้จ่าย

 

โดยไมค์ เผยว่า “ผมหายหน้าจากไทยไปประมาณ 4 เดือน นี้เพิ่งเพิ่งกลับจากจีน เพราะว่ามีธุระที่ไทยที่ต้องเคลียร์งานนิดหน่อยและธุรกิจด้วย แต่โปรเจ็คใหญ่ที่จีนคาดว่าจะเป็นสิ้นปีนี้หรือปีหน้าต้องรอดูกันครับ ที่โน้นผมมีงานเข้ามาเรื่อยๆ แต่ต้องพิจารณาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นบทหรือผู้กำกับและอื่นๆอีก ผมยังอยู่ภายใต้สัญญากับทางจีน เลยไม่เห็นผลงานในเมืองไทยเท่าไหร่ และผมไม่ได้สนใจกระแสความนิยม ตอนนี้ผมแค่ต้องการหางานที่ทำให้อนาคตมันคงมากกว่าเพราะกระแสมีขึ้นก็มีลง ซึ่งงานที่จีนผมมองว่ามันน่าจะต่อยอดได้ไกลกว่าและมันก็ไปตามความฝันของผม สมมุติว่าผมอยากไปฮอลลีวูด มันก็เข้าง่ายกว่า เรายังสานต่อธุรกิจอะไรหลายอย่างได้ ผมอายุ 27 แล้วก็ไม่รู้ว่าจะดังไปได้อีกเพื่ออะไร เอาความมั่นคงดีกว่า”

พักงานในไทยเลยไหม “มันแล้วแต่โอกาส จังหวะ และคิวด้วย งานในไทยก็มีติดต่อเข้ามาบ้างแต่ด้วยเวลาเลยยากหน่อย”

 

ทำงานที่จีนมาหลายปี โตขึ้นอย่างไรบ้าง “ไมค์ไปเริ่มงานที่จีน เริ่มจากศูนย์ เริ่มจากการเป็นดาราหน้าใหม่ มีงานออนแอร์ในอินเตอร์เน็ตทีวี แต่ละครที่กำลังจะได้ออนแอร์ ออกอากาศทางช่องหูหนาน ซึ่งเป็นช่องที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เป็นครั้งแรกกับการได้เข้าช่องใหญ่ตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่าเขาจะสนใจในละครที่เราเล่นอยากรู้ว่าเพราะออนแอร์แล้วกระแสจะเป็นอย่างไร”








Advertisement


ล่าสุดเห็นถ่ายแฟชั่นนิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวลกับ ออม สุชาร์ ภาพออกมามาแนบชิดพอสมควร “ผมทำตามธีมที่เขาให้มา ที่ดูสนิทแนบชิด เพราะธีมที่เขาหามาเหมือนกับแมกกาซีนฝรั่ง อาจจะดูเหมือนหวือหวา สำหรับผมก็ไม่ดูขนาดนั้น ตอนถ่ายก็ไม่เขินเพราะออมตัวหนัก ครั้งนี้ไปถ่ายที่มัลดีฟซึ่งมันเป็นทะเลเสื้อผ้าอาจจะดูน้อยชิ้น ตอนแรกผมบอกทีมงานว่าไม่ถอดเสื้อ เลยไม่ได้ฟิตร่างกายไป แต่พอไปต้องลงน้ำยังไงก็ต้องมีถอดเสื้อ ที่ยอมถอดเสื้อเพราะภาพจะได้สวย พอรูปออกมาแฟนคลับจีนก็ได้เห็น เขาก็ดีใจอยากให้มีงานร่วมกับออมอีก ที่จีนก็มีเอาข่าวผมกับออมไปลง ก็ขอบคุณมาก ช่วงหลังที่ออมไปจีน บ่อยๆ เราไม่ได้เจอกัน เพราะบินกันไปคนล่ะเมือง อีกอย่างโอกาสที่จะทำงานร่วมกันที่จีนยาก เพราะที่โน้นเขามีกฎว่ามีคนไทยได้กี่คน งานอีเว้นท์คู่กันก็ไม่มี”

 

ถามถึงประเด็นดราม่าที่ยังไม่จบเรื่อง ที่เราให้ค่าเลี้ยงดูลูกชายไม่พอ “เรื่องพอหรือไม่พออยู่ที่มุมมองของแต่ล่ะคนมากกว่า ว่าแต่ละคนมองว่าเงินจำนวนนี้สามารถใช้จ่ายต่อเดือนได้เป็นยังไง จริงๆ เมื่อก่อนผมให้เงินพ่อแม่หมด และรับเป็นเงินเดือน เดือนละ 3 หมื่น ผมก็มีการคำนวนแล้ว ซึ่งผมไม่ได้จ่ายแค่ 3 หมื่น คือ เงิน 3 หมื่นเป็นค่าใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปของแม็กซ์เวล นอกเหนือจากนั้น ยังมีค่าประกันอีกที่ผมต้องดูแลทุกเดือน และผมยังเปิดบัญชีให้แม็กซ์เวล โอนเข้าทุกเดือน พอน้องเข้าโรงเรียน ผมต้องจ่ายค่าเรียน ค่อนข้างเยอะอยู่ ถ้าอีกหน่อยแม็กซ์เวลเข้าโรงเรียน ค่าใช้จ่ายต้องเพิ่ม หรืออะไรที่ต้องซัฟพอตเขา ผมให้เต็มที่เท่าที่ให้ได้ เพราะในชีวิตค่าใช้จ่ายคนเรามีหลายอย่าง ฉะนั้น ค่าใช้จ่ายต่อเดือนผมต้องหาให้มากกว่า 1-2 แสนบาท ผมต้องมองถึงความมั่นคงด้วย ถ้ามีผมให้อยู่แล้ว ผมวางแผนค่าใช้จ่ายลูกไว้ประมาณ แต่ตอนนี้ผมโฟกัสที่งานตรงนี้ ยังไงขอมีเงินเก็บให้มากที่สุด แล้วมีเหลือไว้ใช้จ่ายในอนาคต พอส่งเขาเรียนจนจบได้ ไหนจะทางที่บ้านอีก ผมอยากที่จะเริ่มให้เงินเดือนท่านแล้ว แต่ก่อนผมทำงานก็ไม่ได่เงินเยอะ มันไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายออกไป

“เรื่องนี้ผมยังไม่ได้คุยกับซาร่า แต่คงจะมีการเคลียร์กันในอนาคต เราต้องเคลียร์กันเอง เรื่องนี้ผมจะคุยกับซาร่าโดยตรงเอง ขอไม่ตอบผ่านสื่อดีกว่า ผมไม่อยากให้เป็นดราม่าขึ้นมา แม็กซ์เวลโตขึ้นทุกวัน ถ้าวันนึงเขามาเปิดเน็ตย้อนดูว่าพ่อแม่ทำไมถึงตีกันจังเลย อยากให้หยุด อะไรที่จะเป็นดราม่าผมขอไม่ตอบดีกว่า ขอตอบอะไรที่ไม่ทำให้ให้ฝั่งซาร่าเสีย ถ้ามีอะไรผมขอรับไว้เองดีกว่า ถ้าค่าใช้จ่ายไม่พอก็ขอให้มาคุยกัน
ตอนนี้เรื่องที่คุยกับซาร่าล่าสุดมีแต่เรื่องการจัดงานวันเกิดแม็กซ์เวลล์ผมเสนอเข้าไปว่าอยากจัดให้เองเพราะปีนี้ผมอยู่เมืองไทยส่วนเรื่องโรงเรียนก็ยังดูอยู่ ดูไว้หลายที่ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพหมด แนวโน้มน่าจะเรียนในกรุงเทพ ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนอินเตอร์ก็อยากจะให้เขาได้ภาษาไทยด้วย”

 

ถามถึงดราม่าที่มีคนคอมเม้นต์ไอจีซาร่าว่าน้องแม็กซ์เวลล์หน้าเหมือนเพื่อนเขามากกว่าเรา ได้เห็นข่าวไหม “ไม่ได้ดูครับ ไม่ได้เสพสื่อนานแล้ว”

 

พอคนมาทักเรารู้สึกนอยด์ไหม
“เหมือนเวลาคนทักว่าไมค์หน้าเหมือนกอล์ฟ ไม่ซีเรียสครับ เรื่องนี้ผมมองว่าเด็กๆ มากเลย มันมีเรื่องอื่นที่ใหญ่กว่านั้นที่เราจะต้องโฟกัสในการทำงาน การใช้ชีวิตหลายๆ เรื่อง เรื่องนี้ผมไม่โฟกัสหรอกครับ อีกอย่างผมก็ประกาศทั่วโลกว่าเป็นลูกของผมอยู่แล้ว จะหน้าเหมือนใครไม่เป็นไร คนเรามันหน้าเหมือนกันได้ครับ”

เราไม่ได้ติดตามในไอจีของซาร่า
“ผมก็ตามนะ ส่วนใหญ่ผมดูรูป ปกติผมไม่ค่อยไปอ่านคอมเม้นต์ในไอจีใคร นอกจากของกอล์ฟ พิชญะหรือคนที่สนิทครับ”

 

ซาร่าก็ตอบกลับคอมเม้นต์นั้นว่าถ้าเป็นพ่อแม่ก็คงรู้สึกแย่ เหมือนเขาเป็นห่วงความรู้สึกเรา
“อ๋อ อันนี้ผมก็ยังไม่เห็น ไม่รู้เขาตอบว่าอะไร (หัวเราะ)”

 

เวลามีปัญหาเรื่องในโซเชียลฯ ก็ไม่ได้คุยกัน
“ไม่ครับ เขาก็ไม่ได้ปรึกษาผม ผมคิดว่าเขาก็มองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่ได้มาบอกอะไร”

 

คนก็ออกมาปกป้องเราในโซเชียล เราอยากบอกอะไรเขาไหม
“ผมยังไม่เห็นข่าว ยังไม่รู้ว่าเขาออกมาตอบโต้อะไร ถ้าเห็นอะไรแบบนี้ไม่ต้องไปตอบโต้หรอกครับ ปล่อยไว้แล้วให้เงียบไปเอง เดี๋ยวก็หายไปเองครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน