หัวอกคนเป็นพ่อสุขล้น ชาคริต ภูมิใจในตัวลูก น้องโพธิ์ เข้าเรียนเปิดโลกกว้างตามวัย

ได้ไปใช้ชีวิตในโรงเรียนแล้วเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับ น้องโพธิ์ วัย 2 ขวบ ลูกชายสุดที่รักของนักแสดงหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม และภรรยาสาว แอน ภัททิรา ซึ่งนับว่าเป็นความตื่นเต้นไม่น้อยของคุณพ่อคุณแม่ และลูกชายกับการเข้าเรียน Bromsgrove International School ระดับอินเตอร์

เมื่อ 6 ก.ย.63 ชาคริต แย้มนาม มาร่วมงาน บวงสรวงอัญเชิญไอ้ไข่ เจดีย์ จากวัดสระสี่มุม อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ขนาดเท่าองค์จริง ณ วัดทุ่งเศรษฐี ราม 2 กรุงเทพฯ ได้เปิดใจถึงความรู้สึกของพ่อแม่ที่ไปส่งลูกเข้าโรงเรียน

น้องโพธิ์ไปโรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง?

“ก็เป็นไปด้วยความราบรื่นครับ ยิ้มแย้ม ก็เริ่มจะมีเพื่อน เริ่มจำชื่อเพื่อนได้ แต่พอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือสัปดาห์ที่สองก็ได้ไปแค่วันเดียวเพราะว่าวันอังคารน้องจะมีไข้ เพราะอากาศมันเปลี่ยน เลยให้หยุดไป เดี๋ยวค่อยเริ่มใหม่วันจันทร์นี้”

ก่อนเข้าโรงเรียนมีกังวลอะไรไหม?

“ไม่มีครับ เพราะว่าโรงเรียนเองก็ดูแลอย่างดี มีการจัดการในเรื่องของความปลอดภัยและดูแลน้องๆแต่ละคนดีครับ แล้วก็ต้องขอบคุณคุณแม่เขาด้วยที่สอนให้เขาใส่แมสและอยู่กับแมสได้ทั้งวัน”

หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ห่างลูก?

“ผมว่ามันก็ถึงจุดที่เขาจะต้องไปซึมซับความรู้จากครูแล้ว เพราะว่าเขาก็จะเริ่มชินกับพ่อแม่ มันถึงจุดที่ว่าจะมีอะไรให้เขาเรียนรู้อีกไหม มันก็เลยจะต้องเป็นการที่จะต้องไปเล่าเรียนจากครูบาอาจารย์และเราเองก็เอาโจทย์จากครูบาอาจารย์มาพัฒนาต่อกับลูก”

แต่เราก็เตรียมใจไว้แล้วแหละ?

“ใช่ เพราะกรอบการอยู่ในบ้านมันก็มีกรอบอยู่แค่นั้น เพราะว่ามันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องเปิดโลกกว้างตามวัยของเขา”

ลูกไม่ห่วงพ่อแม่เลย เดินเข้าโรงเรียนไป?

“โอ้ย หันกลับมาสักนิดนึงก็ไม่มี(หัวเราะ) แต่มีวันสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ เราไปส่งเขาแล้วจะรีบไปทำงานต่อ เราก็บอกบ๊ายบายลูกลูกก็ทำหน้าแบบ..(หน้าเหมือนจะร้องไห้) นิดนึงก็มีอยู่ เราก็ว่าแบบ.. เออ มันก็ต้องรักพ่อมันบ้างแหละวะ(หัวเราะ)”

ตลอดหนึ่งอาทิตย์บ้านเราเห่อมากไปตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เปิดเลย?

“ใช่ครับ แต่ก็ไปถึงตรงเวลา เพราะว่าโรงเรียนเขาก็จะเปิดประตูให้ตรงเวลาเพราะว่าเขาจะมี แก๊ปเวลาให้เพียงเท่านี้ 15 นาทีที่พ่อแม่จะต้องไปส่งถึงหน้าห้อง ส่งเสร็จก็ออกเลย ปล่อยให้เด็กคุ้นชินอยู่กับคุณครู อยู่ที่ห้องเรียน”

มีแบบแอบดูที่รั้วบ้างไหม?

“ก็มีคุณแม่เขาวันแรก ก็ภูมิใจแหละว่าเขามาถึงจุดนี้ เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งของพ่อแม่ อีกสเต็ปหนึ่งของการดูแลลูกที่จะต้องตื่นมาพาลูกไปโรงเรียน มันก็เป็นสิ่งที่ดี

น้องเขาเล่าอะไรให้ฟังบ้างไหมว่าไปโรงเรียนแล้วเป็นยังไงบ้าง ?

“ก็ยังไม่มีอะไรมาก เขาก็บอกว่าแค่เล่นสี วาดรูปคัลเลอร์ อะไรแบบนี้ ก็จะเริ่มเป็นภาษาอังกฤษนิดๆ เพราะว่าอยู่ที่บ้านเราเน้นให้เขาพูดภาษาไทยให้มากที่สุด เพราะว่าโรงเรียนเป็นอินเตอร์อยู่แล้ว คือยังไงภาษาเขาก็ได้ ช่วงนี้เป็นสัปดาห์ก็ต้องเรียนไปเรื่อยก็น่าจะสนุก”

คือพี่คริตจะเน้นเรื่องภาษาอยากให้เขาได้ภาษา?

“ก็ได้ภาษาที่สองด้วย แต่ยังไงก็แล้วแต่ จะไม่ให้ลืมภาษาไทย ก็อ่านเขียนได้ต้องให้เก่งกว่าพ่อพูดง่ายง่าย”

แอบมีความยากไหม ภาษากับเด็กวัยนี้?

“คือชอบดีที่โรงเรียนนี้ให้ความสำคัญกับภาษาไทยถึงจะเป็นนานาชาติก็จริง ซึ่งแม้แต่เข้าเตรียมอนุบาล ก็สอนภาษาไทยแล้ว สอนกันอาทิตย์ละห้าคาบเลยทีเดียว”

ล่าสุดก็เหมือนหากิจกรรมเพิ่มให้ลูกเหมือนกันเล่นเปียโน?

“ครับ ใช่ครับ ซื้อมาไว้ก่อนพอดีมีเปียโนที่ดี พี่แนะนำมา ก็เลยคว้าไว้ก่อน และพอถึงเวลาที่เขามีความนิ่งกว่านี้ก็จะเริ่มหากิจกรรมให้เขากลับมาบ้าน ก็จะได้มีความสนุกได้สานต่อความรู้เพิ่มเติม ถ้าโชคดีเป็นกิจกรรมที่เขาชอบ แต่ถ้าไม่ชอบก็เรียนเอง(หัวเราะ)”

ทำไมมันจะต้องเป็นเปียโน?

“คือมันเสียโอกาสที่แม่จะให้เราเรียนตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วคืออยากมาเล่นตอนโต (ก็เลยให้ลูกสานต่อให้?) ใช่ก็เราอาจจะได้เรียนพร้อมลูกด้วย ก็หวังไว้ว่าลูกจะชอบ หวังไว้ยังงั้นครับผม”

ขอบคุณรูปภาพ : shahkrit

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน