วันที่ 16 ส.ค. ที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา นางเอกคนสวย ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานแถลงข่าวละครโรแมนติกคอมเมดี้ “เธอคือพรหมลิขิต” ถึงเรื่องควงหนุ่ม เคน-ภูภูมิ เข้าพบผู้ใหญ่ช่อง 3 ว่า ใช่ค่ะ ไปมาเมื่อวาน เข้าไปสวัสดีในฐานะที่เราเคยร่วมงานช่อง 3 พบ พี่หน่อง-อรุโณชา ด้วยค่ะ
หลายคนคาดเดาว่าอาจจะมีละครหรือเปล่า
ยังค่ะ ยังไม่ได้คุยเรื่องละครหรือเรื่องงาน เข้าไปเยี่ยมเยียนและสวัสดีแค่นั้น
การกลับไปครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพราะเหมือนก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะมาคุ
ไม่คุนะ (หัวเราะ) กลับไปก็รู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเราไปสวัสดี ดีใจที่ได้กลับไปอีกครั้ง ไม่มีพูดกันเรื่องงานเลย เราตั้งใจเข้าไปสวัสดีจริงๆ
ผู้ใหญ่ก็แซวเรื่องความรักว่าคู่เราหวานมดขึ้น
พี่เคนชอบชวนคุย คงคุยกันแล้วผู้ใหญ่อาจจะเห็น เลยแซวนิดหน่อยแบบขำๆกัน
จะมีโอกาสเล่นละครคู่ เคน-ภูภูมิ ทางช่อง 3 มั้ย
ไม่รู้เลยจริงๆค่ะ แต่ถ้าทางผู้ใหญ่ใจดีมอบโอกาสให้ก็ยินดี เราก็อยากร่วมงานด้วยกับหลายๆที่ ถือเป็นอีกประสบการณ์ที่ดีค่ะ
แต่มีน้อยคนที่ออกมาแล้วจะได้กลับเข้าไปอีก
หนูว่าโลกทัศน์มันเปิดกว้างขึ้น นักแสดงหลายๆคนก็เป็นอิสระกันมากขึ้น หลายๆคนสลับกันเล่นสลับที่กัน มันทำให้วงการเรามีอะไรที่แปลกใหม่มากขึ้น ได้เห็นคู่ที่หลากหลาย ดีที่หลายคนเปิดรับสิ่งใหม่ๆค่ะ
ร่วมงานครั้งแรกกับ บี้-สุกฤษฎิ์ ในละคร “เธอคือพรหมลิขิต” ซึ่งผู้กำกับการันตีว่าเคมีจิ้นของคู่พระนางมาแรงมาก
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ยังไม่เห็น แต่หลายคนที่เช็กเทปก็บอกว่าน่ารัก ด้วยบทมันน่ารักอยู่แล้ว พอเรามาเล่นเข้าคู่กันกับพี่บี้ อาจจะเป็นอะไรที่ใหม่ ไม่เคยเล่นคู่กันมาก่อนค่ะ
ตอนถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง
เหนื่อยมากค่ะ ไปถ่ายทำที่สิงคโปร์ด้วย ไปเกาะสีชัง อยู่บนเรือ 7 วัน บนเรือมันก็โคลงเคลง เราก็มึนคลื่น มันหนักพอสมควร นักแสดงแต่ละคนก็เต็มที่มากๆ ทีมผู้กำกับก็คนเดิม เอสเจอพี่หวอ (วรวิทย์ ขัตติยโยธิน) มา 3 เรื่องแล้ว
ในฐานะนักแสดงเราว่าเคมีเราเข้ากันกับบี้ไหม
หนูเล่นแล้วรู้สึกว่าการรับส่งมันเข้าใจกัน พี่บี้เขาฟังสิ่งที่เราพูดแล้วส่งกลับมา จึงทำให้เรารู้สึก ถามว่าจะเป็นคู่จิ้นได้ไหม ให้คนดูตัดสินดีกว่า
เหมือนจะปั้นเรากับบี้เพื่อลบภาพคู่จิ้นคนเก่า (ฌอห์ณ จินดาโชติ)
ไม่นะคะ เราอย่าดูที่ว่าคู่จิ้นหรือไม่คู่จิ้นเลย อยากให้ดูที่ผลงานการแสดงมากกว่า
ฉากเลิฟซีนได้คุยกับ เคน-ภูภูมิ บ้างไหม
ไม่ได้คุยค่ะ เราจะไม่ได้คุยเรื่องงานกันเท่าไหร่ เจอกันส่วนมากจะถามแค่ว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยก็พัก จะถามกันแบบนี้มากกว่า