ทนายความชี้ บริตนีย์ สเปียร์ส มีสภาพจิตใจเหมือนคนโคม่า

ปัญหาการต่อสู้กันในศาลของเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อป บริตนีย์ สเปียร์ส กับพ่อ เจมี สเปียร์ส ที่มีฐานะเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินของเธอ ยังมีมาแบบต่อเนื่อง
โดยล่าสุดวันที่ 8 ต.ค. เดลี่เมล์ได้รายงานเรื่องที่ แซม อิงแฮม ทนายความของ บริตนีย์ สเปียร์ส กล่าวระหว่างที่เข้ารับฟังการพิจารณาคดี ถึงสภาพจิตใจของป๊อปสตาร์สาวว่า ตอนนี้เธอเปรียบเหมือนผู้ป่วยที่อยู่ในอาการโคม่า

บริตนีย์

กับพ่อเจมี สมัยยังเลิฟๆ กันดีอยู่

อิงแฮมแจงว่านักร้องสาววัย 38 ปี ไม่สามารถเซ็นชื่อในคำประกาศสาบาน กรณีเกี่ยวกับผู้มีสิทธิในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของเธอ หลังผู้พิพากษาตรวจสอบคำร้องของบริตนีย์ ที่ต้องการให้มีคนอื่นเป็นผู้มีสิทธิในการดูแลร่วมกับ เจมี สเปียร์ส ด้วย
ทั้งนี้ผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวได้สรุปกำหนดวันใหม่ สำหรับการไต่สวน
ทนายความคนเดิมยังบอกอีกว่า บริตนีย์เองไม่ต้องการที่จะขึ้นแสดงอีก ซึ่งนำไปสู่การพูดคุยว่าทำไมตัวเธอยังไม่ได้แจ้งต่อศาลถึงแผนการทำงานในอนาคต อิงแฮมบอกต่อศาลอีกว่าเจมีพยายามจะให้บริตนีย์กลับมาทำงานดนตรีต่อ

บริตนีย์
เดือนที่แล้ว บริตนีย์บอกกับศาลว่าเธอขอปฏิเสธเรื่องที่พ่อพยายามจะจ้าง แอนดรูว์ วอลเล็ต ที่เคยเป็นผู้จัดการดูแลทรัพย์สินกลับมาทำงานอีกครั้ง เพราะไม่เหมาะสมและเขาได้ค่าจ้างมากเกินไป
วอลเล็ตทำงานอยู่ระหว่างปี 2551-2562 ในฐานะของผู้ร่วมมีสิทธิในการดูแล บริตนีย์ยังบอกอีกว่าเธอมีทางเลือกด้านงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดและไม่สามารถจ่ายเงินให้กับการทำงานของเขาได้ ทั้งนี้เธอยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่าเขาทำรายได้เป็นจำนวนหลายล้านจากการทำงานให้กับเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เจมีเองได้บอกกับศาลในภายหลังว่าบริตนีย์ไม่แสดงสถานการณ์อย่างถูกต้องชัดเจนในการที่เธอร้องเรียนต่อศาล
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบริตนีย์ได้โพสต์ภาพตัวเองในชุดชั้นในสีดำลงอินสตาแกรม เหมือนเป็นการบอกใบ้ถึงโปรเจ็กต์ในอนาคต โดยเธอเขียนข้อความว่า “สีแดงกำลังจะมา ป.ล. ฉันเจอเข็มกลัดสีเขียวของฉันแล้ว” พร้อมกับอีโมจิรูปปากสีแดง

บริตนีย์
และได้เพิ่มคลิปที่เธอเต้น พร้อมเขียนข้อความ Addicted to Love และมีอีโมจิรูปดอกกุหลาบพร้อมติดแท็กไปหาศิลปิน Skylar Gray
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ในขณะที่บริตนีย์กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูตัวเองจากปัญหาทางจิตเพราะมีหลายเรื่องที่รุมเร้า เจมีก็ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินของเธอ
และตั้งแต่นั้นมาก็มีข่าวลือสะพัดว่าเขาได้เข้ามาควบคุมชีวิตของลูกสาวอย่างหนัก เธอกลายเป็นเพียงสินค้าเพื่อสร้างรายได้ให้กับพ่อและทีมงาน จนเกิดเป็นแคมเปญ #FreeBritney และปัญหาศึกสายเลือดยืดเยื้อยาวนานมาจนถึงตอนนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน