คิง สมจริง เล่าประสบการณ์ทำงาน เติม ชนินทร พร้อมเผยถึง ผลงานชิ้นเด่น

คิง สมจริง – จากการสูญเสียคนสำคัญของวงการบันเทิง ผู้กำกับช่อง 3 ชื่อดัง เติม ชนินทร ประเสริฐประศาสน์ อายุ 49 ปี ที่ลาจากโลกไปเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการจัดงานฌาปนกิจที่ วัดอุทัยธาราม ถนน กำแพงเพชร๗ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง โดยในงานได้มีผู้กำกับ คิง สมจริง ศรีสุภาพ มาร่วมงาน จึงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงอาการป่วย และผลงานเด่นของ ของ เติม ชนินทร

คิงกับพี่เติมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมครับ โรงเรียนวัดบวรนิเวศน์ ตั้งแต่ม.ศ.1 เลย แต่พี่เติมเป็นรุ่นพี่ พี่เติมเขาม.ศ.2 เราก็เรียนตามกันมา แต่ตอนอยู่บวรเราไม่ได้สนิทกันนะครับ จนกระทั่งเรามาเจอกันอีกทีที่นิเทศศาสตร์จุฬาฯ มาสนิทกันตอนนั้นครับ เพราะว่าพี่เติมเขาเป็นคนชอบดูหนัง เราก็ชอบดูหนัง แล้วเวลาที่เราไปดูหนังด้วยกัน เราก็จะได้ความรู้จากเขา คือเขาเป็นคนที่ชอบคิดวิเคราะห์คาแร็กเตอร์ หรือเรื่องราว บางทีเรามาท้าวความกัน ว่าเหตุผลของตัวละครทำไมมันถึงมาตรงนี้ ก็ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการดูหนังกัน ก็สนิทกัน คุยมาตลอดครับ ถือว่าสนิทมากครับ”

คิง สมจริง

คิง สมจริง

เจอพี่เติมครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

“ล่าสุดอาทิตย์ที่แล้วเราโทร.คุยกัน เพราะพี่เติมบอกว่ามากินข้าวกัน เราก็จะโทรไปก่อนว่าว่างหรือเปล่าครับพี่เติม ถ้าว่างก็เดี๋ยวเจอกัน แต่พอดีตอนช่วงบ่ายพี่เขาไม่ว่าง ก็เลยไม่ได้เจอกันครับ”

ที่โทร.คุยกันวันนั้นมันมีสัญญาณอะไรบ้างไหม

“พี่เติมเขาก็จะท้อนะครับ ความที่คนเราพอเป็นโรค พี่เติมก็จะเหนื่อย บางทีคุยกันนานหน่อย เม้าท์ๆ ก็จะเหนื่อย เราก็จะบอกว่าไปพักได้แล้ว คุณหอบแล้ว

เขามีปรึกษาเรื่องสุขภาพกับเราบ้างไหม

“ก็ทราบมาตลอดครับ เพราะเขาก็เล่าให้ฟังตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเวลาที่ไปโรงพยาบาล ก็มีบ้างที่เราว่างเราก็ไปหาครับ

เราได้ให้กำลังใจเขาอย่างไรบ้าง ในการต่อสู้กับโรคต่างๆ

“ให้ตลอดเลยครับ มีวันหนึ่งพี่เติมท้อมากๆ พอดีเราเรียนไลฟ์โค้ชมา ก็โค้ชพี่เติม ก็บอกคุณลองโค้ชดูไหม ก็เลยโค้ชกัน จริงๆ ก็เป็นแบบเพื่อนๆ เพียงแต่เราก็ใช่วิธีโค้ชสร้างกำลังใจให้เขา ให้เขามีแรงสู้ต่อ เพราะพี่เติมเขาท้อมาก อาจจะเพราะเขาเป็นคนคนขยัน เขาทำงานตลอด เขาเป็นคนที่ใส่ใจกับงานทำงานมากๆ ละเอียดมากๆ ลึกซึ้งกับบทมากๆ ล่าสุดเราก็ส่งนิยายไปให้เรื่องหนึ่ง ก็เห็นว่าพี่เติมออกกำกับไม่ได้แล้ว เลยส่งไปให้ลองอ่านดู เผื่อชอบ จะได้เขียนบท ไม่มีอะไรทำจะได้ไม่เบื่อ คือเราก็พยายามให้กำลังใจ ให้แอคทิวิตี้ ให้พี่เติมไม่ว่าง

คิง สมจริง

ผลงานทางช่อง 3

คือตอนนี้พี่เติมทำงานไม่ได้แล้ว หรืออย่างไร

เป็นช่วงแรงเงา2 ครับ ตอนนั้นพี่เติมก็จะค่อนข้างไม่สบายมากช่วงนั้นแหละครับ”

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ละครแรงเงา2 ส่งผลต่อสภาพจิตใจไหม

เราว่ามันต้องมีอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นเราก็ให้กำลังใจกัน บอกพี่เติม เราก็เคยโดนด่า มีบางคนก็บอกว่าให้ออกจากวงการไปเลย มันก็ธรรมดาแหละพี่เติม ช่องเขายังไม่ให้เราออกเลย เราก็พูดให้ขำๆ พยายามมองในมุมที่ไม่ให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ทางโซเชียลว่ามามันกระทบจิตใจเขา”

ที่ผ่านมาพี่เติมมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง

โรคหัวใจครับ ครั้งหนึ่งตอนสมัยแรกๆ เลย เขาทำบอลลูนที่โรงพยาบาลกรุงเทพ 10 กว่าปีแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่มีอย่างอื่นเลยครับ

ช่วงแรงเงา2 ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง

ใช่ครับ ก็คือเกี่ยวกับทางโรคหัวใจครับ เราก็ไม่ได้รู้ละเอียด แต่พี่เติมเขาเหนื่อยง่าย เนื่องจากหัวใจสูบฉีดไม่สะดวกอะไรประมาณนี้ เขาก็เล่าให้ฟัง ที่ผ่านมาเขาก็รักษาตัวเองมาตลอดครับ

เมื่อคืนเราได้รับทราบเหตุตอนไหน

“เมื่อวานเราก็อยู่บ้านทั้งวัน แล้วเราก็ไม่ได้เป็นคนเล่นโทรศัพท์ ก็จะได้ข่าวพี่เติมตอนประมาณ 2 ทุ่ม น้องที่คณะนิเทศโทรมาบอก ตอนนั้นข่าวก็เริ่มออกแล้วครับ”

ตอนที่ทราบข่าวเป็นอย่างไรบ้าง

“ก็คิดว่าไม่น่าเนอะ แต่ก็เคารพการตัดสินใจ (ร้องไห้) พี่เติมคงทำดีทำดีที่สุดแล้วครับ

ผลงานชิ้นไหนที่เราคิดว่าเป็นที่สุดของพี่เติม ที่ทำให้คนจดจำ

“(เสียงสั่น) พี่เติมทำกับเราตั้งแต่เรื่องแรกเลย ตั้งแต่เรียนจบกันมา เป็นเด็กมีความฝัน ทำเรื่องรักแรกอุ้ม แล้วก็เป็นพริกขี้หนูกับหมูแฮม กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้ แต่งานที่เป็นหนังแล้วดังที่สุดก็คือกลิ้ง แล้วก็พริกขี้หนูกับหมูแฮม ที่คนดูก็ยังรักกันอยู่จนทุกวันนี้

คิง สมจริง

กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้

ทางครอบครัวเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้น่าจะเกิดจากปัญหาสุขภาพอย่างเดียว

“ก็คงอย่างนั้นละครับ ไม่มีสาเหตุอื่นครับ

แนวคิดของพี่เติมคืออยากจะทำให้วงการหนังมีความแตกต่างเฟื่องฟู

“ครับ ก็ตอนที่เราทำรักแรกอุ้มกัน ก็เป็นเหมือนหนังอินดี้เลยนะตอนนั้น ต้นทุนน้อยมากล้านกว่าบาทครับ แล้วก็ฉายที่สยาม ก็ได้รับความนิยมพอสมควร แล้วก็มาพริกขี้หนูกับหมูแฮม ซึ่งอันนี้มันก็คือความสามารถของพี่เติมล้วนๆ แหละ กับการถ่ายทอดที่ว่าจะทำเป็นยังไงมันมันทัชกับคนดู ให้คนดูรัก ให้เป็นที่จดจำของคนดูจนถึงทุกวันนี้”

คิง สมจริง

พริกขี้หนูกับหมูแฮม

พี่เติมมีความตั้งอยากจะทำอะไรที่บอกกับเราไว้ไหม

“พี่เติมเขาเป็นคนที่สนุกนะครับ คิดพล็อตอะไรก็จะสนุกหมดเลย คือเขาไม่ได้มีความทะเยอทะยานว่าจะทำอะไรที่สูงส่ง เพียงแต่ว่าพี่เติมทำแล้วมันประสบความสำเร็จในงานชิ้นนั้น พี่เติมเป็นคนอย่างนั้นครับ”

ความฝันของพี่เติมที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำยังมีอีกไหม จากที่เคยได้คุยกัน

พอพี่เติมป่วย ความฝันมันก็หายลงไป เพราะคนเราก็คงรู้สึกกับจิตใจตัวเอง ก็เลยไม่ได้คุยกันเรื่องความฝัน แต่ที่รู้มาตลอด ก็คือเวลาพี่เติมทำงานอะไรสักชิ้น ที่เติมทำอย่างเต็มที่ เขาเป็นคนที่ไม่มีอีโก้ ขอเปลี่ยนเขาก็เปลี่ยนให้ ไม่ใช่ว่าเขียนบทแล้วขอปรับขอเปลี่ยนแล้วไม่ยอม คุยกันด้วยเหตุผลครับ”

ความประทับใจที่เรามีต่อพี่เติมคือ

“เขาเป็นยิ่งกว่าพี่อีกนะ สำหรับเรา (ร้องไห้) เป็นกัลยาณมิตร เป็นครู เป็นเพื่อน เป็นบัดดี้ เป็นคนที่ส่งให้เราสูงขึ้นไปครับ”

วันนี้อยากบอกอะไรกับพี่เติมเป็นครั้งสุดท้ายไหม

“ก็วันนี้ก็สบายแล้วครับ พี่เติมก็ไม่เหนื่อยแล้วเนอะ ได้พัก ได้มีความสุข ก็คงมีความสุขในโลกของเขาแล้วล่ะ”

มีการคุยกับเพื่อนๆ ในวงการไหม ว่าจะทำอะไรให้พี่เติมไหมหลังจากนี้

“ยังไม่ได้คุยเลยครับ เพราะวันนี้ก็ฉุกละหุกมากๆ ทุกอย่างมากันแบบปาฏิหาริย์มาก วันนี้ที่งานเสร็จลงอะครับ”

คิง สมจริง

กัลยาณมิตรที่ดี

ให้กำลังใจครอบครัวอย่างไรบ้าง

“กับครอบครัวก็จะมีพี่แต้วครับ พี่แต้วพี่สาวพี่เติมครับ ซึ่งก็รู้จักกันมานาน เราก็เคยไปบ้านพี่เติมตั้งแต่เด็กๆ ไปนอนไปเม้าต์กัน เช่าวีดีโอไปนั่งดูกัน เพื่อที่จะหาพล็อต หาเรื่องที่จะทำหนังกัน”

หลังจากนี้จะมีกำหนดการอะไรบ้าง

สวด 3 วันนะครับ วันนี้ก็มีรดน้ำศพ 15.00 น. สวด 17.00 น. ครับ แล้วก็พักไว้ 2 วัน เผาวันเสาร์ 15.00 น. ครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม : กลั้นน้ำตาไม่อยู่ คิง สมจริง เผย เติม ชนินทร เคยขออโหสิกรรมไว้นานแล้ว

ขอบคุณรูปภาพ : somching

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน