วันที่ 15 ส.ค. สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่าศาลตัดสินให้นักร้องสาวคนดัง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ชนะคดีลวนลาม ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างเธอกับ เดวิด มุลเลอร์ อดีตดีเจ.ที่ฟ้องร้องว่า สวิฟต์ เข้าใจผิดและกล่าวหาว่าเขาจับก้นเธอจนเป็นเหตุทำให้เขาต้องถูกไล่ออกจากงาน
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2556 ระหว่างการโปรโมตคอนเสิร์ต เรด ทัวร์ ของนักร้องคนดัง โดย สวิฟต์ ให้การว่า มุลเลอร์ ล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงและจับก้นเธอระหว่างการถ่ายรูปที่จัดขึ้นในเดนเวอร์ โคโลราโด สหรัฐอเมริกา
ในตอนนั้น มุลเลอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นดีเจ.ประจำสถานีวิทยุไคโก ได้ถูกเชื้อเชิญให้มาทำความรู้จักรวมทั้งถ่ายรูปร่วมเฟรมกับนักร้องสาวคนดัง
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นนักร้องสาวได้แจ้งไปทางสถานี ซึ่งทำให้ มุลเลอร์ ถูกไล่ออกจากงานสองวันหลังจากนั้น และเป็นเหตุให้อดีตดีเจ.เริ่มต้นฟ้องร้อง สวิฟต์
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกร็ก เด็นต์ อดีตบอดี้การ์ดของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้ขึ้นให้การในศาล พร้อมระบุว่าเขาเห็นอดีตดีเจ.ล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงของเธอ “ผมไม่เห็นว่าเขาแตะต้องตัวเธอ แต่เห็นว่ามือของเขาล้วงเข้าไปใต้กระโปรงของเธอ”
ซึ่งก่อนหน้า มุลเลอร์ เคยให้การไว้ว่าเขาเพียงแค่จับตัว จับสีข้างของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เท่านั้น
เทย์เลอร์ สวิฟต์ ชนะคดีและกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี เพราะเธอเรียกร้องเงินค่าเสียหายเพียงแค่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น
ซึ่งภายหลังการตัดสิน ได้มีแถลงการณ์จากทางนักร้องสาวคนดังออกมาว่า “ความหวังของฉันก็คือจะได้ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับเหยื่อ เสียงของพวกเขาควรจะได้ยิน สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาควรมีคนได้รับรู้ ในอนาคตอันใกล้ฉันจะบริจาคเงินให้กับหลากหลายองค์กรที่ช่วยเหลือในเรื่องของผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ”
