ไมค์ ภิรมย์พร เปิดเส้นทางชีวิต 25 ปี ในวงการ จากรปภ.สู่นักร้องดัง ควบบทบาทเกษตรและนักธุรกิจ

นักร้องขวัญใจคนใช้แรงงาน ไมค์ ภิรมย์พร ที่วันนี้จะมาเปิดชีวิตกว่า 25 ปีในวงการบันเทิง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร พร้อมกับบทบาทใหม่เป็นทั้งเกษตรกรและนักธุรกิจ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ปกติพี่ไมค์จะอยู่อุดรฯ?
“ไปทำสวน ทำนา ทำไร่ อยู่ที่นู่น ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเรื่อยๆ”

เพลง ยาใจคนจน ถือว่าเป็นเพลงเปิดทางพี่เลยก็ว่าได้?
“ถูกต้องครับ ถือว่าเป็นเพลงแรกเลย การที่เข้ามาอยู่แกรมมี่เป็นคนแรกของแกรมมี่ ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแกรมมี่โกลด์ เป็นลูกทุ่งเบอร์แรกเลย”

ยาใจคนจนชุดที่เท่าไหร่?
“ชุดที่ 5 ครับ”

ก่อนหน้านี้มีเพลงมาก่อนแล้ว?
“ครับก็มีเพลงพวกลูกทุ่งอีสาน สไตล์หมอลำบ้าง ลองผิดลองถูก แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนดูแลไม่เคยทำลูกทุ่ง ก็คลำทางกันมา”

พอมา ยาใจคนจน ชีวิตเราเปลี่ยนไปเลยไหม?
“ก็เปลี่ยน เพราะว่าช่วงที่ทำชุด 1-2-3-4 ก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนเดิม พี่ที่ดูแลบอกวว่าทำมา 4 ชุดแล้ว ชุดที่ 5 ถือเป็นชุดสุดท้ายแล้วนะที่เขาบอกว่าถ้าไม่ได้ชุดนี้จะไม่ทำลูกทุ่งอีกแล้ว”

ช่วงที่เพลงดังมากๆ จำได้ไหมว่าออกคอนเสิร์ตปีนึงเป็นยังไงบ้าง?
“เป็นช่วงเทศกาลดีกว่า วันนึงวิ่ง 6 ที่”

แสดงว่าชีวิตเมื่อก่อนพี่แทบจะไม่เห็นแสงแดดเลย?
“ก็แทบจะว่าได้”

ใช้ชีวิตอย่างนี้นานไหม?
“ก็ตั้งแต่ชุดที่5 มาเราก็มีอัลบั้มออกมาต่อเนื่องตลอด เราก็มีงานตลอด”

อยู่แกรมมี่มา 25 ปี ถือเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งเลยก็ว่าได้ในลูกทุ่ง ภูมิใจไหมที่เป็นพี่ดูแลน้องๆ?
“จริงๆ แล้วภูมิใจมาก ภูมิใจกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้ความอบอุ่นกับบ้านหลังนี้ บางครั้งอยู่มานานจนแบบเราก็อายุมากแล้ว พอเห็นศิลปินใหม่ๆ เข้ามาบริษัทก็ต้องดูแลเด็กๆ ด้วย ผู้ใหญ่แล้วเราก็จัดสรร แบ่งเวลา ก็ต้องเข้าใจในเรื่องขององค์กรใหญ่”

เราถือว่าเป็นคนปูทางให้ไผ่ ตั๊กแตน ต่าย อะไรอย่างนี้?
“จริงๆ แล้วบริษัทแกรมมี่ดีกว่าเป็นคนที่ปูทางเริ่มต้น แต่ว่าพี่ไมค์เข้ามาเส้นทางไม่ได้ง่ายเหมือนตอนนี้”

แต่สิ่งนึงที่ให้น้อง คือสอนน้องให้คงเส้นคงวา ทำไมต้องยึดหลักนี้?
“คือเรามองตัวเราก่อน เราออกจากบ้านมา เรามีฝัน มีความตั้งใจ ในเมื่อตัวตนเราอยู่ที่บ้านยังไง แล้วเรามาอยู่อีกจุดนึงของสังคม สังคมให้โอกาสแล้ว เราก็อย่าลืมจุดแรกที่เราก้าวมา อย่างที่บอกทุกอย่างมันได้มาเพราะความเป็นตัวตนของเรา”

บทเพลงของพี่ไมค์ได้ฉายาเป็นขวัญใจคนใช้แรงงาน คำนี้มีความหมายกับพี่ยังไง?
“จริงๆ แล้วทางสื่อมวลชนทางผู้หลักผู้ใหญ่ บอกว่าเพลงที่เราร้องส่วนใหญ่ให้กำลังใจผู้ที่ใช้แรงงาน ก็เลยเป็นที่มาของขวัญใจผู้ใช้แรงงาน ก็เป็นความภาคภูมิใจมาก”

ก่อนจะเห็นสบายแบบนี้สมัยก่อนลำบาก ทำมาทุกอาชีพแล้ว รปภ.ก็เป็นมาแล้ว?
“เริ่มต้นตามฝันก็คือเข้ามาในกรุงเทพฯ มาทำงานก่อสร้าง เป็นเด็กเสิร์ฟ เด็กรับรถก็เป็น เด็กนวดห้องน้ำก็เป็น แต่เรามีฝันพยายามเสาะหา สมัยก่อนประจำอยู่คลองตัน มีดิสโก้เทคใหญ่มาก แล้วไปอยู่ที่นั้น พอรู้จักนักดนตรีที่เขาไปเล่น ก็แทรกตัวไปรู้จัก ไปฝากเนื้อฝากตัว พอรู้จักก็ให้เขาฝากงานให้ เป็นเด็กเสิร์ฟข้างใน”

แล้วพี่มาเป็นนักร้องได้ยังไง?
“ก็พอไปรู้จักนักดนตรี ก็ติดสอยห้อยตามเป็นเด็กขนเครื่องให้กับคุณใหม่ เจริญปุระ เสร็จแล้วพี่ๆ แนะนำ ให้รู้จักครูเพลงให้ไปเทสเสียง ติดสอยห้อยตามไปอยู่บ้านครูเพลง ไปทำงานบ้าน ล้างถ้วย ล้างชาม ล้างแก้ว เช็ดถูบ้านล้างรถ รดน้ำต้นไม้ทุกอย่าง หลังจากนั้นครูเพลงทำเดโม่ไว้ ตอนนั้นอาชีพมันเปลี่ยนไปแล้ว ขายลาบ ส้มตำ เป็นรถเข็น พอรู้ข่าวว่าแกรมมี่เขาเปิดตัวรับนักร้องลูกทุ่ง แล้วเดโม่ที่ครูทำให้เลยไปฝากให้ เผื่อวันข้างหน้าเขาได้สกรีน”

ตอนนั้นเราคาดหวังไหมว่าเราจะได้ไปเป็นศิลปินที่แกรมมี่?
“ไม่ได้คาดหวัง แต่เป็นความหวังส่วนนึงที่เราได้ฝากเสียงเราไว้”

คิดไหมว่าจะมาไกลขนาดนี้?
“เราไม่ได้คิดว่าเราจะมาไกล เพียงแต่ว่าได้เข้าไปเป็นนักร้องที่แกรมมี่ถือว่าโชคดีแล้ว เพราะว่าเราได้เดินตามฝันของเราสำเร็จแล้ว ตอนนั้นที่เป็นนักร้องชุดที่1 เราก็รู้ว่ามันไม่ได้สำเร็จง่ายๆ กว่าจะมาถึงชุดที่5 แต่เราก็ให้กำลังใจตัวเองตลอดว่าไม่เป็นไร วันนี้มันไม่สำเร็จ วันหน้าเรายังมี เรายังมีความหวัง คิดในแง่บวกตลอดว่าเราต้องให้กำลังใจ แล้วจริงๆ ที่พี่มาเป็นศิลปินแกรมมี่เพราะความบังเอิญ จากเป็นนักร้องคั่นเวลาให้กับเขา”

คือจริงๆ อยากจะใช้ชีวิตแบบอู้ฟู่ แต่พี่ไม่เลือก พี่ตัดสินใจไปซื้อที่แล้วก็ทำเกษตรที่อุดรฯ?
“ครับ พื้นเพเราคือลูกชาวนา ตั้งแต่ลืมตามาพ่อก็ลำบากพอช่วงนึงพ่อกับแม่ ที่นาก็ไม่มีต้องไปเช่าเขา พอเราโตมา เราก็อยากมีที่นาของตัวเอง พอถึงจุดนี้พี่ก็อยากได้ที่นาเป็นของตัวเอง อยากพัฒนาเกษตร ทุกสิ่งทุกอย่างมันเรียนรู้ได้เร็ว ซึ่งตั้งแต่พี่ซื้อที่มาส่วนนึงพี่ก็ไปปลูกอ้อย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จกับการทำไร่อ้อย เพราะมันทำเยอะเกิน แล้วอีกอย่างเราไม่มีเวลาด้วย เพราะอ้อยมันต้องใช้หลายๆ อย่าง แล้วสารเคมีก็เยอะ ก็เลยตัดสินใจไม่ทำ ที่นาที่มีอยู่ก็มาพัฒนาตั้งแต่ซื้อใหม่ๆ แล้ว เขาเรียกว่าเป็นเกษตรผสมผสาน ปลูกมะนาว ปลูกไผ่ ปลูกมะม่วง”

แล้วขายหรอ?
“ไม่ได้ขายครับ คือปลูกเพื่อให้รู้ว่าการทำเกษตร ถ้าเราทำเพื่อเป็นต้นแบบให้ชุมชนได้เห็นว่าขนาดผมเป็นนักร้องผมยังมีเวลามาทำเกษตรได้ แล้วถ้าทำได้ มันออกดอก ออกผลมา มันก็สร้างรายได้ให้กับครอบครัวด้วย”

แสดงว่าเกษตรที่เราลงไปทำ มันแค่ความสบายใจของเรา?
“ความสุขและความอยากทำ ตั้งแต่ทำมายังไม่ได้ขาย เลี้ยงปลาด้วย มันก็ได้อยู่ ได้กินในนั้น ทุกอย่างเป็นอินทรีย์หมดเราไม่มีสารเคมีเลย”

ขอบคุณภาพจาก mike_pirompron

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน