ณวัฒน์ แจงยิบ สาเหตุย้ายเวทีมิสแกรนด์ฯ ไปช่อง ONE31

วันที่ 19 มิ.ย. ที่ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ผู้บริหารชื่อดัง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องที่ เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ย้ายมาอยู่ช่องวัน 31 พร้อมกันนี้ยังเปิดใจถึงประเด็นดราม่ากับช่อง 7

ณวัฒน์

ได้บ้านใหม่

โดย ณวัฒน์ เผยว่า
“ผมยังขอบคุณทางช่อง7 ทางช่องเป็นอะไรที่งดงามเราอยู่มาก็มีความอุ่นใจในระดับหนึ่ง ปัญหาไม่ได้เกิดจากที่ช่องเลยปัญหาเกิดจากผู้บริหารท่านนี้เท่านั้น ซึ่งเป็นคนที่ใหม่สำหรับวงการบันเทิง ถือว่าเป็นรุ่นน้องของผม แล้วกันถ้านับจากการทำงานในวงการบันเทิง เขาอยู่แค่ 7ปี

แต่ผมอยู่มา 20 ปีในวงการบันเทิง แต่ในเมื่อเขาไม่แชร์ มันก็ไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ในวงการบันเทิง แล้วการบริหารโดยที่ไม่มีหลักการที่ถูกต้อง แล้วก็ไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนอย่างคำว่า ใช้ไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร แค่บอกว่ามันใช้ไม่ได้เพราะอะไร เพราะอ้วนหรือ มันหน้าไม่สวย มันเล่นไม่ได้

ก็ยังตอบไม่ได้ ไม่มีออร่า คำนี้ใครๆก็พูดได้ ผมก็พูดได้ ท่านก็ไม่มีออร่าเหมือนกัน นอกจากท่านไม่มีออร่าแล้ว ท่านยังไม่มีความรู้ด้วย ใครๆก็พูดได้ ดังนั้นเวลาจะพูดอะไรต้องนึกถึงด้วยว่าอะไรคือเหตุผลมา ซัพพอร์ทคำพูด อย่างผมว่าท่านไม่มีความรู้ ผมก็พูดได้ เพราะท่านบอกว่าชุดประจำชาติขอนแก่นไม่ควรเป็นชุดไดโนเสาร์

ณวัฒน์

ณวัฒน์

เพราะท่านไม่รู้ว่าไดโนเสาร์เป็นสัญลักษณ์ของขอนแก่น อันนี้คือคนไม่มีความรู้ คำพูดทุกอย่างเราต้องตรวจสอบด้วยตัวเราเอง พูดไปแล้วมีคนได้คนเสีย มีผู้ใหญ่ฟังแล้วมันไปเกิดผลกับคนอื่น มันไม่แฟร์กับคนอื่น ยุคนี้มันหมดแล้วครับ ยิ่งเราหลังจากโควิด ยุคนิวนอร์มอล ช่องไหนยังยืนอยู่กับที่ แน่นอนครับ ป่าเป็นที่พึ่งสุดท้ายแน่นอน”

การมีปัญหากับช่องเดิมมันส่งผลกระทบกับการทำงานกับช่องใหม่หรือเปล่า?
“ไม่มี คนเราการมีปัญหาไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นคาแรกเตอร์ของเรา ไม่อย่างนั้นจะมีกระบวนการศาลใหญ่โตได้อย่างไร ต้องวิเคราะห์ให้ดี การที่มีปัญหา มันเป็นกระบวนการดำเนินชีวิต ขัดเกลาในสิ่งที่เหมาะสม ดังนั้นคนที่ไม่เคยมีปัญหาคือคนที่ไม่เคยทำงาน แต่ผมทำงานเยอะ นานๆจะมีปัญหาสักครั้งหนึ่ง คงไม่แปลก ที่สำคัญคู่ชกหรือคู่ที่มีปัญหาสำหรับผมมันก็เหมาะสม อยู่ดีๆใครจะหาปัญหามาใส่ตัว”

ทางช่องไม่ได้ลงมาช่วยไกล่เกลี่ยในกรณีที่เกิดขึ้น?
“เหมือนช่วยไกล่เกลี่ย พนักงานในช่อง ก็ยังส่งแมสเสจมาบอกว่าให้กำลังใจนะ มีโทรคุยกันอยู่บอกว่าเข้าใจนะ การทำงานผมว่า ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็แล้วแต่ ไม่ได้พูดถึงที่นี้นะ สมมุตว่าถ้าเกิดพนักงานทนอยู่เพราะไม่อยากตกงาน แต่ไม่มีความสุขกับการบริหารจัดการ พนักงานอยู่ในลูปความกลัว การถูกกดดันเกินไป เราเห็นตัวอย่างเยอะ มันมีตัวอย่างให้เห็น ไม่เปิดโอกาสให้คนช่วยคิด ผมบอกตรงๆ ว่าการทำงานแบบนี้มันไม่ได้ผ่านความคิดร่วมกัน บางทีก็สงสารน้องๆ ที่ทำงานอยู่ เรารู้จักกันเยอะ รู้ว่าต้องอดทนแค่ไหน เราก็ให้กำลังใจน้องๆ กันไป”

ถามถึงเรื่องที่ ช่อง 7 บล็อกหนังเรื่อง “รักข้ามคาน”?
“อย่าเรียกว่าบล็อก ต้องเรียกว่าทางช่องแจ้งทางเอ็มพิกเจอร์สมาว่า สกู๊ป และวัตถุดิบที่ต้องเข้าสู่ระบบการพีอาร์ เพราะว่าเอ็มพิกเจอร์ส มันเป็นแพ็คกับทีนี่ ว่าถ้าเราเซ็นสัญญา แล้วเขาจะให้ผลประโยชน์อย่างไร แล้วเราจะได้อะไรบ้าง ซื้อเป็นแพ็ค เพราะฉะนั้นนี่คือส่วนหนึ่งที่เราต้องได้ แล้วเราก็เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย พร้อมทำพีอาร์ได้เลย ว่าต้องตัดความยาวเท่าไหร่ มีรายการพิเศษด้วยนะ มีหลังผู้ประกาศ มีสกู๊ป ทุกอย่าง ก็เซอร์ไพรส์นิดๆ ตอนที่เอ็มพิกเจอร์สมาบอกว่าทางโน้นบอกว่า อย่าเพิ่งส่งอะไรมา จนกว่าบอร์ดจะอนุมัติว่าให้ทำงานอันนี้”

แบบนี้ถือว่าผิดสัญญาหรือเปล่า?
“ผมก็ไม่มันใจใจว่าธรรมชาติของที่นั้นหรือเปล่า เลยต้องไปลงลึกในเรื่องของเงื่อนไข ไปถามเพื่อนที่ทำหนังมาก่อน แล้วก็ไปแอบถามคนในช่องมาอีก คนที่เกี่ยวข้อง เอาให้ชัด เวลาทำงานผมต้องมีที่อ้างอิง เพราะว่าผมจะไม่พูดอะไรที่ผมไม่รู้ ได้ทราบมาว่าทุกคนได้ได้มีเงื่อนไขนี้ แล้วก็ไม่มีบอร์ด คำว่าบอร์ดคืออะไร ถ้าคำว่าบอร์ดของบริษัท ไม่มีครับ วาระพวกนี้ไม่มีปรากฏ เพราะนี้คือลูกค้า เราไม่ได้ไปทำอะไร นี้คือรายรับของสถานี
แต่ถ้าเกิดเป็นบอร์ดที่คิดกันเอง อาจจะมี ผมอยากจะแกล้งคุณ ผมไม่อยากให้ใส่เสื้อมีดอกมาเลย ก็ให้คนโน้นคนนี้มาเป็นบอร์ดให้หน่อย ไม่อยากให้คนใส่เสื้อมีดอก อยากได้คนใส่เสื้อสีนี้ เอาบอร์ดไม่อนุมัตินะคะ ก็ได้ครับ แต่อันนี้คือบอร์ดหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่คนที่ใหญ่ที่สุดในบอร์ดก็คือคนนั้น ตอนนี้ก็รอเหตุผล อย่าเรียกว่าบล็อก เขาแค่ใช้เวลาวิเคราะห์อยู่ หนังฉากวันที่ 16 มิ.ย. เขาจะอนุมิติวันที่ 16 มิ.ย. เลยก็ได้”

มีมาตราการอย่างไร ถ้าเขาไม่ทำการโปรโมทให้?
“นั้นซิ เราก็รอฟังอยู่ว่าเมื่อไหร่บอร์ดจะอนุมัตครับ เราก็ถามและรออยู่ ไม่เป็นไรครับ อยากให้คนที่ทราบข่าว ไปให้กำลังใจ รักข้ามคาน เพราะว่าพระเอกก็เป็นเด็กในช่อง และก็หวังว่าเราจะช่วยกันพัฒนาบุคลากร และช่วยพัฒนาการท่องเที่ยว ส่งเสริมคนให้มีชีวิตชีวา และก็ส่งเสริมเชียงคาน จนถึงน่าน ให้กลับมามีชีวิตหลังโควิด

แต่ถ้าผู้บริหารของช่อง เอาช่องมาอ้าง และเหมือนไม่มีใจให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังโควิด ไม่ช่วยประเทศ ไม่ช่วยการท่องเที่ยว ไม่ช่วยคนตลอดเส้นทางจากเชียงคาน มาถึงน่าน ให้กลับมามีชีวิต มันก็จะมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าช่องไม่ดีนะ เพราะผู้บริหารท่านนี้จะยืนพิงคำว่าช่องเสมอ ผมบอกทุกคนอยู่เสมอว่าอย่าไปโทษช่อง เป็นเพียงการตัดสินใจของบุคลากร เพราะฉะนั้นเราต้องไปแก้เรื่องของบุคลากร

ต้องฝากทางช่องด้วย ไม่ว่าช่องจะทำให้ไม่ทำให้ ผมก็ไม่รู้จะไปเอาอะไร ช่อง 7 เป็นช่องที่ดีอยู่แล้ว อันนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำ ทุกวันนี้ผมยังติดต่อเพื่อนฝูงที่เป็นคนมีความตั้งใจ และดีมากยังมีความสุข แต่เขาก็ต้องต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับผมคนเดียว”

มันสร้างความเสียหายกับเราแค่ไหน?
“เรื่องเสียหายผมไม่ค่อยกลัวครับ ผมรู้สึกว่าผมได้เข้าใจคน คนหนึ่งมากขึ้น จากการที่เข้าใจแล้วก็ยังเข้าใจไปอีก มันก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ ว่าเป็นอย่างนี้นี่เอง เพราะฉะนั้นผมก็รู้สึกว่าถ้าใครเห็นผมเป็นตัวอย่าง ดาราหลายๆ คนก็มาอินบ็อกซ์บอกว่าดีใจจังที่พี่ณวัฒน์พูดแบบนี้

ทำให้หลายๆ คนกล้าที่จะลุกขึ้นยืนบ้าง เอาเป็นว่าถ้าเกิดใครเป็นนักธุรกิจ ใครจะทำหนัง ทำอะไรก็แล้วแต่ คุณก็ดูให้ดีว่าคุณอยากไปอยู่กับใคร สนับสนุนกับใคร แล้วต่างจังหวัดมันคือลมหายใจของประเทศ ถ้าเกิดผู้บริหารจากช่องนี้ไม่สนับสนุน ต่อไปเราก็ไม่ต้องดูช่องนี้เนอะ ก็แค่นั้นเองครับ

เพราะว่าผลประโยชน์ต่างตอบแทน ก็แค่นั้นเอง ไม่ให้ใจมาก็ไม่ต้องทำไป ก็ไม่เป็นไรผมไม่ได้ว่าอะไร ถามว่าเสียดายมั้ย ไม่ได้เสียดาย เสียผลประโยชน์มั้ย ไม่เสียผลประโยชน์นะ แต่รู้จักคนมากขึ้น ก็อยากให้ทุกคนได้รู้จักด้วยนะครับ (ยิ้ม)”

คิดว่าจุดไหนที่ทำให้เขาไม่พอใจในตัวเรา?
“การที่เป็นคนไม่รู้และมาจัดการบางเรื่อง และการจัดการนี้เป็นการจัดการต่อหน้าคนเยอะๆ แล้วมันไม่ใช่”

เรียกว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกันไหม?
“ในสิ่งที่เขาพูดมันไม่ใช่น่ะ เราใส่เสื้อลายดอกมา แต่คุณบอกว่าใส่เสื้อดำสีเดียวเลย ถ้าอย่างนั้นก็อาจจะถูกใจ แต่ผมว่ามันไม่ใช่ครับ ดูดีๆ สิครับมันมีดอกเยอะมากเลย เขาก็บอกนั่นแหละแต่ดอกมันก็ดำ ดูแล้วดำทั้งตัว ก็จะไปอย่างนี้ ผมว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม แล้วคนที่แอบหัวเราะ แอบงงไม่ใช่ผมคนเดียวนะ พนักงานทุกคนก็งงนะครับ

ผมมั่นใจเลยว่าพนักงานหมู่มาก อยู่เพราะไม่อยากตกงาน เพื่อนผมก็บอกอย่างนี้ครับ อยากมีเงินเดือนก็เลยไม่กล้า เลยเป็นแผลกดทับกันทั้งหมดนะครับ ผมว่าหลังจากนี้มีแต่ วัน ดีกว่า มันเป็นอะไรที่เราเปิดศักราชกันใหม่เนอะ คนดูทางบ้านทุกคนก็ดูรายการบันเทิง ดูละคร ดูประกวด ดูอะไรที่เขาแชร์ๆ กัน เขาให้เกียรติกัน เขาแบ่งปันความคิด

ที่นี่ผมเพิ่งรู้นะว่าละครทุกเรื่องไม่ว่าคุณจะใหญ่แค่ไหนมาจากไหน ไม่ใช่คุณจะเป็นนางเอกมาแล้ว พระเอกมาแล้ว ทุกเรื่องต้องออดิชั่น แต่ว่าที่นั่นไม่ใช่ออดิชั่น แต่เป็นออดิชั่น”

แต่นักแสดงของเราอยู่ที่นั่นเยอะกลัวไหม?
“ไม่กลัวครับ เพราะการที่เรากลัวคนแล้วเราต้องก้มให้คน แบบไม่มีเหตุและไม่มีผล ไม่เคยเกิดขึ้นกับความรู้สึกของเรา ผมไม่กลัวครับ น้องๆ จะไปกลัวทำไมเมื่อมีผมเป็นผู้นำ ไม่ต้องกลัว เพราะคุณมีคุณค่า ที่ไหนก็รับคุณ อย่าไปกลัว ปล่อยให้สิ่งที่ไม่มีคุณค่าอยู่กันไป ไม่เป็นไรครับ

ตอนนี้มาเจอพี่ธงชัย ประสงค์สันติ ก็แฮปปี้ ลูกพี่ธงก็คิดถึงพี่ธง พี่ธงก็คิดถึงลูกๆ เยอะ วิกฤติคือโอกาสนะ ใหม่ ดาวิกา ก็มีอีกหลายคนนะเยอะไปหมด ไม่อยากจะพูดนะ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนกอย่างเนี้ย นี่คือวิกฤติ
แต่ถ้าเขาอยู่อย่างนั้นเขาจะไม่ได้อะไร เขาจะต้องวิ่งไปวิ่งมาเหมือนเดิมครับ ทุกคนวิกฤติคือโอกาส เพราะฉะนั้นมาพิสูจน์โอกาสว่าคุณคือใคร มีความสามารถแค่ไหน อย่าปล่อยให้ความกดทับของคนบางคนปิดโอกาสของคุณชั่วชีวิต เพราะโอกาสของคุณมีเพียงแค่แป๊บเดียว ถ้าคุณขึ้นแล้วขึ้นเลย

ถ้าคุณถูกบัง คุณก็จะหายไปเลยตลอดชีวิต คิดให้ได้ และตอนนี้ก็อยากเชิญทุกท่านมาดูช่อง one กันนะครับ เพราะว่าตรงจริตมิสแกรนด์มาก รายการแรกที่อยากไปออกคือเทยเที่ยวไทย ตรงจริตมาก อย่าให้ใครว่านะว่าดูละครแล้วเชย ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนเป็นคนทันสมัย อย่าให้ใครเขามาว่าทำไมดูละครข่องนี้มันเหมือนเชย อย่าดู มาดูช่องวันทันสมัยกว่าเยอะครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน