หม่อมถนัดแดก รอหมายเรียก ปมภาพยืนฉี่ ยอมรับผิด เป็นเพราะความสัปดน
หม่อมถนัดแดก-จากกรณีที่ชาวเน็ตแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์ หม่อมถนัดแดก หรือ นายสหัสวรรษ หรือเสก ชอบชิงชัย อายุ 46 ปี ซึ่งปรากฏภาพอยู่ในลักษณะ ยืนหันหลังปัสสาวะลงเขื่อนแม่งัด อุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ โดยหลังเกิดเหตุ ทางอุทยานฯ มีการแรียกให้เข้าไปชี้แจง
ล่าสุด 6 ต.ค. ได้มีโอกาสเจอ หม่อมถนัดแดก ในงานบวงสรวงภาพยนตร์ “หร่อยจังจ้าว” ที่ร้านอาหารถนัดแดก เกษตร-นวมินทร์ เลยได้เคลียร์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งย้อนกลับไปพูดถึงปมเมนูซาดิสต์ฝังไก่หยอดกะทิ ที่เห็นว่าตอนนี้ได้ฟ้องกับคนในมูลนิธิหนึ่งที่กล่าวหาตน ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
-
อุทยานฯ เอาเรื่อง หม่อมถนัดแดก แฉรีวิวไม่ต้องจ่ายตังทำกระจกแตก
-
หม่อมถนัดแดก VS สมาคมพิทักษ์สัตว์ ปมเมนูซาดิสม์ ฝังไก่หยอดกะทิ 2 สัปดาห์
ชี้แจงถึงกระแสที่มีภาพคล้ายยืนฉี่ใส่น้ำ?
“ทำท่า จริงๆก็ยังไม่เคยชี้แจงกับสื่อไหนนะ วันนั้นก็ไปเที่ยวกันที่เขื่อนก็ไปพักที่แพ ส่วนตัวก็เป็นคนทะลึ่ง สัปดนตามประสา ก็เป็นการยืนทำท่า ถ่ายภาพนิ่ง แล้วก็ไปโพสต์ตอนเช้าอีกวันหนึ่ง ไม่เกิน5นาทีเกิดดราม่าเราก็ลบเลย เราตกใจ แต่ก็อย่างว่าความรู้สึกคนเดี๋ยวนี้มันเร็ว ก็เลยโดนเจ้าหน้าที่อุทยานเรียกไปชี้แจง เราก็ยอมรับว่าเราทำท่าแบบนั้นจริงๆ แต่เราใช้โซดาเขย่าผสมเบียร์มาเล่นกัน ไม่คิดว่าจะมีดราม่าแบบนี้”
เจ้าหน้าที่ตักเตือนอย่างไร?
“เค้าก็ตักเตือนว่ามันไม่เหมาะสม ซึ่งผมก็คุยกับทางเจ้าของแพแล้ว เจ้าของแพก็เข้าใจเค้าก็น่ารัก พูดตรงๆเค้าก็บอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ”
เจ้าหน้าที่มีการปรับไหม?
“ก็ไม่ได้ถึงกับปรับ มันเป็นการตักเตือนกันมากกว่า เพราะว่าที่เราเทลงไป ก็เป็นพวกโซดา มันก็ไม่ได้เกิดอันตรายอะไรที่มันเป็นปัญหากับสิ่งแวดล้อม ก็เป็นการตักเตือนกันไป”
กระแสสังคมไม่เชื่อว่ามันคือโซดา?
“ก็พูดยาก คือชาวเน็ตเค้าก็มีความคิดของเขา แต่ถามว่าเราทำเราก็ทำเล่น เราไม่ได้ทำจริงจัง แล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดดราม่า วันนั้นลงไป 3 นาทีอ่ะ แต่อย่างว่าเราก็สนุกมากไป เราก็ไม่ได้คิด เราสัปดน ต้องเรียกว่าเราทะลึ่ง”
พอเห็นคอมเมนต์ก็รู้สึกว่ามันสะเทือนใจอยู่เหมือนกันใช่ไหม?
“มันตกใจมากกว่า ว่าเฮ้ยอะไรวะเนี่ย เพราะว่ามันไม่คิดว่าจะเกิดไง ”
หลายคอมเมนต์บอกว่ามีคำนำหน้าเป็นหม่อมแต่ทำตัวแบบนี้?
“ไม่เป็นไร ผมก็ยอมรับผิดไง ผมยอมรับผิดว่าผมแสดงอย่างนั้น แล้วมันทำให้เกิดความไม่สบายใจ ผมก็ลบไป ”
จริงๆมีใครหรือผู้ใหญ่เข้ามาตักเตือนเราไหมกับการใช้โซเชี่ยล?
“ไม่หรอก พูดตรงๆผมก็ไม่คิดว่าผมจะดังขนาดนี้ที่มีคนคอยจับตามอง ก็ถือว่าสังคมเป็นการตักเตือนผมแล้วกัน ก็เลิกทำแล้วไอ้เรื่องสัปดน ไม่ทำแล้วแค่นั้นเอง ”
ก็คือหลาบไปเลย?
“เรียกว่ายังไงดีล่ะ จำแล้วกัน มันไม่คิดจริงๆ จริงๆคือปกติทำเล่นกับนิกกี้บ่อยนะ ยืนฉี่ใช้โซดาผสมเบียร์แล้วก็ฉี่ใส่ล้อรถก็ทำเล่นกันอย่างเนี่ยตลอด ”
แต่กระแสสังคมค่อนข้างรุนแรง?
“ไม่เป็นไร เค้าเข้าใจเป็นอย่างนั้น คือต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ชาวเน็ตเค้ามีอารมณ์ ใช้อารมณ์กันเยอะอยู่แล้ว ไม่ใช่ผมคนเดียวที่โดนดราม่า เดี๋ยวนี้ดราม่าเกิดขึ้นทุกวันทุกวินาทีมัน ก็พลาดกันได้คนเรา บางทีผมก็รู้สึกว่าผมพลาดมาก เพราะว่าจริงๆแล้วจุดประสงค์เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำแบบนั้น แต่เราดันเล่นเกินไป แต่ก่อนเราก็เล่นแบบนี้ แต่มันก็ไม่ได้มีดราม่าเกิดขึ้น แต่ตั้งแต่มีไก่หลุม ก็เลยเป็นที่จับตามองมั้ง (หัวเราะ)
ก็คือมีดราม่ามาตลอดไม่พักเลย?
“ก็มีมาเรื่อยๆ แต่มันก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ เรื่องแบบนี้คือมันแบบไม่รู้จะกล่าวคำไหน ก็คือตกใจ ตกใจที่มันมีดราม่า”
กลายเป็นว่าเราแจ้งเกิดในเรื่องแบบนี้ไปแล้ว?
“ไม่หรอก จริงๆผมไม่ได้อยากเกิดจากดราม่า ผมไม่ได้อยากมีดราม่า แต่ทุกครั้งที่มีดราม่า มันเกิดจากกระแสสองทางมัน ไม่ได้ทางเดียว คือบางทีเราก็เลยคิดว่าเราเล่นอะไรไม่ได้เลยหรอโดนจับผิดตลอดเลยหรอ เดี๋ยวนี้ก็ต้องระวังแล้วต้องระวังหน่อย”
อย่างหลายคนเค้าก็จะซีเรียสกับเรื่องของคอมเมนต์เชิงลบ มีการฟ้องร้อง เราถึงขั้นนั้นไหม?
” ผมฟ้องบางเรื่อง แต่เรื่องนี้ผมไม่ฟ้อง ผมจะฟ้องกับสิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจ ผมจะฟ้อง คอมเมนต์ที่ใส่ร้ายใส่ความ พูดไม่เป็นความจริงแบบเนี่ยเอา แต่ถ้าอย่างนี้ ด่าผมเฉยๆไม่ฟ้อง เพราะแบบนี้ผมมีความคิดว่าเค้าก็มีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์เชื่อว่าเราทำอย่างนั้นจริงๆ แต่ในความเป็นจริงเราทำหรือไม่ทำ เค้าไม่เชื่ออยู่แล้ว เค้าฝังในหัวไปแล้วก็ปล่อยเค้าไม่เป็นไร”
แบบนี้การทำคอนเทนต์ต่างๆ เราต้องคิดมากขึ้นไหม?
“ซึ่งผมก็ทำของผมแล้วเดินทางนี้มาตลอด หมายถึงวัฒนธรรมการกินของอาหาร ซึ่งมันหลากหลายมาก ก็ยังทำอยู่คงไม่เลิกทำ แต่อาจจะระวังในการนำเสนอมากขึ้น อะไรที่มันสุ่มเสี่ยงล่อแหลมก็ไม่ทำ อาจจะตัดออกไปให้มันไม่เกิดกระแสสองด้าน”
แล้วอย่างที่เราฟ้องร้องไปมาแล้ว ฟ้องคดีอะไรไปบ้าง?
“หมิ่นประมาท เรื่องที่มาหาผมว่าขายจานละ 500 จริงๆขายจานละ 50 เอาอาหารบูดมาขายอะไรแบบนี้ คือโดนหมด ก็คือฟ้องไปหลายคนแล้ว ฟ้องจนชนะคดีแล้ว อันนั้นคือการเสียหายทางธุรกิจ แต่เรื่องที่มาด่าผมไม่เป็นไรผมเข้าใจ ซึ่งบางคนก็ไม่รู้จักผมด้วยซ้ำ เห็นเค้าด่ากันก็ด่าตามน้ำ แต่ถามว่าคนที่เค้าเป็นเอฟซีผม เค้ารู้อยู่ว่าผมเป็นคนยังไง ผมไม่ได้เป็นคนโกหกตอแหล ผมเป็นคนพูดตรง พูดง่าย ฟังชัด แล้วสิ่งที่ทำก็ทำจริงๆ แล้วการช่วยเหลือคนผมก็ทำอยู่ตลอดผมเป็นคนทะลึ่ง เป็นคนสัปดน บางทีทำไปก็ไม่ได้คิดอะไรขำๆ เราอ่ะคิดว่ามันขำสำหรับเรา แต่คนอื่นเค้าไม่ขำ ก็ไม่ทำแล้วเรื่องแบบนี้”
มันกระทบกับรายได้เข้าร้านไหม?
“ไม่เลย ไม่เกี่ยวไม่เกี่ยวเลย ลูกค้าเหมือนเดิม ดราม่ามันมีมาตั้ง2ปีแล้ว มีมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดมันเกิดหรอกแต่ว่ามันเกิดแล้วเราก็ต้องยอมรับมัน อะไรที่มันไม่จริง บางครั้งเราก็เอาจริงกับเค้าบ้าง”
เครียดไหมกับดราม่าต่างๆที่เกิดขึ้น?
“ถามผม ผมไม่อ่านเลย ถามว่าเครียดไหมมันไม่ถึงกับเครียด แต่คิดว่าเฮ้ยเรื่องเรื่องแบบนี้บางเรื่องเราไม่คิดว่ามันจะเป็นดราม่า ทำไมมันเป็นได้ บางทีมันตกใจมากกว่า เอาง่ายๆ อย่างเรื่องฉี่ ผมยังไม่ได้ถกกางเกงลงเลย ถ้าคนสังเกตจริงๆ ก็จะรู้ว่าผมยังไม่ได้ถกกางเกงลงเลย ไม่อย่างนั้นผมก็เยี่ยวราดกางเกงสิ แต่เราก็ไม่ต้องไปอธิบาย แต่ตั้งแต่ที่ผมมีเรื่องนี้มา ผมยังไม่อธิบายสื่ออะไร เพราะผมคิดว่าอธิบายไปก็ไม่มีใครเชื่อ ก็ปล่อยไป ปล่อยให้มันเป็นเรื่องทางกฎหมาย อุทยานเค้าจะฟ้องร้องอะไรก็ตามนั้นเลย ”
ตอนนี้อุทยานเค้าฟ้องอยู่?
“เค้าไปร้องเรียนกับตำรวจแล้ว เดี๋ยวผมก็คงจะไปชี้แจง ก็คืออุทยานเขาต้องทำตามหน้าที่ แล้วก็ไม่เป็นไรที่เหลือก็ต้องเป็นหน้าที่ผมที่จะต้องไปชี้แจงกับตำรวจ เพราะอุทยานเค้าไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะปรับ
ได้นัดกันหรือยัง?
“ยังไม่มีหมายเรียกมา แต่กับกรมอุทยานได้คุยกันแล้วว่าเค้าต้องทำตามหน้าที่ ตอนนี้ก็ต้องรอหมายเรียก แล้วผมก็ไป ”
แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคิด?
“ก็เอาความจริงมาพูดกัน ก็มีพยานมีทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เป็นไรหรอกถ้ามันจะผิดมันก็ต้องผิด”
แล้ววันที่เราจะเข้าไปชี้แจง เรามีหลักฐานพยานอะไรไหม?
“ก็มีพยาน มันเป็นภาพนิ่งอ่ะจะ พูดยังไงดี เราทะลึ่งเอง ก็เข้าตัวอะ พูดง่ายๆ”
คือภาพนั่นหม่อมยืนยันว่าไม่ได้ฉี่ แต่มันก็ผิดที่เอาโซดาลงไปในน้ำใช่ไหม?
“ก็อุทยานบอกว่าเค้าก็ทำตามหน้าที่ มันเป็นการแสดงก็จริง เค้าก็เชื่ออย่างนั้น แต่เราก็ต้องไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทีหนึ่ง เพราะอุทยานไม่มีอำนาจสอบสวน”
แล้วคิดว่าการที่เราเอาน้ำโซดาเทลงไปในอุทยานมันผิดไหม?
“ผมไม่รู้ แต่โซดามันก็กินกัน มันก็เหมือนน้ำเปล่า ถามว่ามันจะเป็นยังไง มันจะกระทบสิ่งแวดล้อมไหม อันนี้ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ”
ก็คือเราตอนนี้จะต้องไปชี้แจง?
“ผมไปอยู่แล้ว ถ้ามีหมายเรียกมาผมก็ไป”
ถามถึงเรื่องไก่หลุม เห็นว่ามีการฟ้องร้อง
“ไก่กะทิใช่ไหมครับ ตอนนี้ก็ผ่านมาไปประมาณ3เดือนแล้ว ตอนนี้ผมก็ฟ้องกับคนที่เค้าใส่ร้ายผม ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท มีทนายฟ้องแล้วศาลรับฟ้องไว้เรียบร้อย แล้วตอนนี้หมายก็คงจะถึงบ้านเค้าแล้วล่ะ ก็เดี๋ยวรอศาลนัดแรกก็มกราคมปีหน้า ส่วนเรื่องไก่หลุมไปดูในรายการโหนกระแสก็ได้ที่ผมไปออกอ่ะ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเราเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน แต่ว่าบางคนก็พูดเกินความจริง ผมก็ต้องรักษาสิทธิ์ของผม ผมก็ต้องปกป้องศักดิ์ศรีของผม บางเค้าไปพูดซะเว่อร์เลย อย่างผมไม่ได้ทำบางอย่าง เค้าก็ไปใส่ร้ายว่าทำ ผมก็ต้องฟ้อง ”
อย่างคำไหนที่เจอแล้วรู้สึกว่ามันร้ายแรงจนกระทั่งเราต้องฟ้อง?
” ก็อย่างเช่นคำที่บอกว่าผมไปฉีดเหล้าเข้าวัว ตัวเป็นๆ แล้วก็เฉือนเนื้อวัวมาย่างกิน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง ไปเขียนอย่างงั้น พูดอย่างงั้นมันก็ต้องฟ้อง”
ที่เราฟ้องไปนี้ก็คือรายเดียวกันนี้ใช่ไหม?
“เค้าเป็นคนของมูลนิธิ มูลนิธิหนึ่ง ”
ถ้าเค้าขอชี้แจงไกล่เกลี่ยเรายอมไหม?
“ก็ต้องไปคุยกันที่ศาล เพราะตอนนั้นที่ไปออกรายการก็เหมือนเค้าจะเอาจริงกับผมจังเลย เค้าก็ไม่มีมนุษยธรรมกับผมเลย แต่ถ้าถามว่าเค้ามาขอโทษขอโพย เดี๋ยวผมจะมีมนุษยธรรมให้ แต่ก็ต้องสำนึกนะ จะได้ไม่ต้องไปขู่ใครเค้าอีก
เราก็อยากจะเอาคืนกลับ?
“เราก็ต้องปกป้องสิทธิ์ของเรานิดนึง เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องจริงเราก็จะยอมรับ ผมก็จะขอโทษ ทำเท่าที่ผมทำได้มาตลอด แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงผมก็ต้องสู้ เพราะว่าเค้าให้ข่าวไปในทางที่เสียหายมาก ”
แต่อย่างเมนูไก่หลุมคือมันมีจริงๆ?
“มันมีมานานแล้วครับ และอีกอย่างหนึ่งวันที่ ไปขายผมก็เหมือนเป็นสื่อไปถ่าย ผมยังไม่ได้จับตัวไก่เลย คือมันเป็นการแสดงเอาลงไปฝัง 1 นาที 2 นาที แสดงให้เห็นว่ามันเป็นวิธีแบบนี้ แล้วไก่ที่เอามากิน ก็คือชาวบ้านเค้าไปซื้อมาจากตลาด มาทำกิน ซึ่งอันนี้ก็พิสูจน์กันไป ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ตำรวจเค้าพิสูจน์หลักฐานกันอยู่ เค้าก็เรียกพยานสอบผมก็ไปสอบมาเรียบร้อยแล้ว ไปตรงจุดเกิดเหตุ เค้าก็ไปตรวจสอบมาหมดแล้ว แต่ผลตอบรับเป็นไงก็ต้องใช้เวลาหน่อย และมกราคมปีหน้าก็มีการนัดกันครั้งแรก เจอกันที่ศาลอาญามีนบุรี แต่ก็ยังไม่รู้ว่ายังไง ไม่รู้ว่าเค้าจะสู้ไหม หรือจะขอโทษก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง”
