วันที่ 21 ก.ย. ที่สยามพารากอน มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง นางเอกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในงานฉลอง 20 ล้านเครื่อง “iRobot” กรณีถูกหนุ่มคลั่งไคล้หนักบุกถึงบ้านและล็อกกุญแจประตูรั้วว่า เป็นเรื่องที่ค่อนข้างกังวลและกลัวมาก เราไม่รู้ตัวเลย เขารู้เหตุการณ์ทุกอย่างในบ้านว่าอยู่กันกี่คน และมีอะไรบ้าง เท่าที่ดูคลิปกล้องวงจรปิด เขามาหยิบเอกสารในตู้ไปรษณีย์หน้าบ้านไปเหมือนเป็นความเคยชิน ขนาดมิ้นต์อยู่บ้านใหม่ ยังไม่รู้เลยว่าเอกสารตรงตู้ไปรษณีย์มันหยิบยังไง รวมถึงโทร.มาทางเบอร์เลขาฯของคุณแม่ที่เป็นคนรับงานให้มิ้นต์ รวมถึงยังนำรูปที่ค่อนข้างไม่เหมาะสมไปลงในโซเชี่ยลฯ แต่มิ้นต์ไม่เคยเอาผิดเพราะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา กระทั่งเขาเริ่มเข้าใกล้ตัวเรามากเลยเริ่มกังวล
“จนถึงวันที่มาล็อกกุญแจหน้าบ้าน วันนั้นคือคุณแม่อยู่บ้านคนเดียว ส่วนมิ้นต์ถ่ายละครอยู่ พอรู้ข่าวก็ค่อนข้างตกใจ ยิ่งตำรวจไปสอบถามพนักงานร้านสะดวกซื้อก็ได้คำตอบว่าเขามาทุกวันตอน 7 โมงเช้า จะมานั่งดื่มแอลกอฮอลล์บ้าง ซื้อกาแฟบ้าง ทุกวันนี้เลยต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะกว่าจะจับเขาได้ก็ใช้เวลาหลายวัน” นางเอกหน้าหวานกล่าว
มิ้นต์กล่าวต่อว่า ล่าสุดตกใจมาก เขาส่งจดหมายมาที่บ้านในวันที่ 13 ก.ย. หลังจากโดนจับไปไม่กี่วัน แสดงว่าเขาออกมาแล้ว มิ้นต์โทร.ไปเช็กสถานีตำรวจ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าออกมาแน่ชัดหรือยัง แต่มิ้นต์แจ้งไปทางตำรวจว่ามีจดหมายของเขา ส่งเสื้อ ส่งซีดี และโทร.มาอีกแล้วทุกวัน ก่อนหน้านี้มิ้นต์เดินทางไปต่างประเทศ เขาโทร.ติดต่อเบอร์ของผู้จัดการไม่ได้ เลยโทร.ไปหาญาติมิ้นต์แทน บอกว่าอยากจะมาขอโทษที่ล็อกกุญแจบ้าน ซึ่งมันก็ยังไม่จบ ก็ไม่ทราบว่าใครประกันตัวเขาออกมา
นักแสดงสาวกล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้เวลาออกมางานก็จะระแวงมาก คอยมองตรงนั้นตรงนี้ทีเพราะไม่มั่นใจ คือมิ้นต์ไม่เคยเห็นเขาตัวจริงๆ เคยเห็นแต่ในรูปตามบัตรประชาชนแค่นั้น ตอนนี้ทางตำรวจก็ประสานคนในละแวกบ้านให้สอดส่องและระมัดระวัง ส่วนมิ้นต์ก็จะไม่เปิดประตูบ้านทิ้งไว้ รวมถึงติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม สุดท้ายอยากฝากถึงญาติของเขาให้ช่วยดูแล แม้มิ้นต์ไม่ติดใจอยากเอาความ แต่เนื่องจากเขาเคยมีคดียาเสพติดและพกอาวุธปืน ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างอันตราย
“ยิ่งไปกว่านั้น เขายังส่งข้อความไปหาพี่ภูผา (เตชะณรงค์) ด้วยว่าให้ช่วยควบคุมมิ้นต์หน่อย อย่าให้ไปยุ่งกับเขา (หัวเราะ) ซึ่งแบบเขาเริ่มไปหลายที่ และไปหาคนใกล้ตัวของมิ้นต์ด้วยการส่งข้อความค่ะ” นางเอกสาวกล่าว
