กัน นภัทร จับมือ มารี เริ่มต้นใหม่ รับนอยด์ครอบครัวโดนโจมตีหนัก

วันที่ 24 มิ.ย. ที่ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมคอนราด แบงคอก นักร้องหนุ่ม กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ให้สัมภาษณ์หลังจบงานเปิดตัวโครงการ “New Gen Hug บ้านเกิด” เปิดใจถึงกระแสข่าวเลิกรากับนางเอกสาว มารี เบรินเนอร์

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ถามถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นถึงรักสะดุด?

“คือเป็นเรื่องมีปัญหากันระหว่างผมกับมารี ในการคบกันผมเชื่อว่าน่าจะเป็นปัญหาของทุกคนที่มีชีวิตคู่ อาจจะมีปัญหาไม่เข้าใจกันบ้าง ทำให้เกิดปัญหาในวงกว้าง คนรอบข้างด้วย ซึ่งก็ได้รับผลกระทบจากคนข้างนอกที่เข้ามาหาครอบครัวเราเยอะเหมือนกัน

จริงๆ คือแค่งอนกัน?

“จริงๆ แล้วก็ยอมรับว่าเรามีโอกาสได้พูดคุยตกลงกัน ตอนแรกจะมีการถอยคนละก้าว จากปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยเราสองคนนี่ล่ะที่ไม่เข้าใจกันและกัน เลยคุยกันว่าเราจะลองลดสถานะลง พอมันเกิดฟีดแบ็กจากการที่น้องลบรูปในไอจี เลยทำให้คนไปตีความว่าเลิกกันแล้ว ใส่เยอะมาก มีข้อความคอมเมนต์รุนแรงมากๆ ถึงตัวผมและครอบครัวผม ว่าฝั่งครอบครัวผู้ชายรึเปล่าที่เป็นต้นเหตุ

“ผมก็ต้องบอกเลยว่าเป็นปัญหาของผมกับมารีสองคน ครอบครัวของผมไม่เคยไม่ต้อนรับเขาเลย แล้วก็มีโอกาสไปเที่ยวกัน แต่เราสองคนมีปัญหากันจริงๆ พอเกิดปัญหานี้ขึ้นเราก็มีโอกาสได้มานั่งคุยกัน เราไม่ได้ขาดการติดต่อกัน คุยกันเหมือนเดิม ว่าเราลองปรับกันมั้ย คุยกันมั้ย”

“ช่วงที่ผมหายไปเป็นช่วงที่เราตัดสินใจก่อน เราพยายามแก้ปัญหาที่มันเกิดขึ้นระหว่างเราให้มันลงตัวที่สุด เราไม่อยากออกมาพูดอะไรเร็วๆ เพราะเราไม่รู้ว่าถ้าเราพูดออกไปมันใช่คำตอบที่เราต้องการรึยัง เลยลองแก้ปัญหาเองให้จบก่อน เลยออกมาบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เรายอมรับว่าถอยคนละก้าวจริงๆ แต่วันนี้เราก็พยายามลองสู้กันใหม่ ลองเริ่มต้นใหม่ให้ดีที่สุดก่อน

ตอนนั้นมีข่าวลือว่ากันมีคนอื่น?

“ไม่มีครับ โอเค ภาพผมที่ผ่านมาๆ อาจจะเป็นอย่างที่คนมองว่าเจ้าชู้บ้างอะไรบ้าง แต่กับคนนี้ กับมารี ผมไม่เคยคิดมีคนอื่นเลย ไม่เคยคิดนอกใจ นี่จะเป็นปัญหาเดียวที่จะไม่เกิดขึ้นในช่วงที่เราคบกัน ผมตั้งใจมากๆ ไม่ใช่ปัญหานี้ ไม่ใช่เรื่องของการมีคนอื่นแน่นอน”

พอไม่ได้ออกมาตอบ คนเลยถล่มเราและครอบครัว รู้สึกอย่างไรบ้างเพราะพี่สาวเราก็ออกมาปกป้องครอบครัว?

“รู้สึกดาวน์นิดหน่อย จริงๆ ผมอาจจะเจอเรื่องนี้มาเยอะนะ กับการเลิกกับใครก็มีคนถล่ม แต่ครั้งนี้ค่อนข้างหนักมากๆ แล้วไม่ใช่ผมคนเดียว แต่ลามไปถึงครอบครัวผมที่เขาไม่ได้พร้อมจะมารับเรื่องอะไรพวกนี้ได้ บางคนต่อว่าไปถึงแม่ และอีกครอบครัวของผมด้วย

“อยากชี้แจงว่า ครอบครัวผมรักทุกคนที่ผมรักอยู่แล้ว ไม่มีการต่อต้านหรือไม่ต้อนรับอะไรทั้งสิ้น มันคือปัญหาของผมกับมารีเท่านั้นจริงๆ อย่างพี่สาวผมที่เขาโพสต์ออกไป ผมก็ต้องขอโทษแฟนๆคนอื่นด้วยที่เขามีการตีความที่ผิดไป

“คำว่า คนนอกรั้ว เขาหมายถึงคนที่ไม่เคยรู้จักผมจริงๆ และเอาแต่ว่าผมเอาแต่ด่าผมมาถึงครอบครัว หมายถึงแค่พวกนั้น แต่ว่าคนที่รักผมติดตามผลงานผมที่ไม่ใช่แฟนคลับ เขาก็ยังต้อนรับและผมก็ขอบคุณมากๆ ที่เขาให้กำลังใจผมเสมอ”

ตอนนั้นคุยกันในครอบครัวอย่างไรบ้าง?

“นั่งคุยกันเลยครับว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี ว่าถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้ไปต่อด้วยกัน มันก็ต้องมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เรื่องของกระแสต่างๆที่ จะเข้ามาหาเรา แต่ว่าเราก็ต้องยอมรับให้ได้ครับ เพราะมันคือชีวิตของเรา เราต้องยอมรับกับคนข้างนอกที่ไม่ได้เข้าใจเราจริงๆ ก็ต้องทนให้ได้ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน”

“ผมโอเคเพราะผมผ่านเหตุการณ์นี้มาเยอะ แต่ครอบครัวผมไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ แล้วพอมันเข้ามาเยอะๆ แม่ผมก็เครียด พ่อก็เครียด อยากบอกทุกคนว่าจะว่าอะไรก็ว่ามาที่ผมคนเดียว ไม่อยากให้ลามไปถึงครอบครัวผม”

เห็นว่าตอนนั้นนอยด์มากที่เห็นคุณแม่เศร้า?

“ใช่ครับ ผมยอมรับว่ามีนอยด์มากๆ ไปพักนึงที่เห็นครอบครัวผมแอบเศร้า แอบไม่สบายใจ กลับไปบ้านก็ไม่ค่อยคุยกัน ทุกคนจะนิ่งๆ ผมก็พยายามบอกเขาว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปแม่ เราก็รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เราเป็นยังไง คนที่รู้จักเราจริงๆ รู้ว่าเราเป็นยังไงก็พอแล้ว”

ส่วนตัวเราโดนอะไรไม่เป็นไร แต่ห่วงคนรอบข้างที่โดนไปด้วย?

“เราเป็นอะไรมั้ย…ก็เป็นนะ”

สภาพจิตใจตอนนั้นเป็นยังไง?

“ยอมรับว่าก็มีดาวน์บ้าง เพราะผมอ่านเยอะมาก แต่หลังๆ พยายามเลือกข้อความที่เขาเตือนเรา ติเราในมุมที่เราไม่ดีจริงๆ อันไหนที่มันเกินความพอดีเราก็พยายามตัดทิ้งไป แต่ค่อนข้างหนักไปที่ครอบครัว เราเป็นห่วงครอบครัวมากกว่า ทั้งครอบครัวจริงๆ และครอบครัวแม่บุญธรรมของผมด้วยที่เขามาเจอเหตุการณ์แบบนี้

ช่วงนั้นมีเพลงปล่อยออกมา คนมองว่าเลิกกันโปรโมตเพลงหรือเปล่า?

“ไม่ใช่ครับ คือเพลง “มาลี” ที่ปล่อยออกมาตอนนั้น เราทำกันมานานแล้ว ทำตอนที่ยังดีกันอยู่เลย แต่งเพลงขึ้นมาในรายการโต๊ะแชร์ ของน้องตั้ม น้องโดม แต่จังหวะที่ปล่อยเพลง เป็นจังหวะฟลุกพอดีที่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนเลยไปตีความว่าเฮ้ย! ปล่อยเพลง โปรโมตเพลง ทำให้มีกระแสโปรโมตเพลงรึเปล่า จริงๆ แล้วไม่ใช่”

จุดที่ทำให้กลับมารักกันอีกครั้งหนึ่งคืออะไร?

“เรามานั่งคุยกันก่อน มานั่งแก้ปัญหากันว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่ดี อะไรที่เป็นสิ่งที่ไม่ดีของแต่ละคน เราจะปรับให้กันได้มั้ย เราจะลองสู้กันอีกครั้งมั้ย ตกลงกันว่าเราก็ลองสู้กันอีกครั้งหนึ่ง เลยกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”

กลับมาแล้วดีกว่าเดิมไหม?

ดีกว่าเดิมครับ แต่ว่าเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก พยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องดีมากขนาดไหน เราพยายามปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่เราไม่ดี สิ่งที่พยายามทำให้ดีขึ้นก็เต็มที่กับมัน ถ้าวันหนึ่งมันจะไม่ใช่ก็ต้องยอมรับมัน

กลัวไหมว่าถ้าวันหนึ่งมีปัญหากันอีกครั้ง สังคมก็ต้องจับตามองอีก?

“กลัวไหม ตอนนี้ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วครับ ผมเชื่อว่านี่เป็นกระสบการณ์หนึ่งที่เราเจอกันมา ผมก็พยายามบอกว่าถ้าเกิดว่าวันหนึ่งมันไม่ใช่ก็ไม่ได้อยากให้โซเชียลขนาดนี้ คงตัดสินใจด้วยกันสองคน แค่นั้น เพราะมันส่งผลลามไปถึงคนอื่นเยอะ”

อยากบอกอะไรกับคนที่ไม่เข้าใจความรักของเราแล้วอาจจะโจมตี?

“ผมเข้าใจว่าคนหลายๆ คนอาจจะไม่ได้เข้าใจความรักระหว่างเราสองคน หรือไม่ได้เข้าใจในการกระทำของเราหรือของผมก็ไม่เป็นไรครับ ทุกคนไม่ได้รู้จักผมเสมอไป แต่ก็อยากบอกว่าอยากให้ทุกคนลองเข้าใจในสิ่งที่มันเกิด ผมก็เป็นคนๆ หนึ่ง มีความรู้สึก เสียใจเป็น น้อยใจเป็น อยากให้ทุกคนที่จะพิมพ์อะไร ไม่ใช่แค่ตัวผมคนเดียว”

“ตอนนี้เวลาพิมพ์อะไรไปมันมีคนที่ได้รับผลกระทบจากกระแสเยอะ คนบางคนเขาไม่ได้แข็งแรงพอ อย่างครอบครัวผมเขาได้รับผลกระทบและยังคิดมากอยู่ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนคิดนิดหนึ่งก่อนจะพิมพ์ถึงใคร หรือจะว่าใคร เพราะมันมีผลกับเขาเยอะ”

“แต่ก็ขอบคุณทุกกำลังใจมากกว่าที่ยังคงเข้าใจผม เข้าใจน้องอยู่ อยากให้สนับสนุนผลงานต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุดทุกเรื่อง เรื่องความรัก เรื่องการงานต่างๆ”

ตอนนี้ยังเรียกแฟนเหมือนเดิม?

“เหมือนเดิมครับ เรียกแฟนเหมือนเดิม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน