ลูกทุ่งสาวสุดแซ่บ ตั๊กแตน ชลดา แจงเหตุฟาดหนุ่มคอมเมนต์บูลลี่ขาใหญ่ ลั่นไม่ใช่คนดี ร้ายมาร้ายกลับ ตามแบบฉบับ “ชลดาสไตล์”

ปล่อยซิงเกิลใหม่ “รุ่นนี้บ่มีคำว่าเหงา” ออกมาให้ได้ฟังกันสดๆ ร้อนๆ วันนี้(11พ.ย.2563) ลูกทุ่งสาวสุดแซ่บ ตั๊กแตน ชลดา เลยถือโอกาสมาฝากผลงานกับแฟนๆ ข่าวสด ที่ อาคารสำนักงานข่าวสด ย่านประชานิเวศน์1 ในลุกส์สาวเฟียร์ซพร้อมฟาดที่เห็นแล้วทำเอาอ้าปากค้างเลยทีเดียว

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พร้อมกันนี้ สาวตั๊กแตน ยังเปิดใจถึงเรื่องที่โดนหนุ่มคอมเมนต์บูลลี่ต้นขา จนเจ้าตัวฟาดกลับแบบจุกๆ รวมถึงอัพเดตอาการป่วยของคุณพ่อที่เพิ่งเข้าไอซียูเมื่อวานที่ผ่านมา(10พ.ย.)

ปล่อยเพลงใหม่ล่าสุดมาแล้ว?

รุ่นนี้บ่มีคำว่าเหงา ถามว่าแซ่บแค่ไหน ปังปุริเย่เฟเฟียร์ซฟาดปาดหน้าตะลิงปิงค่ะ(หัวเราะ) ที่เห็นว่าเป็นลุกส์นี้เพราะว่าเราอยากให้มันมีความเปลี่ยนแปลง ไม่อยากให้ทุกคนต้องมานั่งจำกัดความว่าตั๊กแตนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แตนอยากมอบความสุขให้กับแฟนเพลงได้ทุกรูปแบบ”

เพลงนี้เป็นตัวแทนความสตรองของสาวโสด?

“ใช่ค่ะ เพลงนี้พูดถึงความสตรองของคนที่ผ่านโลกมาเยอะ ผ่านมาอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเรื่องหน้าที่การงาน ความผิดหวัง ความเศร้า ความรัก ทุกๆ เรื่อง วันนี้ก็อยากนำเพลงนี้มาให้ทุกคนได้มีพลังบวกที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขด้วยการอยู่กับตัวเอง”

เรื่องความสตรองต้องยกให้ ตั๊กแตน ชลดา เพราะถือเป็นเจ้าแม่การรับมือนักเลงคีย์บอร์ดได้อย่างสบายมาก?

“(หัวเราะ) ใช่ๆ ค่ะ ล่าสุดที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์เกี่ยวเรื่องขา จริงๆ เราแค่มีความรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชาย แล้วมาพูดจาแบบนี้กับผู้หญิง เรามองว่ามันไม่โอเค ถ้าผู้หญิงทุกคนได้อ่านก็จะรู้สึกสะดุ้งเหมือนกันต่อให้แตนไม่ได้เจอด้วยตัวเอง หรือไปเจอผู้ชายคนนี้ไปเมนต์คนอื่น เราก็จะรู้สึกหือ…อะไรอย่างเนี้ย ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชายอ่ะ นึกออกป่ะ”

“แล้วก็มาเมนต์ว่า “นั่นขาหรือต้นกล้วยครับ แยกไม่ออกจริงๆ” อันนี้เขาเมนต์ยังไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยตอบกลับไปว่า “โทษนะคะ นี่ปากคนหรือปากหมา พูดคะ แยกไม่ออกจริงๆ ค่ะ” คือเราคิดยังไงก็พูดอย่างนั้น เราแค่แบบเอ๊ะ! ถ้าเขาเจอในมุมนี้ตอบกลับเขาบ้างเขาจะรู้สึกยังไง อยากให้เขารับรู้ถึงว่าสิ่งที่เขาพูดมามันก็ทำให้คนอื่นรู้สึก ต่อให้เขาเป็นจริง ต่อให้ขาเขาเป็นต้นกล้วยจริง หรือเขาดำ เขาไม่สวย แล้วไงอ่ะ มันไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดี”

ถูกใจหลายคนเหมือนกันที่ฟาดกลับไปแบบนั้น?

“นิสัยแตนจริงๆ ก็ไม่ได้จะชอบฟาดอะไรสักเท่าไหร่นะคะ นี่ถือว่าน้อยนะ ส่วนใหญ่แตนปล่อยผ่าน แต่ถ้าวันไหนที่รู้สึกกึ๊กขึ้นมา หรือว่าวันนั้นเป็นเมนส์หรืออะไรก็แล้วแต่ วันนั้นอาจจะมีฟาดงวงฟาดงากลับ แต่ก็ไม่ได้ว่าจัดทุกเซ็ต คือน้อยมากที่จะฟาด”

ถือเป็นคนหนึ่งที่โดนบูลลี่เยอะมาก?

“เยอะ อย่างเวลาแตนไม่แต่งหน้าไลฟ์ขายของอยู่บ้านก็จะหาว่าหมดสภาพโน่นนี่นั่น ตั้งแต่ตอนโน้นที่มีเอาไปทำข่าวกัน อันนั้นก็ล็อตหนึ่งแล้ว แล้วก็เรื่องความอ้วนนี่ก็ล็อตหนึ่ง พอเราอวบๆ หน่อยเวลาอยู่ในจอมันก็จะขยาย อันนั้นก็จะโดนไปอีกดอกหนึ่ง คราวนี้พอไปคอนเสิร์ตล่าสุดมีใส่กระโปรงที่มันเห็นต้นขาหน่อย อ่ะ! นี่ขาหรือต้นกล้วย นี่ก็อีกดอกหนึ่ง”

“แต่จริงๆ แตนก็ไม่ได้อะไรเพราะแตนมองว่าคนที่มาบูลลี่เราเขาก็ไม่ได้ดูดีไปกว่าเรา(หัวเราะ) เลยมีความรู้สึกว่าคนนี่มันห้ามความคิดไม่ได้จริงๆ เยอะ ขนาดแบบซูเปอร์สตาร์ค้างฟ้าเขายังหนีไม่พ้นเลย เอางี้พระพุทธเจ้าท่านยังหนีคำนินทาไม่พ้นเลย เพราะฉะนั้นเราก็ช่างมัน ปล่อยผ่านบ้าง”

พอโดนบูลลี่เรื่องรูปร่างเยอะ เคยคิดอยากทำศัลยกรรมไหม?

“จริงๆ แตนทำศัลยกรรมตั้งแต่ก่อนโดนบูลลี่แล้ว ซึ่งแตนมีความรู้สึกว่าโอเคกับตัวเองแล้ว แตนไม่จำเป็นจะต้องไปทำศัลยกรรมเพิ่มเพียงเพราะถูกคนอื่นบูลลี่ ถ้าใครบูลลี่แตนหนักๆ มากก็จะบอกว่า…พาปากตัวเองไปให้หมอเย็บบ้างนะ ศัลยกรรมตัวศัลยกรรมได้ แต่ศัลยกรรมจิตใจศัลยกรรมไม่ได้ อันนี้คืออยากฝากบอกค่ะ

เคยคิดอยากฟ้องเหมือนดาราหลายคนเริ่มทำกันไหม?

“แตนมองว่าอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องจริง หรือเป็นการคุกคามจนแบบมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะรับได้ จริงๆ แตนก็เห็นด้วยในการฟ้องร้อง ซึ่งดีทำให้เขาได้รู้บ้างว่าการที่คุณเอาชื่อเสียงเขาไปพูดให้มันป่นปี้ หรือทำให้มันเป็นมุมมองที่อยู่ในแง่ลบ เขาซึ่งทำมาหากินอยู่ตรงนี้ เขาจะได้รับความเสียหายระดับไหน เหมือนคุณไปตัดแขนตัดขาเขาทั้งๆ ที่เขาอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น”

“สมมติว่ามีดาราคนหนึ่งเขาไม่ได้ไปแย่งแฟนคนอื่น แต่คุณไปบอกว่าเนี่ย! เขาไปย่งแฟนคนนี้มา นี่มันทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วทำให้คนที่เคยรักเขาทั้งประเทศกลายเป็นเกลียดเขาทั้งประเทศ ซึ่งแตนมองว่าเคสแบบนี้มันควรจะมีการฟ้องร้องบ้างก็ดี แตนเห็นด้วยถ้าอันไหนที่มันเกินไป แต่ไอ้อย่างเนี้ยแตนไม่ฟ้องร้องหรอกที่บอกว่าขาต้นกล้วยเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องขนาดนั้น แต่ก็อาจจะต้องฟาดกลับเพื่อให้เขารู้สึก”

หลายคนจะมองว่าตั๊กแตนเป็นคนแรงๆ ตัวจริงแรงขนาดนั้นไหม?

“จริงๆ แตนไม่ใช่คนดีนะ แตนบอกเลยว่าแตนไม่ใช่คนดี แตนอ่ะมีทุกมุม มุมดี มุมร้าย ใครทำกับแตนยังไงคุณจะเห็นมุมๆ นั้นจากแตน ถ้าคุณร้ายมา คุณโยนก้อนหินมา จะให้ฉันขว้างดอกไม้ให้คุณเหรอ ไม่มีทาง นี่แหละ…ชลดาสไตล์”

ถามถึงเรื่องที่หลายคนเป็นห่วงหลังโพสต์ว่าคุณพ่อเข้าไอซียู?

“ใช่ค่ะ เมื่อวานนี้(10พ.ย.)พ่อเกิดอาการชักกระตุกอย่างแรง เสร็จแล้วก็ปากเบี้ยว พอพาพ่อเข้าไปที่โรงพยาบาลก็ไปเจาะเลือดและตรวจสมองด้วย เพราะเขากลัวว่าจะเป็นเส้นเลือดในสมองตีบหรือเปล่า แต่ผลปรากฏหมอใหญ่บอกว่าพ่อเป็นเบาหวาน ซึ่งเราไม่รู้มาก่อนเลยว่าพ่อเป็นเบาหวาน แล้วทีนี้น้ำตาลมันขึ้นเกือบพัน เลยทำให้พ่ออยู่ในภาวะที่กระตุกและปากเบี้ยวแบบนั้น เราก็เพิ่งรู้ว่าเบาหวานมันเป็นโรคที่รุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ แล้วก็ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าพ่อเป็นเบาหวาน”

อาการของพ่อตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

“ตอนนี้คือพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่พ่อยังต้องอยู่ในห้องไอซียูเพราะคุณหมอบอกว่ายังต้องเฝ้ารอดูอาการเพื่อให้ระดับน้ำตาลมันคงที่ก่อน”

วินาทีที่รู้ว่าพ่อป่วยเข้าไอซียู?

“จริงๆ เมื่อคืนจะไปหาแล้ว แต่พี่สาวบอกว่าไม่ต้องมาหรอกพรุ่งนี้เดินสายตั้ง 3-4 ที่ ทำงานให้สบายใจ ทางนี้พี่อยู่แล้ว แม่ก็อยู่ แล้วก็ถึงมือหมอแล้ว หมอเก่งมากไม่ต้องห่วงนะ ทุกคนก็ปลอบใจ วันนี้นี่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแตนตาบวม เอะอะอะไรถ้าเกี่ยวกับพ่อแม่หรือว่าครอบครัวคือมันเซ้นซิทีฟไง เมื่อคืนก็ร้องไห้ไปก่อนคือเรากลัวและกังวล นอนไม่ค่อยหลับด้วยค่ะ”

แต่ว่าพ่อรู้สึกตัวดีใช่ไหม?

“พ่อรู้สึกตัวดีค่ะ แต่ว่าก็จะมีอาการเบลอๆ หน่อย หลังจากนี้ต้องระวังอย่าให้น้ำตาลขึ้นก็น่าจะเป็นเรื่องของการกิน เหล้ายาก็คือต้องงด นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พ่อป่วยหนัก ครั้งแรกพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจต้องยิงบอลลูน อันนั้นก็คือพ่อรอดตายมาแล้วรอบหนึ่ง เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง แล้วก็มาครั้งนี้ที่เคสหนักอีกรอบหนึ่ง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน