พ่อรอง ตื้นตัน มีแต่คนรักแม่ทุม รับอยู่คนเดียวไม่ไหว น้ำตาไหล คิดถึงภรรยาคู่ชีวิต

วันที่ 8 ก.ย. ที่ศาลาพ่วงจินดา วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (บางเขน) สถานที่ประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพ นักแสดงอาวุโสชื่อดัง แม่ทุม กาณฏ์มณี (ชื่อเดิมปทุมวดี) เค้ามูลคดี ที่จากไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 02.25 น. ของเช้ามืดวันที่ 7 ก.ย. หลังเข้ารักษาอาการป่วยจากโรคไทรอยด์เป็นพิษและโรค ALS หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ในวัย 72 ปี ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โดยมีครอบครัว พ่อรอง เค้ามูลคดี สามีคู่ชีวิต และ ยุ้ย ปัทมวรรณ บุตรสาว และคนใกล้ชิดอยู่เคียงข้างจนวินาทีสุดท้ายก่อนสิ้นลม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาสวดอภิธรรมในวันนี้ เป็นคืนที่2 โดยมีพ่อรอง เค้ามูลคดี และยุ้ย ปัทมวรรณ ยืนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานอยู่บริเวณด้านหน้าศาลา โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น

สำหรับวันนี้ทางเจ้าภาพได้ย้ายหีบบรรจุร่างแม่ทุม จากศาลา 2 มาตั้งที่ศาลาพ่วงจินดา ที่มีพื้นที่ภายในศาลาและบริเวณด้านนอกโอ่โถงใหญ่กว่าศาลาเดิม เพื่อไว้สำหรับต้อนรับแขกที่มาร่วมฟังสวดอภิธรรมในคืนถัดไป

มีนักแสดงและคนในวงการบันเทิง ดาราอาวุโสต่างทยอยเดินทางร่วมไว้อาลัย อาทิ มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, ต๊ะ บอยสเก๊าท์, ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, ดวงดาว จารุจินดา, จ๋า ยศสินี, โย่ง เชิญยิ้ม, วิยะดา อุมารินทร์, แม่สีดา พัวพิมล, อรอนงค์ ปัญญาวงศ์, เจี๊ยบ ปวีณา, ดวงใจ หทัยกาญจน์, โจ้ สุธีศักดิ์, แอนนา ชวนชื่น, ตุ๊ก ดวงตา, นีโน่ เมทินี, เอ ศุภชัย เป็นต้น

บรรยากาศภายในศาลา มีการแสดงดนตรีเพื่อให้เสียงเพลงคลอบรรยากาศ ไม่ให้เงียบเหงาจนเกินไป เมื่อมีเสียงดนตรีก็ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นมากขึ้น

ก่อนเริ่มสวดอภิธรรม พ่อรอง ได้เปิดใจถึงความคิดถึง แม่ทุม ภรรยาคู่ชีวิตว่า “เมื่อวานไม่ไหวมันเร็วไป ตั้งสติไม่ทัน วันนี้ก็ยังดีที่เจอพวกลูกๆหลานๆน้องๆก็ยังพอทำให้หัวเราะได้บ้าง แต่ก็จะเริ่มเครียด เพราะอย่างศาลาเมื่อวานที่ว่ายังไม่พอ ก็ย้ายมาศาลาใหญ่สุดก็ยังไม่พออีก ต้องใช้เก้าอี้เสริม ต้องบอกว่าอันนี้เป็นคุณงามความดีของคุณปทุมที่เขาทำไว้ คนรักเขาเยอะ เรายังอิจฉาเลยว่าวันที่เราตายจะมีใครที่รักเราบ้าง

“อยู่ต่อหน้าคนมันก็ได้หัวเราะ แต่พอกลับไปบ้านอยู่คนเดียว น้ำตาจะไหลตลอด อย่างเมื่อวานนี้ก็ไหล ตอนลูกเอารูปมาวางให้ดู บอกเป็นรูปที่แม่วาดมาให้พ่อ พ่อจะเอาไว้ตรงไหน พูดเพียงแค่นั้น น้ำตาไหลเลย เห็นไม่ได้เลย ไม่รู้ที่ผ่านมาใช้ชีวิตผิดหรือถูกเพราะว่าไปไหนไม่ห่างกัน ตัวติดกันตลอด นอนก็ต้องเอามือจับกัน ก็เรียกว่าเป็นการใช้ชีวิตผิดเหมือนกัน พออีกคนจากไป เราอยู่คนเดียวไม่ไหวเลย

“เมื่อวานตอนรดน้ำศพก็ลงไปหอมแก้มเขา แล้วกระซิบข้างหูว่า..แม่สัญญากับพ่อว่าจะไม่ทิ้งกัน แล้วแม่ทิ้งพ่อทำไม..หากถามว่าเมื่อคืนมีอะไรผิดปกติไหมไม่มีเลย แม่ไม่ยอมมาหาแต่ถ้ามาหาพ่อจะถามแม่ว่าขอสามตัวตรงๆ(ยิ้ม)”

“ตอนนี้เริ่มเบื่อ เวลาเราออกเดินก็ต้องมีการถามว่าพ่อจะไปไหน พ่อนั่งก่อน แล้วเราพอเราจะกินอันนี้ ก็ทักอีกว่าพ่อเขาห้ามกินอันนี้นะ ก็เลยบอกว่าเธอปล่อยฉันบ้างได้ไหม ก็อย่างว่าตอนนี้ไม่มีใครให้ห่วงแล้ว เมื่อก่อนห่วงแม่ แต่พอแม่ไม่อยู่ก็ห่วงพ่อคนเดียวเลย ”

“ส่วนเรื่องการสร้างกำลังใจตัวเองบอกเลยว่ามันทำไม่ได้หรอก มันสร้างไม่ได้ คือเวลานี้กำลังใจมีอย่างเดียวคือหลานสาวน้องพิม ที่นับวันก๊อปปี้ยายมาทุกอย่าง เราชอบแอบดูเขาไม่ว่าจะนั่ง ไม่ว่าจะทำอะไรเหมือนยายทุกอย่าง มันถึงได้บอกว่าตัวตายตัวแทน เพราะว่าถ้าไม่มีพิมพ์พ่อก็แย่เหมือนกัน”

“ส่วนน้องพิมพ์ก็ไม่ค่อยถามหาคุณยายเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ตอนนี้จะยุ่งกับตา คือความผูกพันของเขากับยายแทบจะน้อยมาก เขาอยู่กับยายจริง แต่พอเขา2ขวบกว่า ยายเขาก็เข้าโรงพยาบาลแล้ว ไม่ได้เล่นด้วยกัน จากนั้นก็อยู่กับตาตลอดก็เลยติดตา”

“ลูกๆหลานๆในวงการบันเทิงหลายคนที่ผูกพันกับครอบครัว ก็คือผูกพันกับแม่ทุมนั่นแหละ เพราะว่าแม่ทุมเป็นคนมีแต่ให้ ให้กับทุกคนจริงๆ อย่างงานนี้มันสิ้นเปลืองนะ เอ ศุภชัย บอกว่าหมดเท่าไหร่หมดนะพ่อ นี่แม่เอง เพราะว่าถ้าไม่มีปทุมวดีก็ไม่มี เอศุภชัย”

“เรียกว่าเอผูกพันมาตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย เป็นนักศึกษาม.รังสิต เป็นพี่รหัสของยุ้ย ก็ตามดูยุ้ยไปคอนเสิร์ต ก็ตามไปตามมา แล้วมาส่งยุ้ยที่บ้านแล้วก็กลับบ้าน แม่ทุมบอกอย่ากลับเลย มานอนบ้านแม่นี่แหละ เอก็เลยอยู่ตั้งแต่วันนั้น ตั้งแต่ที่ยุ้ยเรียนอยู่ปีหนึ่ง แล้วจนตอนนี้อายุ 40 กว่า มันก็เลยผูกพันกัน”

ด้านนักร้อง นักแสดง ต๊ะ วินรวีร์ ใหญ่เสมอ ที่เดินมางมาร่วมฟังสวดอภิธรรม ก็ได้เปิดใจถึงการจากไปของแม่ทุมว่า “แม่ทุม กับพ่อรองเป็นบุคคลสำคัญในวงการบันเทิง ที่เป็นที่รักของลูกหลาน มันมีเหตุผลว่าที่บ้านแกจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ไปไหนมาไหนก็ต้องแวะมาที่บ้าน ที่บ้านจะจัดสำรับอาหารคาวหวานไว้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกๆที่ไปไหนมาแล้วแวะมาที่บ้าน ก็จะมีข้าวกิน จะมีที่นอน คือทุกคนจริงๆ อย่างพ่อรองถ้าเจอกันที่กองถ่ายทุกคนจะเทคแคร์ ทุกคนจะซัพพอร์ต คือแกน่ารักกับลูกๆทุกคน”

“แม่ทุมเป็นแม่ยายของเพื่อนรักผมด้วย เป็นแม่ยุ้ยด้วย ผมเล่นละครเรื่องแรก ก็เล่นคู่กับน้องยุ้ย เรื่องริษยา ตอนนี้นเพิ่งจะเข้าวงการใหม่ๆ บ้านอยู่ติดกันด้วย บ้านผมซอย 10 บ้านแม่อยู่ซอย 6 บ้านใกล้กัน ไปมาหาสู่กันเรื่อยๆ”

“ผูกพันเพราะว่าวันไหว้ครู ถ้าไม่ไปที่ไหน ก็ต้องมาบ้านนี้ ที่บ้าน 71 ไปไหว้ผู้ใหญ่ ไปให้ผู้ใหญ่เห็นหน้า ไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่นี่”

“แม่จะไม่ได้สอนด้วยคำพูด แต่แกสอนด้วยการปฏิบัติตัวให้เราเห็น แกเป็นคนใจกว้างทั้งคู่เลยนะ อยู่กับแกจะรู้สึกอบอุ่น เป็นผู้ใหญ่ที่เราต้องให้ความนับถืออยู่ เวลาอยู่ในบ้านจะมีความเมตตาอารีกับลูกหลานทุกคน”

ส่วนตัวมีโอกาสร่วมงานกับทั้งแม่ทุม พ่อรองด้วย ทั้งคู่เลย มีเรื่องหนึ่งที่เคยเล่นด้วยกัน จะบอกเลยครับว่าเสียดาย แกจะอยู่ในใจเราตลอดไป แม่ป่วยมานาน ก็มีความรู้สึกที่ว่าเราได้เตรียมความรู้สึกไว้นานพอสมควร พอถึงวันนี้ก็อย่างน้อยที่สุดคือแกไม่ต้องทรมานแล้ว ทุกคนไม่ต้องมีห่วง การจากไปครั้งนี้ของแม่ แม่จะอยู่ในใจของประชาชน ลูกหลานทุกคน แต่วันนี้คือวันที่สิ้นสุดสิ่งที่ทุกคนวันนี้เรียกว่าจบด้วยดี แม่จะอยู่ในใจเราทุกคนตลอดไป”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน