ปีเตอร์ แจงช่วยค่าเลี้ยงดูลูก เผย พลอย มีสิทธิการตัดสินใจ100% แฟร์ทั้งคู่เพื่อลูก

เร่งถ่ายละครเต็มที่หลังโควิดเริ่มซา สำหรับ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรลดัล ทำให้ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเจอสองลูกชาย น้องแพนเตอร์-น้องพูม่า จึงต้องใช้วิดีโอคอลสื่อสารกับลูกตลอด พร้อมกับเผยถึงกรณีที่มีคนเชื่อมโยงเหตุการณ์ดราม่า ไมค์ พิรัชต์ และ ซาร่า คาซิงกินี ประเด็นสิทธิในการปกครองลูก รวมถึงค่าเลี้ยงดูที่ต้องตกลงกันระหว่างพ่อแม่ที่แยกทางกัน ปีเตอร์เผยว่า คู่ของตนกับอดีตภรรยา พลอย-พลอยพรรณ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับคู่อื่นได้ เพราะรายละเอียดไม่เหมือนกัน อดีตภรรยามีสิทธิ์ในการตัดสินใจดูแลลูกทุกเรื่อง 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตนช่วยค่าเลี้ยงดูมีลายลักษณ์อักษรชัดเจน ไม่ทะเลาะกัน เพราะอยากให้ลูกได้ในสิ่งที่ดีที่สุด

ช่วงนี้งานเยอะ ไม่ค่อยได้เจอลูกชาย 2 แสบเลย?

“ใช้การวิดีโอคอลคุยกัน อย่างที่รู้ว่าช่วงโควิด ทุกอย่างมันนิ่งไปหมด ถ่ายทำอะไรก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย พอกลับมาเปิดอีกทีทุกคนก็เร่งมือกันหมด ซึ่งก็เข้าใจกันได้ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ทุกอย่างเลยเร่งไปหมด รวมถึงรายการของตัวเองด้วย ก็จะมีความยุ่งขึ้นนิดนึง แต่มองว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่สามารถปั่นงานได้ก็ควรจะปั่นไว้ก่อน ก็เลยทำให้โพสต์ว่ากลัวเด็กๆงอน”

เห็นว่าลูก (น้องแพนเตอร์) เล่นละครแล้ว?

“ช่วงแรกๆเขามีการนั่งติวกัน ตอนลูกได้บทมาก็มานั่งอ่านกัน ปรากฏว่าลูกอ่านคล่องกว่าผมอีก มีบางช่วงที่ผมอ่านไปอ่านมาแล้วแพนเตอร์มาสะกิดว่าจริงๆแล้วมันอ่านแบบนี้นะ เราก็ขอโทษลูกไป”

แสดงว่าน้องมีความสามารถด้านนี้?

“เขาอ่านเก่ง ก็เลยทำให้เรื่องอ่านไม่ห่วง เราก็เลยสอนเรื่องของการใช้ชีวิตในกองถ่าย ว่าเข้าไปจะต้องเจออะไรบ้าง แล้วก็ลองเล่นกับเขา ให้เขาได้แสดงเป็นตัวละครของเขาเอง สอนเรื่องการแสดงออกทางสีหน้า ถ้าเกิดสงสัยไม่ใช่แค่พูดว่าทำไม ให้สงสัยด้วยใบหน้าควบคู่ไปด้วย ซึ่งเขาก็ทำได้ดีทุกอย่าง”

ปีเตอร์ คอร์ป

น้องแพนเตอร์

 

 

เรื่องแอ๊คติ้งเป็นยังไงบ้าง?

“ดีครับ ธรรมชาติมาก ก็คงจะเห็นผมตั้งแต่เล็ก”

พลอยได้มาปรึกษาก่อนจะรับงานให้ลูกไหม?

“ไม่ครับ มารู้อีกทีก็คือรับไปแล้ว มองว่าถ้าน้องเขารัก อยากจะทำก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่จะซีเรียสในเรื่องของผลกระทบที่จะมากับการเรียน เพราะถ่ายละครก็ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ถ้าคนที่ถ่ายเต็มตัวก็จะถ่ายตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม แต่ถ้าลูกตามคนอื่นทัน ได้มีเวลาทำการบ้าน ก็พอไปได้”

พลอยมีสิทธิ์ในการตัดสินใจดูแลทุกเรื่อง 100 เปอร์เซ็นต์ใช่ไหม?

“ใช่ครับ มันอยู่ในข้อตกลงที่ได้เซ็นกันไป ซึ่งไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ แล้วทุกอย่างมันแฟร์กับทั้งสองคน เพราะว่าจุดประสงค์ของเราทั้งคู่ คืออยากให้ลูกได้ในสิ่งที่ดีที่สุด ก็เลยฟังกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน

ในช่วงของการตกลงทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรใช่ไหม?

“ทุกอย่างมันลงตัวและเป็นลายลักษณ์อักษรและได้มีการเซ็นในนามปากกาไป แต่ที่ตอนนั้นมันนานเพราะว่ายังตกลงกันไม่ได้ หลังจากที่ตกลงกันได้ทุกอย่างก็จบ”

ตอนนี้มีการโยงถึงคู่ของเราเพราะกระแสเรื่องของการเลี้ยงดูกำลังมาแรง?

“จริงๆแล้วบางอย่างในปัจจุบัน โดยธรรมชาติมันก็มีความเพอร์เฟ็กค่อนข้างยาก เชื่อว่าไม่ใช่แค่คู่ของผมหรือว่าคู่ที่เป็นข่าวที่เกิดความไม่ลงตัว ตามสถิติทั่วโลกเกิน 50% ที่มีการหย่ากัน เพราะฉะนั้นการที่จะหย่ากันในยุคสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แน่นอนว่าคนที่อยู่ในวงการก็จะถูกจับตามองและเป็นประเด็น ซึ่งมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการอยู่หน้ากล้องและเป็นที่รู้จัก จริงๆแล้วเชื่อว่าคู่ที่เขาออกข่าวกันตอนนี้เป็นแค่ยิบย่อยของปัญหา มีอีกหลายคู่ที่หย่ากันแล้วคุยกันไม่ลงตัวและทะเลาะกันมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่พูดยากเพราะเป็นเรื่องระหว่างคนสองคนจริงๆ เราจะบอกให้คู่นี้ทำอย่างนั้น คนนั้นทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ เนื่องจากเราไม่ดีเทลลึกซึ้งจริงๆ แต่สุดท้ายแล้วใครที่สามารถอยู่รอดได้เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็ขอเป็นกำลังใจกับทุกคน”

ค่าเลี้ยงดูของลูกเราชัดเจนใช่ไหม?

“ทุกอย่างชัดเจนหมดครับ”

ปีเตอร์ก็ช่วยดูแล?

“แน่นอนครับ”

อย่างเรื่องเวลากำหนดวันที่จะได้เจอลูกใหม่?

“แน่นอนครับ กำหนดชัดเจน”

ที่ผ่านมาก็เจอน้องตลอดใช่ไหม?

“ใช่ครับ จริงๆแล้วเป็นแค่ช่วงนี้ที่ไม่ได้เจอเพราะมองว่ายังเป็นช่วงที่เสี่ยงอยู่ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น และอีกอย่างละครทุกคนก็เล่นกันเต็มที่ หลังโควิด-19 ผมก็ปิดไปแล้ว 2 เรื่อง ตอนนี้เรื่องที่ 3 ก็ถ่ายไปเกือบครึ่งเรื่องแล้ว ผู้กำกับก็ทำงานเร็วมาก เพราะฉะนั้นทุกคนเร่งมือไปหมดแล้วทุกคนรู้ดีว่าละครที่ถ่ายอยู่ตอนนี้ค่อนข้างมีปัญหาว่าทุกช่องถ่ายละครไม่ทัน เพราะฉะนั้นใครที่มีส่วนร่วมก็ต้องเร่งเหมือนกัน”

เด็กๆคิดถึงไหม?

“ได้เจอในวีดีโอคอลก็ยังดี ดีกว่าเมื่อก่อน จริงๆแล้วตอนนี้ก็ไม่ได้ห่วงอะไรมาก เพราะว่าทั้งคู่เป็นเด็กที่น่ารักและมีเหตุผล พูดอะไรรับฟังหมด ซนก็ซนแต่ว่าไม่ดื้อเพราะฉะนั้นก็ไม่ได้เป็นห่วงมาก”

ช่วงนี้มีข่าวครูกับนักเรียนบ่อยได้เห็นข่าวไหม เป็นห่วงแค่ไหน?

“จริงๆแล้วเคสแบบนี้มีบ้างตั้งแต่สมัยที่ผมเด็กๆ ตอนเรียนเมืองนอก ซึ่งผมก็ถูกสอนให้รู้ว่าผลลัพธ์จากการที่เด็กต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ เขาจะมีการเปลี่ยนแปลง และเด็กจะจำได้เพราะฉะนั้นเราจะดูรู้ พอเดาได้ สามารถสังเกตที่ลูก ถ้าลูกมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เราต้องหาให้ได้ว่าสาเหตุมันเพราะอะไร แต่กับลูกผมไม่ห่วงครับ เพราะทุกอย่างเหมือนเดิม ร่าเริงเหมือนเดิม ขี้เล่นเหมือนเดิม แล้วก็ชอบโรงเรียน ไม่ได้กลัวที่จะไปโรงเรียน

ถือว่าโชคดี?

“มันก็พูดยากคือลูกผมเข้าโรงเรียนสาธิตประสานมิตร ซึ่งผมก็ได้เข้าไปคุยเข้าไปเจอกับอาจารย์และผมก็ไว้ใจ ไม่ได้ดูว่ามีปัญหาอะไรตั้งแต่แรก เป็นโรงเรียนที่ดีมาก คุยกับครูและผอ.บ่อยเลยไม่ได้ห่วงอะไร”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขอบคุณภาพจาก IG : purploy/ petercorp

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน