เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ย่านศรีนครินทร์ ‘แพท’ ณปภา ตันตระกูล ดาราสาวชื่อดัง มาร่วมงาน “พาราไดซ์ พาร์ค เอ็ดดูเทนเม้นท์ ออกสำรวจโลกแห่งการเรียนรู้” จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์เรื่อง ‘น้องเรซซิ่ง’ ลูกชายวัย 4 เดือน มีภารกิจถ้าพูดชื่อ ‘เป่าเปา’ ลูกสาวสุดฮอตของสาว กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ได้เมื่อไหร่ กุ๊บกิ๊บกับพิธีกรหนุ่ม วู๊ดดี้-วุฒิธร จะให้ทองคำหนัก 7 บาท พร้อมกับอัพเดตความคืบหน้าเรื่องคดีความ

โดย แพท เผยว่า “เรซซิ่งมี 3 ภารกิจค่ะ ภารกิจแรกถ้าเรียกชื่อ เป่าเปา ได้ พี่วู๊ดดี้กับกุ๊บกิ๊บตอนแรกบอกจะให้ทอง 5 บาท เมื่อวานได้ไปตุ๊ยมาอีก 2 บาท ถ้าเรซซิ่งเรียกเป่าเปาได้ก็จะเป็น 7 บาท ภารกิจที่สองถ้าเรียก พี่มดดำ-คชาภา ได้ จะได้ 1 แสนบาท และภารกิจที่สามถ้าเรียก พี่จ๋า-ยศสินี ได้ ก็จะได้อีก 5 หมื่นบาท แม่ก็ไม่ต้องอำลาวงการแล้ว ส่งลูกเรียกชื่อคนนั่นคนนี้ไปเรื่อย แต่เด็กส่วนใหญ่จะพูดได้ตอนอายุ 1 ขวบ เร็วที่สุดคือ 8 เดือน แต่พี่วู๊ดดี้กับคุณแม่กุ๊บกิ๊บให้เวลาถึง 6 เดือน เดี๋ยวจะต้องไปต่อลองว่าขอยืดเวลาหน่อย ตอนนี้เรซซิ่ง 4 เดือนแล้วมีเวลาอีก 2 เดือน เดี๋ยวต้องลองเทคนิคที่คุณหมอสอนว่าจะได้หรือเปล่า ส่วนพัฒนาการของน้องตอนนี้ก็คอแข็ง เล่นของเล่นหลายๆ อย่างของเด็ก 6 เดือนขึ้นได้แล้ว จับขวดนมเองได้ และเริ่มฟังเรามากขึ้น เวลาเราพูดเขาจะสนใจ อย่างเรียกชื่อเขาจะหันนิดนึง”

แสดงว่าเรซซิ่งพัฒนาการเร็วกว่าเด็กทั่วๆไป
“อาจจะเป็นเพราะเราเลี้ยงเองให้เวลากับเขาค่อนข้างเยอะ เขาก็จะเรียนรู้ได้เร็วมากขึ้น สำหรับเรซซิ่งตอนนี้ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว จะห่วงก็แต่ปาป๊าเขามากกว่า พี่เบนซ์ค่อนข้างคิดถึงลูกมาก สิ่งนึงที่เขากลัวคือ เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ลูกเรียนรู้ ตอนนี้ลูก 4 เดือนแล้ว เด็กก็จะเริ่มจำหน้าพ่อหน้าแม่ เริ่มที่จะออกเสียง ชื่อแรกที่แพทสอนเรซซิ่งเรียกคือ ‘ปาป๊า’ ด้วยซ้ำ ก็อาจจะได้พ่วงกันปาป๊ากับเป่าเปา เวลาที่แพทพูดกับเขาก็จะพูดว่า จำได้ไหมคะ แบบนี้ไงที่ปาป๊าเคยสอน จะไม่ให้เขารู้สึกว่าเราเลี้ยงเขาคนเดียว เขาอาจจะไม่ได้เห็นหน้าปาป๊า แต่ชื่อปาป๊าจะต้องอยู่ในสมองของเขา ไม่ใช่มีแค่มาม๊าคนเดียว”

จะมีพาน้องเรซซิ่งออกงานบ้างไหม
“จริงๆ แพทพาน้องไปทำงานด้วยตลอดอยู่แล้ว เพราะแพทไม่ได้จ้างพี่เลี้ยง แล้วงานเราไม่ได้ทำเช้าเลิกดึกขนาดนั้น งานเราแค่ 3-4 ชม. ถ้าเพื่อนคนไหนว่างก็จะลากมาช่วยดูลูกเราแป๊ปนึง เราก็เลยพาออกไปไหนมาไหนด้วย ถามว่ามีงานติดต่อเรซซิ่งเข้ามาบ้างไหม ก็มีบ้างค่ะ ตอนนี้น้องอาจจะชินกับคนเยอะๆ แต่ยังไม่ชินกับเสียงดังๆ อย่างเวลาไปงานเสียงดังๆ แกจะกรี๊ดแตกมาก ก็อาจจะต้องให้เขาค่อยๆ ปรับตัว เพราะส่วนใหญ่เราเลี้ยงกันอยู่ที่บ้าน”

จากนี้เราต้องรับงานมากขึ้นไหม
“ตอนแรกคิดว่า เราสามารถกลับมารับงานเหมือนเดิมได้ทุกอย่าง แต่พอวันที่เราเลี้ยงลูกเองคนเดียวจริงๆ สุดท้ายมันไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว งานอะไรที่นานมากๆ หรือออกต่างจังหวัด บางทีเงินก็อยากได้งานก็อยากไปนะ แต่เราติดลูกก็ไปไม่ได้จริงๆ นอกจากงานในห้างที่เราสามารถพาลูกมาได้แพทไม่เกี่ยงเลย เลี้ยงลูกคนเดียวมันก็เหนื่อยหน่อยๆ เราฝากใครก็ไม่สบายใจเท่าฝากคนกันเอง แล้วเพื่อนเราก็ไม่ได้ว่าง 24 ชม.ทุกวัน เขาก็มีภารกิจของเขา รวมถึงครอบครัวแพทเราก็แบ่งหน้าที่ให้น้องๆ ช่วยกันดูแลคุณแม่กับพี่สาว ตอนนี้ก็วิ่งสองบ้านเพราะแพทก็อยากให้ลูกอยู่กับคุณย่าและคุณยายด้วย แพท อยากให้เขาใกล้ชิด เวลาคุณย่าเลี้ยงเขาก็จะได้รู้ว่านี่คือคุณย่า อย่างคุณยายแพทจะพาเขาไปป้อนข้าวคุณยายด้วย ให้เขาได้เห็นได้เรียนรู้ว่ามันเป็นหน้าที่นะลูก เป็นสิ่งที่เขาต้องทำและเป็นสิ่งที่ดี”

งานละครก็งดยาวไปเลยใช่ไหม
“งดค่ะ จริงๆ ก็มีบ้างนะคะ แต่เราอาจจะไปรับเชิญได้แบบที่ไม่ต้องใช้คิวเราทั้งวัน ณ ตอนนี้มีละครที่รอออนแอร์อีก 3 เรื่อง ก็คิดว่าการที่เราไม่ได้เล่นละครก็ยังมีงานอื่นๆ อีกไม่ได้จะหายไปเลย คงต้องรอให้เรซซิ่งโตอีกสักพัก ถ้าเกิดมีแนวโน้มอะไรที่ดีขึ้น มีพี่เลี้ยงที่ไว้ใจได้หรือใครที่จะมาช่วยเราแบ่งเบาภาระได้ ก็อาจจะกลับมารับงานละครเร็วขึ้นกว่าเดิม ส่วนงานพิธีกรเรายังทำเหมือนเดิมค่ะ มันง่ายเราเอาลูกไปได้เขามีห้องให้เราอยู่”

มีข่าวว่าวู๊ดดี้ได้ชวนเราไปเป็นพิธีกรร่วมแทนกุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์
“ณ ตอนนี้ด้วยความที่มันเช้ามาก อย่างรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง เขาถามเหมือนกันว่าพร้อมจะกลับไปทำหรือยัง ซึ่งมัน 5 วันแล้วก็เช้าทุกวัน เป็นเวลาที่คุณชายเรซซิ่งเขาตื่นด้วย อย่างแต่ก่อนเราตัวคนเดียวตื่นปุ๊ปวิ่งออกไปทำงานได้เลย ตอนนี้กว่าแพทจะออกจากบ้านได้ ต้องเตรียมนมลูก ที่ปั๊มนม ผ้าอ้อม แพมเพิส สำหรับพี่วู๊ดดี้ถามว่าเขาทามทาบเราไหม ก็ไม่เชิงทาบทามไปแทนกุ๊บกิ๊บหรอก เขาสนใจเรามาก่อนหน้านี้แล้วแหละ แต่ติดอะไรหลายๆ อย่าง ตอนนี้แพทก็ยังทำงานให้กับช่อง 3 อยู่ด้วยค่ะ”

เรื่องคดีความตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว
“ของพี่เบนซ์ต้องบอกว่าเราแยกกัน เพราะเราใช้ทนายความคนละชุด ถือว่าแพทไม่อยากก้าวก่ายแล้วกัน ส่วนของพี่เบนซ์จะเป็นทางครอบครัวดูแล เราก็ยังมีในส่วนของเราที่ยังไม่จบ ทางคุณแม่พี่เบนซ์ก็บอกให้แพทดูแลในส่วนของแพทไป ซึ่งของแพทวันที่ 3 ก.ค.นี้จะต้องไปศาลอีกรอบ พอครบ 4 ฝาก เราต้องไปรายงานตัวกับศาลเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร แล้วก็รอดูว่าศาลจะนัดอีกทีเมื่อไหร่ ถามว่ามีแอบกังวลอะไรไหม มันก็พูดไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าเราต้องกังวลเรื่องไหน เราไม่รู้ว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะไปอยู่ตรงไหน มันก็กังวลไปทุกเรื่อง แต่เราก็ทำหน้าที่ของเราเต็มที่ มีเอกสารอะไรที่หาได้เราก็ให้เขาหมดแล้ว เขาอยากจะรู้อะไร หรืออยากจะเช็คตรงไหนเราให้เขาเช็คหมดเลย ไม่เคยปิดบัง เราทำทุกอย่างตรงหมด ฉะนั้นส่วนที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของทางศาลว่าจะมองเห็นเรื่องนี้เป็นอย่างไร”

หลายคนก็ลุ้นในส่วนคดีของเบนซ์จะมีโอกาสได้ประกันตัวออกมาไหม
“แพทก็ลุ้นค่ะ เราเป็นภรรยาและเป็นแม่ของลูกสิ่งที่ต้องการอยากอยู่เป็นครอบครัว เรื่องผิดถูกตอนนี้ทุกคนตัดสินไปแล้วล่ะ แต่จริงๆ ศาลท่านยังไม่ได้ตัดสินว่าเราผิดหรือถูกอะไรยังไง ซึ่งตรงนี้เราเข้าไปก้าวก่ายหรือทำอะไรไม่ได้ เราก็ได้แค่ลุ้นไปกับทุกคน เราเป็นภรรยาเองก็ลุ้นว่าวันไหนนะ ที่เราจะได้อยู่กันเหมือนเดิมอีกครั้งนึง เราก็ได้แค่ลุ้นไปทุกวัน ลุ้นไปพร้อมๆ กันกับทุกๆ คน

ถามว่าได้ถามทางทนายถึงโอกาสที่พี่เบนซ์จะได้ประกันตัวบ้างไหม อย่างที่บอกมันเป็นในส่วนที่แพทไม่อยากถามทางฝั่งของพี่เบนซ์ เราก็คิดว่าไม่ถามดีซะกว่า เราก็ดูเรื่องของเราและเลี้ยงลูกไปก็จบ ส่วนสภาพจิตใจแพทตอนนี้โอเคมาก แพทพูดกับตัวเองว่าไม่เป็นไร คนเรามันก็ต้องเจออะไรแบบนี้แหละ อาจจะหนักหน่อย แต่เชื่อว่ามีคนที่เจอหนักกว่าแพท เขาก็ยังผ่านกันมาได้ ในวันนี้ที่เราเจอเรื่องนี้ก็ทำให้แพทเข้มแข็งทุกวัน ทำให้แพทมีสติมากขึ้น และวันนี้ที่เราเจอเรื่องหนักหนามาก็ยังมีคนที่เขาอยู่เคียงข้างเรา ยังมีงานให้ทำ ผู้ใหญ่ยังเอ็นดู มันโชคดีมากแล้ว มากกว่าหลายๆ คน ที่เขาเจอเรื่องเหมือนเรา แต่ทางออกเขาออาจจะตันก็ได้ เราก็หวังให้ครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้า เพราะการเลี้ยงลูกคนเดียวมันก็เหนื่อยแต่ไม่ได้เหนื่อยมาก แต่ถ้าได้ช่วยกันเลี้ยงมันก็ดีกว่าค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน