เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ “กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ชี” พร้อมลูกสาว “น้องเป่าเปา” มาร่วมงานแถลงข่าวยากำจัดยุง “คายาริ” ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงงานวันเกิดครบ 1 ขวบที่จัดที่ประเทศจีน พร้อมมีซุปตาร์ไต้หวัน “แวนเนส F4” มาเซอร์ไพรส์ รวมถึงอัพเดตกรณีดราม่ากับนักแสดงรุ่นพี่ “บุ๋ม-ปนัดดา” รับสามีตนใจร้อน เผยเข้าไปขอโทษแล้ว จบด้วยดีและเข้าใจกันมากขึ้น
โดย กุ๊บกิ๊บ เผยว่า “วันเกิดครบ 1 ขวบดีค่ะ มีความสุขได้เจอพ่อ เขาก็แฮปปี้ บี้ก็จัดให้เต็มที่ ของขวัญลูกคือกิ๊บกับบี้ให้เป็นกล่องเพลง เราอยากให้เขาเก็บไว้เป็นกล่องเพลงลูกหมูสามตัว เราให้เขาเก็บไว้เพราะว่ารู้สึกอะไรก็ตามวันนึงวันเวลามันจะหายไป แต่ถ้าเป็นกล่องเพลงเขาจะเก็บไว้ได้ตลอด และเพลงลูกหมูสามตัวเป็นนิทานที่เราเล่าให้เขาฟังเรื่องแรก”
ที่ไปจีนไม่ค่อยได้เจอบี้
“เขาทำงานถ่ายทุกวัน แต่ไม่เจอพ่อ ได้เจอแวนเนส ก็โอเคแล้ว ไม่เจอผัวไม่เป็นไร เจอแวนเนสก็พอ (ยิ้ม) แม่ก็อิจฉาเป่าเปา คือแวนเนสรักเป่าเปามากเลย ใกล้ชิดเหลือเกิน”
พี่แวนเนส F4 มีของขวัญให้ไหม
“มีค่ะ ให้เป็นตุ๊กตาสนูปปี้ และของกินที่เป่าเปาชอบ เป่าเปาก็แฮปปี้ ได้เจอพ่อ ได้ไปเที่ยวนู้นนี้ คือเขาจะกลับไทยคงยาก เราอาจจะต้องบินไปหาแทน แต่บี้น่าจะกลับสิ้นเดือน อยู่ประมาณ 2-3 วันเอง แล้วกลับไป เพราะบี้ตอนนี้เซ็นสัญญายาวอยู่ที่จีนแล้ว”
รอบนี้เราไปจีนมากี่วัน
“7วันค่ะ ส่วนแพลนไปอีกยังไม่รู้เลย ต้องรอเคลียร์งานตรงนี้ก่อน ตอนนี้กิ๊บพยายามเริ่มจะไม่รับงานที่นี่เยอะ ให้เขาได้ไปเจอพ่อบ้าง”
งานพิธีกรคือไม่ได้ทำแล้ว
“ก็ยังมีพอทำบ้างแต่ไม่เยอะ จริงๆ บี้ก็อยากให้เราไปอยู่กับเขาแต่เขากลัวเราจะทิ้งงานที่เรารักหรือเปล่า แต่เราบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวลองดูว่าจะยังไง คือเราจะพยายามคิดถึงลูกให้มากที่สุด เรารู้สึกลูกรักบี้แล้วติดบี้มากเลย ตื่นเช้ามาถามหาพ่อตลอด เราเลยอยากพักงานตรงนี้แล้วบินไป คือยังทำแต่ไม่เยอะมาก”
ถามถึงดราม่ากับพี่บุ๋ม-ปนัดดา
“จริงๆ เราคิดว่ามันจบไปแล้วนะ มันเป็นการเข้าใจผิดกัน จริงๆ เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องดี เพราะสุดท้ายทำให้ทั้งหมดหันหน้ามาคุยกัน เข้าใจกันดีมากขึ้นด้วยซ้ำ ทุกอย่างก็มีบทเรียน แต่สำหรับกิ๊บคือไม่ได้มีปัญหากับใครเลยตั้งแต่แรก”
ตอนเกิดเรื่องจะมีคอมเม้นต์ลบๆ เยอะ เราเครียดไหม
“กิ๊บเคยเจอลบกว่านี้อีก นี้คือธรรมดามาก น่าจะเป็นเรื่องที่เบาที่สุดในชีวิตแล้วมั้ง เราสบายใจแต่แรกไม่ได้เครียดเรื่องพวกนี้เลย แต่เราไม่อยากมีปัญหาผิดใจกับรุ่นพี่ในวงการ เพราะกิ๊บว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ บางทีทำให้คนผิดใจกันได้ แต่กิ๊บรู้ว่าทุกคนมีสิทธิ์จะคอมเม้นต์อะไรก็ได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้เรารู้สึกแปลกที่คนคอมเม้นต์ว่าเด็ก เป็นเรื่องตลกมากที่สังคมเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป ว่าเด็กบ้าง และนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกเราโดน ลูกคนอื่นก็โดน เราก็เคยเห็นมาก่อน รู้ว่าไม่แปลกที่ลูกเราเป็นคนในสื่อ ในสังคมกับเรา ใครอยากจะคิดต่างก็ได้แล้วแต่ อยู่ที่เราจะเลือกเปิดดู เปิดอ่านหรือเปล่า ซึ่งกิ๊บไม่ได้ดูอยู่แล้ว เพราะมันไม่ได้ช่วยสร้างสรรค์อะไรขึ้นมา แต่เราเคารพทุกคอมเม้นต์ และเราก็มีวิธีเลี้ยงลูกในสไตล์เรา”
ตอนนี้เบาแล้วไหม คอมเม้นต์แรงๆ ในไอจี
“เอาจริงๆ ป่ะในไอจีกิ๊บไม่มีนะ กิ๊บว่าอาจจะมีบางโซนที่เราไม่ได้ไปเปิดดู แล้วที่เขาบอกคนอันฟอลโล่ คือก็ยังเห็นเท่าเดิมนะ ไม่ได้รู้สึกว่าลดอะไร และถึงคนจะอันฟอลโล่ก็ไม่เป็นไร เพราะคนที่เขาฟอลโล่เพราะเขาชอบและอยากดู ไม่มีปัญหา อินสตาแกรมไม่ใช่ชีวิตทั้งหมด เป็นแค่งานอดิเรกเราเอาไว้แชร์ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จะเล่นไม่เล่น ปิดไม่ปิด มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น เราเริ่มเล่นตั้งแต่คนฟอลโล่เราไม่กี่ร้อยคน จนตอนนี้มี 5.5 ล้าน เรารู้สึกว่าคนชอบเราเยอะขนาดนี้เลยเหรอ เราไม่ใช่นางเอกดัง แต่คือคนชื่นชอบในไลฟ์สไตล์เรา”
แล้วทางบี้พูดถึงกระแสยังไงบ้าง
“บี้เองก็คงมีคนไปคอมเม้นต์ของเขาบ้าง แต่ถ้าในส่วนของความเป็นสามี ความเป็นพ่อ เขาก็รู้สึกว่าเขาทำหน้าที่ของเขา แต่คนอื่นจะว่าเขา เขาก็น้อมรับสิ่งที่ทำ แต่เพราะเขาอาจจะรู้สึกส่าไม่ควรรีบคอมเม้นต์เกินไป เขาก็เข้าไปขอโทษ ไปคุยกับรุ่นพี่ แต่พอไปอยู่บนโลกออนไลน์มันดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ แต่ข้างในคือไม่ใช่ ทุกคนน่ารักกันมาก”
เคลียร์กับพี่บุ๋มว่ายังไงบ้าง
“ก็โอเคนะคะ พี่เขาน่ารักดี เขาก็เข้าใจในหลายอย่าง คือมันเป็นเหมือนเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า กิ๊บกับพี่บุ๋มไม่มีปัญหากันอยู่แล้ว แต่คือเราก็พาบี้เข้าไปคุย พี่บุ๋มก็รักและเอ็นดูเป่าเปา เราถึงพยายามบอกว่าคนในไม่มีปัญหากันนะ”
“ส่วนเรื่องที่เรียกมัน คือบ้านเราก็เรียกเป่าเปาว่ามัน แต่ที่บี้เขาเข้าใจในบางสถานการณ์ เขาก็คิดไปต่างๆ นานา ด้วยความที่เขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องภาษาไทยมาก ไม่เก่งขนาดนั้น เราก็บอกว่ามันไม่ใช่ เขาเข้าใจผิด เขาก็ขอโทษพี่บุ๋ม”
เจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้เราใจเย็นกับการเล่นโซเชี่ยลไหม
“กิ๊บใจเย็นอยู่แล้ว เราไม่ใช่คนใจร้อน แต่เราแค่บอกบี้ว่า หนึ่งอย่างที่บี้ต้องรู้คือไปเรียนภาษาไทยเพิ่ม นี้คือแค่นั้นที่บอกผัวและต้องอ่านภาษาไทยให้แตกฉาน ไม่ใช่เขามีปัญหาแค่กับพี่บุ๋มตอนนั้น เขามีปัญหากับเราทุกครั้งในการที่เราพูดอะไรก็ตาม เพราะเวลาเขาแปล เขาจะแปลเป็นจีน ความหมายจะเป็นอีกฟิลนึง เราก็บอกเขาว่าให้ใจเย็น ค่อยๆ คิด ซึ่งเขาก็ยอมรับแมนๆ และเขาคงแปลผิดเอง”
แสดงว่าเรื่องภาษามีปัญหากันบ่อย
“โอ้ยปวดหัวมาก ไม่รู้จะคุยกับภาษาอะไรแล้ว แต่เราก็เข้าใจและให้โอกาสเขา ค่อยๆ ปรับกันไป”
แล้วเขาสื่อสารกับลูกภาษา
“จีน เราก็จะไม่เข้าใจ เราคุยภาษาไทยกับอังกฤษ เขาคุยจีนกับลูกเขา เขาเข้าใจกันสองคน รักกันสองคน แต่กิ๊บว่าเรื่องทั้งหมดมันทำให้สอนอะไรหลายอย่าง พอเวลามีปัญหา จากคนที่ไม่เคยคุยกันก็กันหน้ามาคุยกัน เพราะกิ๊บคิดว่าเด็ก จะผิดถูกหรืออะไร เราเข้าไปหาผู้ใหญ่ เข้าไปคุยกัน ไปขอโทษ ผู้ใหญ่ก็น่ารักขอโทษเรา ทั้งที่เขาเป็นผู้ใหญ่ เรารู้สึกว่านี้เป็นเรื่องที่ดีที่สังคมควรจะมี ถอยกันคนละก้าว หันหน้าคุยกัน กลายเป็นว่าเข้าใจกันมากขึ้นกว่าเดิม”
