กลิ่นดราม่าร้อนระอุ! ผจก.ฟ้าใส ออกโรงแฉความจริง ด้านคนกองประกวด ฟาดกลับอีกด้าน ให้ลำดับเหตุการณ์ใหม่ก่อนออกมาแฉ
วงการนางงามไม่เคยพักเลยจริงๆ สำหรับประเด็นดราม่า ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น Miss Universe Thailand 2019 และ Top 5 Miss Universe 2019 กับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หลังจากมีกลิ่นดราม่าออกมาทีละระลอกให้แฟนนางงามชวนสงสัยเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ทั้งคู่กันแน่ เพราะวันประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020รอบพรีลิมมินารี กลับไร้เงา ฟ้าใส มาร่วมงาน ซึ่งพอมีคนไปถามฟ้าใสกลับได้คำตอบมาว่า “ทางกองประกวดไม่ได้เชิญ”
แต่พอวันประกวดรอบตัดสิน Miss Universe Thailand 2020จบลง กลับมีเรื่องให้แฟนนางงามสงสัยขึ้นไปอีก เมื่อมีภาพคนถือกล่องใส่มงกุฎตามฟ้าใสอยู่ แถมฟ้าใสเองโพสต์ไอจีสตอรี่เป็นภาพมงกุฎพร้อมข้อความว่า “bye”
ภาพคนถือกล่องใส่มงกุฎตามฟ้าใส
จากนั้น ฟ้าใส ได้ออกงานครั้งแรกหลังจากหมดวาระมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 แต่กลับไม่ได้สวมใส่มงกุฎและสายสะพายที่แสดงถึงฐานะและตำแหน่งของเธอ เช่นเดียวกับนางงามคนอื่นๆ ที่มาร่วมงานในงานเดียวกัน อย่าง บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ Miss international 2019,วาเลนติน่า ฟิเกร่า MissGrand International 2019 ,นิโคลีน พิชาภา รองอันดับหนึ่งเวที Miss World 2018 กลับสวมมงกุฎและสายสะพาย
ด้านผู้จัดการส่วนตัวของฟ้าใส เอส อนุสิทธิ์ ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการตอบคอมเมนต์แฟนๆ พร้อมทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ ว่าถ้าน้องไม่เซ็นต้องไปถามน้องว่าทำไมไม่เซ็น เพราะของรางวัล มงกุฎ เงินรางวัล รถยนต์ ร่วม 10 ล้านมันเยอะมาก แต่ทำไมตอนเป็นรองนางสาวไทยกับ รอง MUT ยุคคุณแดงของรางวัลน้อยกว่านี้ฟ้าใสถึงยอมเซ็น ทำเอาแฟนนางงามงงเป็นไก่ตาแตกยิ่งขึ้นอีก
จากนั้น ผู้จัดการฟ้าใส ทิ้งบอมบ์ชวนสงสัยอีกลูกว่า เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนจนได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ฝึกฝน อดทน จนได้มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 รับแรงกดดันทุกอย่างจนได้ top5 มิสยูนิเวิร์สเธอไม่เคยได้พูดอะไรเลย จากคำใส่ร้ายป้ายสีหรือการถูกเข้าใจผิดต่อไปนี้พี่เอสจะขอพูดความจริงอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับเรื่องราวต่างต่างเองครับ#งดดราม่า#เอาความจริงมาคุยกัน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนี้ ฟ้าใส ได้แชร์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ
แต่ที่พีคไปกว่านั้น คุณออน ชิชญาสุ์ อดีตผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และเป็นผู้จัดกองประกวดปีเดียวกับที่ ฟ้าใส เซ็นสัญญาตอนเป็น รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 คอมเมนต์โพสต์ที่ฟ้าใสแชร์ “เป็นกำลังใจให้นะคะ”
โดยเมื่อคืนวานนี้ ผู้จัดการฟ้าใส ชี้แจงเรื่องที่มีแฟนนางงามอินบ็อกซ์มาถามภาพคนที่กล่องมงกุฎตามฟ้าใสในวันรอบตัดสินว่า “เมื่อไปถึงงานตนไม่ทราบว่า ฟ้าใสไม่มีมงกุฎ และไม่ขอตอบถึงสาเหตุให้ฟ้าใสกับกองประกวดเป็นคนมาตอบเองดีกว่า
ส่วนเหตุการณ์ในวันนั้น ตนได้ประสานงานกับสตาฟเพื่อขอมงกุฎให้ฟ้าใส ซึ่งทางทีมงานคุยกับทางผู้ใหญ่และประมาณ2-3ทุ่ม สตาฟผู้หญิงท่านหนึ่งก็ถือกล่องมงกุฎเพื่อให้ฟ้าใสใส่อำลาตำแหน่ง แต่พอฟ้าใสอำลาตำแหน่งเสร็จแล้วปุ๊บ น้องสตาฟผู้หญิงที่ถือมงกุฎมาให้ก็เข้ามาห้องแต่งตัวทันที เพื่อขอมาเก็บมงกุฎคืน ฟ้าใสจึงเดินมาหาพี่เอสและพูดแบบจะร้องไห้ว่า พี่เอสช่วยขอเขาหน่อยได้ไหมค่ะว่า หนูอยากใส่มงกุฎไปถ่ายรูปกับแฟนคลับสัก15นาที ซึ่งตนเลยเดินไปบอกสตาฟผู้หญิงท่านนั้นว่า ขอน้องใส่มงกุฎไปถ่ายรูปกับแฟนคลับ15นาที เดี๋ยวมาถอดคืนให้
จากนั้นน้องก็ได้ออกไปถ่ายรูปกับแฟนคลับแบบในภาพที่ทุกคนเห็น โดยมีสตาฟท่านนึงเดินถือกล่องมงกุฎประกบน้องตลอดเวลาและคอยบอกน้องว่าหมดเวลาแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนได้แต่สงสารน้องจับใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะน้องอยากถ่ายรูปกับแฟนคลับให้นานที่สุดกับมงกุฎบนหัว พี่เอสก็เข้าใจว่าสตาฟเขาก็ทำหน้าที่ของเขา แต่เราอดสงสารน้องเราไม่ได้ สุดท้ายน้องก็มาถอดมงกุฎให้สตาฟท่านนั้นไปในห้องแต่งตัว และนี่คือความจริงทั้งหมดในวันนั้นทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่ต้องคาดเดาอะไร
พร้อมทิ้งท้ายชวนสงสัยว่า ส่วนเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ จะมาเล่าให้ฟังเร็วๆนี้ เพราะทุกอย่างต้องกลั่นกรองเพื่อไม่ให้กระทบกระทั้งพาดพิงใครในทางเสียหาย อยู่บนความจริงทางกฎหมายมากที่สุด”
จากนั้นมีคนตอกกลับโพสต์ของผู้จัดการฟ้าใส ที่หลายคนคาดเดาว่าน่าจะเป็นคนถือเก่ามงกุฎตามฟ้าใสตามภาพว่า “พี่รักฟ้าใสมาก แต่หน้าที่และความรับผิดชอบ พี่ถือความซื่อตรงใหญ่กว่าความรัก ตั้งแต่ต้นการนำมงกุฎออกจากหัวแต่งตัว พี่เอสและฟ้าใส ต้องคุยกับกองและขออนุญาตให้เคลียร์ เอาเป็นว่าให้หนูพูดต่อหน้าพี่ไหมค่ะ มันเห็นภาพ หรือไปเจาะเบาแส สถานที่จริงอีกครั้ง เราว่ากันด้วยข้อกำหนดและข้อเท็จจริง ดีกว่าพี่”
สังเกตไหม ตนรู้ทุกอย่างแต่ไม่เคยพูดอะไรเลย ใครจะมีปัญหาอะไรกับใครพี่ไม่เคยเอามาใส่ใจ แต่พี่อยู่ในหน้าที่ปฏิบัติงานและเรื่องนี้พี่เอสเขียนใหม่ได้นะ หนูเป็นคนกลางเห็นใจทุกฝ่าย แต่หน้าที่คือ หน้าที่นะพี่
#พี่ขออนุญาตกองยัง ที่เอามงกุฎออกจากห้อง เอาจริงๆพี่ควรขออนุญาตกองก่อนนะ เมื่อลงจากเวที หนูทำหน้าที่ของหนู มงกุฎไม่ใช่ถูกถ้าเกิดอะไรขึ้น แม้แต่เพชรเม็ดเดียวหลุด คือ หนูรับผิดชอบเต็มๆ จริงๆจะทำอะไรถึงขั้นไหน น่าจะคุยหรือขออนุญาตกันให้จบนะพี่ พี่เอสควรไล่ลำดับเหตุการณ์ใหม่นะ
งานนี้ เหล่าขาเผือกคงต้องรอปูเสื่อรอฟังความจริงจากปากฟ้าใสและกองประกวดอีกที
ขอบคุณเฟซบุ๊กEd Anusit และ อินสตาแกรม paweensuda
