เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ในเพจเฟซบุ๊กของ Arunsak Ongla-or อรุณศักดิ์ อ่องละออ โพสต์ข้อความระบุว่า อดีตมือกลองวงคาราบาว “เป้า”อำนาจ ลูกจันทร์ เสียชีวิตแล้ว ขณะอายุ 68 ปี

ข้อความเขียนว่า “แล้วน้าเป้า อำนาจ ลูกจันทร์ มือกลองคาราบาวก็จากพวกเราไป ขอบคุณความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน ได้โทรคุยครั้งสุดท้ายเมื่อหลายเดือนก่อน คิดถึงวันกินนอนถ่ายหนังด้วยกัน”เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ” วันนั้น หลับให้สบายนะครับพี่ ชาตินี้ จะไม่ลืม R.I.P.
แปลกมาก วันนี้ผมอยากกินปลากระป๋องมากมายเกินเหตุ แบบต้องแวะเข้าซื้อในเซเว่นให้ได้ กินแบบไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย พอกินเสร็จ ก็เจอข่าวจากชัยยุทธ์ แห่ง CARABAO.NET ว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง น้าเป้าจากพวกเราไปแล้ว เมื่อตอนห้าทุ่มกว่าๆ
จำได้ว่าในหนังเสียงเพลงแห่งเสรีภาพ ผมเขียนบทให้น้าเป้า สะสมปลากระป๋องแล้วถูกน้าหมู พงษ์เทพษ์ ขโมยไป มันเกี่ยวกันไหมครับ สู่สวรรค์นะครับน้าเป้า… น้องตั๊กเองครับ”

 

จากข้อมูลของวิกิพีเดีย อำนาจ ลูกจันทร์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เป้า คาราบาว เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2492 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นอดีตมือกลองของวงคาราบาว โดยเป็นมือกลองคนแรกของวง และเคยออกอัลบั้มเพลงร่วมกับเทียรี่ เมฆวัฒนา

จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนพระโขนง (ปัจจุบันคือโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย) จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ และเริ่มต้นชีวิตนักดนตรีครั้งแรกด้วยการรับราชการในกองดุริยางค์ทหารเรือ ได้รับยศ จ่าเอก (จ.อ.) มีหน้าที่สอนดนตรีประเภทเครื่องตี และใช้เวลาว่างจากรับราชการมาเล่นตามคลับและบาร์ต่างๆ ในเวลากลางคืน

นอกจากนี้ช่วงบ่ายยังเป็นนักดนตรีเล่นแบ็กอัพในห้องอัดเสียงต่างๆ โดยเริ่มเล่นแนวป๊อปแจ๊ซ และฟิวชั่นแจ๊ซ ซึ่งนับว่าเป็นนักดนตรีคนหนึ่งในแนวฟิวชั่นแจ๊ซรุ่นบุกเบิกของไทย

 

อำนาจ ลูกจันทร์ เข้าร่วมวงคาราบาว ในฐานะมือกลองและเพอร์คัสชั่นในปี พ.ศ. 2526 ในชุด ท.ทหารอดทน อันเป็นอัลบั้มชุดที่ 4 ของคาราบาว พร้อมกับ เทียรี่ เมฆวัฒนา, อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และ ไพรัช เพิ่มฉลาด ซึ่งเป็นเพื่อนนักดนตรีร่วมห้องอัดเดียวกัน

จากนั้นออกจากราชการทหารเรืออย่างเต็มตัว พร้อมกับสร้างชื่อเสียงให้กับวงคาราบาวอย่างมากในฐานะมือกลอง จากความสำเร็จของอัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์ ทำยอดขายได้ถึง 5,000,000 ตลับ ซึ่งเป็นยอดขายอัลบั้มที่สูงที่สุดในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ได้เล่นคอนเสิร์ตใหญ่ของวงหลายครั้ง เช่น คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย ที่สนามกีฬาเวโลโดรม หัวหมาก ต้นปี พ.ศ. 2528 มีผู้ชมมากกว่า 60,000 คน โดยเป้าโซโล่กลองเพลง ท.ทหารอดทน เพื่อเปิดคอนเสิร์ต, คอนเสิร์ตรับใช้ชาติ ที่สวนสยาม ซึ่งเป็นภาคต่อของคอนเสิร์ตทำโดยคนไทย และยังได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย

บทบาทของเป้าในวง คือ การเป็นมือกลองและเพอร์คัสชั่น โดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียง เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวงที่ไม่เคยร้องเพลง หรือร้องประสานเสียงเลยแม้แต่เพลงเดียว


ปีพ.ศ. 2533 เป้า พร้อมกับเทียรี่ และอ.ธนิสร์ ได้แยกออกมาจากวงหลังออกอัลบั้มชุดที่ 9 ทับหลัง และต่อมาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิตของพวกตน ชื่อชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ ซึ่งเป้าทำหน้าที่ตีกลองและเพอร์คัสชั่นโดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียงอีกเช่นเคย แต่ได้แต่งเพลงไว้หนึ่งเพลงในอัลบั้มคือเพลง ศึกบางระจัน

ปี พ.ศ. 2541 มีผลงานเดี่ยวของตัวเองครั้งแรก ชื่อชุด นักร้องจำเป็น ร่วมกับวงการบูร และต่อมามีกิจการส่วนตัวคือ ผลิตเพอร์คัสชั่นจำหน่าย ยี่ห้อ Pearl และเปิดโรงเรียนสอนดนตรีที่บ้านของตนเอง เน้นเครื่องดนตรีประเภทตีและประกอบจังหวะ และยังมาร่วมงานกับคาราบาวเป็นประจำเมื่อมีคอนเสิร์ตครั้งสำคัญๆ

เดือนมกราคม พ.ศ. 2551 เป้าป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดหมอนรองกระดูกต้นคอและทำบอลลูนหัวใจ ทำให้แขนไม่มีแรงพอที่จะตีกลองได้หนักๆ เหมือนเก่า และมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากแยกออกมาอยู่ลำพังเพียงคนเดียว แต่ยังได้รับเชิญไปเป็นนักดนตรีพิเศษเล่นในกรณีสำคัญต่างๆ และเป็นอาจารย์พิเศษทางสถาบันดนตรีบางแห่ง
เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เป้าเข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และทำบอลลูนหัวใจที่โรงพยาบาลตากสิน ทำให้ไม่สามารถเดินได้เหมือนปกติ โดยต้องนั่งบนรถเข็นและหากยืนนานๆ ต้องใช้ไม้เท้าช่วย ทำให้ไม่สามารถเล่นดนตรีได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน