ชาคริต รับกลัวเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เมียจี้ฟิตหุ่น ตั้งใจปั๊มลูกแฝด

วันที่ 17 มิ.ย. ที่ บริษัท โอไนซ์ (ONICE) วัชรพล นักแสดงหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม ให้สัมภาษณ์ถึง บทบาทใหม่ในฐานะผู้บริหาร ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศรีษะและเส้นผมโอไนซ์ (ONICE) และเผยถึงความสุขของครอบครัวที่ใช้ชีวิตในสวนจันทบุรีช่วงโควิด รวมถึงแง้มให้ฟังกำลังแพลนมีลูกอีกคน

 

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน
พูดถึงธุรกิจใหม่เป็นอย่างไรบ้าง?
“หลังจากที่ทำธุรกิจอาหารที่เราชอบมา ก็เข้าสู่วัยที่เราจะต้องกลับมาดูแลตัวเองแล้ว เริ่มต้นจากที่เรากลับมาออกกำลังกาย ร่างกายแข็งแรงขึ้น อยากจะกลับมาดูแลตัวเองในหลายๆด้าน รวมถึงคุณแอนภรรยาบอกว่า ถ้าคุณจะเข้าไปทำสวนก็ต้องดูแลตัวเองด้วย เพราะจริงๆเส้นผมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ผมจะเป็นคนที่ห่วงเรื่องเส้นผมมากจะไว้ผมยาวมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว อยู่ในวงการมา 20 ปี ก็โดนความร้อนโดนทั้งแว็กซ์รวมถึงบรรพบุรุษทั้งคุณพ่อทั้งคุณตาก็ไม่มีผมหรือเรียกว่าหัวล้าน ผมเองก็เลยกังวล

ที่ผ่านมาช่างผมช่างแต่งหน้าจะรู้ดีว่า เวลาผมไปกอง ผมจะทำผมเองตลอด แล้วก็พยายามหาผลิตภัณฑ์มาดูแลแต่ก็ยังไม่เจอตัวไหนที่ใช้แล้วได้ผล บังเอิญว่าได้ไปรู้จักกับผู้บริหารของ โอไนซ์ ก็เลยมาคุยกันถูกคอก็เลยคุยกันถึงเซรั่มที่ดีมาบำรุงเส้นผม เลยได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสูตร เรียกว่าเป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ เห็นผลกับตัวเราด้วยผมเราแข็งแรงขึ้น เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เคยบวชให้คุณแม่แล้วพอผมกำลังขึ้นแล้วมันเป็นง่าม ก็ตกใจ จากที่เคยล้อคนอื่นมาตลอดสุดท้ายกรรมตามสนอง เลยคิดว่าไม่ได้แล้ว เราต้องหาอะไรมาดูแลและบำรุงดูแลตัวเอง”

ธุรกิจนี้ควบหลายตำแหน่งเลยใช่ไหม?
“หลายตำแหน่งครับ เป็นพรีเซนเตอร์ด้วย ได้ช่วยปรึกษาหารือเรื่องการพัฒนาสูตร แล้วก็เป็นเทสเตอร์จริงๆด้วย”

คาดหวังอย่างไรบ้างกับธุรกิจนี้?
“ก็หวังเต็มที่ เพราะสิ่งที่เราทำก็ทำเต็มที่”

คือก่อนหน้านี้เคยเห็นพี่คริตตอบในรายการหนึ่งว่า เคยอยากคิดจะใช้ยาปลุกผมแต่ว่ากลัวจะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ?
“ครับกลัวครับ อันนั้นกลัวที่สุดครับ(หัวเราะ)”

ช่วงนี้เห็นว่าเข้าไปใช้ชีวิตในสวนเลย?
“ครับ จริงๆค่อนข้างเยอะครับ ต้องบอกเลยว่า ทั้งแดดทั้งเหงื่อ ทั้งใส่หมวก จริงๆคุณแอนเขาคอยจี้ตลอดว่าทำไมเราไม่ทากันแดด เขาก็อยากจะให้เราดูแลผิวพรรณ หลังจากที่ปล่อยปละละเลยมานาน เพราะว่าเราก็ไม่ใช่วัย 30 ตอนนี้ 40 กว่าแล้ว ตอนแรกไม่ยอมรับ ตอนนี้ก็ต้องยอมรับแล้ว เพราะว่ายังไงเราก็ต้องทำงานตรงนี้อยู่ ถ้ามันชะลอได้ทุกอย่างก็คงจะดี กลับมาฟิตเนส กลับมาดูแลเส้นผม กลับมาดูแลทุกอย่างเพื่อให้คงอยู่นานที่สุดครับ”

กลับมาดูแลตัวเองดี เพราะภรรยาเลย?
“ก็ด้วยครับ เพราะว่าเขาก็คอยพูดให้เราเห็นคุณค่าของตัวเองว่าเราต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะเราต้องใช่ร่างกายไปอีกนาน”

ช่วงนี้ถึงไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนบ่อยมากขึ้น?
“ก็ไปตลอดครับ ยิ่งช่วงที่เราล็อคดาวน์กันก็ได้กลับไปบูรณะสวนด้วยตัวเอง เต็มที่มากขึ้น จากที่ตอนแรกคือหนึ่งเดือนไปที สองเดือนไปสองสามครั้ง ให้พี่เขยและญาติญาติดูแล แต่ว่าตอนนี้ก็ได้ลงมือทำเองแบบจริงจัง ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น อยู่กับธรรมชาติไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ไม่ต้องใช้หน้ากาก”

เรียกว่าเป็นชาวสวนเต็มตัว?
“ครับ แต่เราก็จะต้องบอกว่าเป็นมือใหม่หัดขับ เพราะว่าเราชอบธรรมชาติ ศึกษาเองตั้งแต่แรกปลูกต้นกล้า เพราะว่าเราก็อยากจะให้สวนนี้โตขึ้นไปพร้อมกับลูก ประจวบเหมาะกับเราก็พยายามดูแลตัวเองเพื่อที่จะให้อยู่กับลูกและครอบครัวไปนานๆ”

ติดใจฟิลในการทำสวนไหม?
“ชอบอยู่แล้วครับ เพราะจริงๆแล้วผมมีที่อยู่ที่จันทบุรีใกล้ที่ของภรรยา ซื้อมาได้เกือบ 20 ปีแล้ว และบังเอิญได้คุณแอนเป็นภรรยา และคุณแอนอยู่จันทบุรี ก็คงจะต้องเป็นลูกเขยจันทบุรีครับ(หัวเราะ)”

ตั้งใจจะทำอะไรในสวนนี้บ้าง?
“ก็มีสวนทุเรียนที่เรามาเริ่มเรียนรู้ใหม่ และในสวนก็มีผลไม้พันธุ์อื่น ไม่แน่อาจจะทำเป็นรีสอร์ทให้คนเข้ามาเที่ยวชมเที่ยวพักทานผลไม้อะไรแบบนี้ครับ เป็นความฝันแต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรใหญ่โตค่อยคิด ค่อยทำไป”

คิดว่าบั้นปลายชีวิตจะฝากไว้กับสวนนี้เลยไหม?
“จริงๆมันก็เป็นความสุข มันเป็นที่อยู่อาศัยเป็นพื้นที่เลี้ยงชีพเราได้ ทำกินได้ เป็นตรงนี้แหละครับ ถ้านอกเหนือจากบ้านที่กรุงเทพแล้ว”

ลูกชอบมั้ย?
“โห ชอบมาก ตอนนี้อยู่กรุงเทพตื่นมาก็พูดแล้ว ‘จะไปจันบุรี’ สำเนียงนี้ไปทางโน้นหมดแล้วครับ”

แสดงว่าที่ผ่านมาเขาก็ซึมซับไปค่อนข้างเยอะ?
“ใช่ครับ เขาเป็นคนที่ชอบธรรมชาติมาก และธรรมชาติจะช่วยให้เขาเป็นคนไม่กลัวคนอยู่กับใครก็ได้”

ก่อนหน้านี้พี่แอนบอกว่าทำสำเร็จแล้ว มีหลายคนเข้าไปแสดงความยินดี คิดว่าว่ามีลูกคนที่สอง?
“อ๋อไม่ ที่บอกว่าสำเร็จก็คือลงทุเรียนลงต้นไม้ครบเรียบร้อยหมดแล้ว หลาย 100 ต้นนะวันนั้น มีผมและภรรยาทำกันเอง แล้วมีญาติๆมาช่วย เหนื่อยนะ พอเสร็จแล้วก็เลยบอกว่ามันสำเร็จแล้วแบบโทรมๆ”

จริงๆมีแผนไหม?
“มีครับ ก็เลยเรื่อยๆครับ ณ มีเวลาครับ”(หัวเราะ)

หลายคู่มีน้องช่วงโควิด?
“ครับ แต่ในช่วงโควิด เราก็อาจจะไปอยู่ในสวนทำงานหนักซะเยอะ ก็เลยไม่ได้ทำการบ้านเท่าไหร่ แต่ก็ตั้งใจว่าจะธรรมชาติให้ถึงที่สุดก่อน แต่ถ้ามันธรรมชาติสุดๆแล้วยังไม่มาก็อาจจะต้องปรึกษาทางแพทย์ว่าจะไปทางไหนดี”

ให้เวลาเท่าไหร่?
“ที่คิดไว้ จากนี้ไปก็คงไม่เกินปีแล้วอ่ะ ก็ต้องวัดกันนะครับ”(หัวเราะ)

แต่เราก็มั่นใจในศักยภาพของตัวเองใช่ไหม?
“ก็ต้องมั่นใจสิก็ถึงมาทำเซรั่มไง ไม่มีผลต่อศักยภาพทางเพศ”

 

ก็คือจะเอาอีกคนนึงให้ได้?
“ก็ตั้งใจครับเพราะจริงๆแล้วพ่อผมเป็นแฝด แต่ผมและพี่สาวไม่เป็นแฝด แต่ว่าน้องโพธ์มีแฝดแต่ว่าอีกคนนึงหลุดไปในท้อง คุณหมอเลยบอกว่าท้องที่สองก็น่าจะมีโอกาสเป็นแฝดได้ และถ้าท้องสองเป็นแฝดก็น่าจะติดทั้งคู่ แล้วแต่ธรรมชาติที่จะให้มา”

ลึกๆอยากให้แฝด?
“ก็ได้ก็ดีทีเดียวก็จบ เพราะอยากจะให้คุณแอนเขาท้องแค่สองครั้งพอ จะสองคนหรือกลายเป็นสามก็โอเค ก็ตอนแรกยังคิดเลยว่าถ้าน้องโพธิ์มาทั้งสองคน ซนขนาดนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ แต่ว่าเขารอดมาคนเดียวก็ไม่เป็นอะไร มีเขาคนเดียวก็สุขแบบเต็มเปี่ยมแล้ว ”

พี่แอนไม่มีปัญหาสุขภาพอะไรใช่ไหมหลังจากที่ลูกหลุด?
“ไม่มี ไม่มีปัญหาสุขภาพ คือเรื่องของเรื่องเนี่ยตอนที่เป็นไข่อยู่ ไข่ของน้องโพธิ์เขาแข็งแรง จนไข่เขาเบียดอีกไข่นึงมันฝ่อไป ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้มีชีพจร การเจริญเติบโตของเซลล์น้องโพธิ์ เขาโตเร็วกว่าก็เลยพลังเยอะอย่างที่เห็น”

 

ความคาดหวังของพี่คริตอยากจะให้ท้องสองเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายดี?
“ก็ได้ผู้ชายมาแล้ว ถ้าได้ผู้หญิงมาอีกคนก็จะดี แต่ถ้าได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงมาก็ดีครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ข้างบนตัดสิน(ยิ้ม)”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน