ดาราสาว เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน รักสะดุด เบรกแพลนแต่ง ถอยคนละก้าวแฟนหนุ่ม ยันไม่มีปัญหามือที่3 ลั่นไม่รู้อนาคตจะเอายังไง

หลังจากที่นักแสดงสาว เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ด้วยการคุกเข่าขอแฟนหนุ่ม พีท ศักดิเดช แต่งงานไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่กลับสังเกตเห็นว่าตอนนี้เจ้าตัวได้ลบรูปคู่กับแฟนหนุ่มออกจากไอจี จนทำให้เกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดวันที่ 3 พ.ย.2563 เฌอเบลล์ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน ในงานบวงสรวงละคร “วันทอง” ช่องวัน31 ที่แอ็กซ์ สตูดิโอ จ.ปทุมธานี ถึงความสัมพันธ์ตอนนี้ ว่าเธอและแฟนหนุ่มได้ถอยกันคนละก้าว เนื่องจากสถานการณ์ด้านการงานต่างๆ จึงทำให้การพูดคุยเครียดและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ

ความรักของเราเป็นอย่างไรตอนนี้?

“จะเริ่มต้นยังไงดี ตอนนี้สถานะก็มันก็จะซับซ้อนนิดหนึ่ง ด้วยโควิดอะไรหลายๆ อย่าง และด้วยงานมันก็มีความเครียดกันทั้งสองฝ่าย เลยคุยๆ กันว่า เราลองถอยกันมาคนละก้าวแล้วโฟกัสงานก่อนไหม”

ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน มันเลยเป็นสาเหตุ?

“ก็ด้วยค่ะ แล้วด้วยความเครียดด้วย ช่วงนี้เหมือนว่าเขาทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แล้ววงการท่องเที่ยวมันก็กระทบหนัก วงการบันเทิงที่เราไม่เคยจะกระทบก็กระทบ แล้วต่างคนต่างมีภาระของตัวเอง คือมันหลายอย่าง เวลาเราคุยกันมันอาจจะมีความเครียด มันซับซ้อนค่ะ เราอยู่ตรงนี้เหมือนเราได้โฟกัสอะไรอย่างหนึ่งแล้วมันดีขึ้น”

ยังไม่ได้ใช้คำว่าเลิก?

“คือใช้คำว่าถอยออกมาคนละก้าว ตอนนี้ก็แบบยังไม่รู้อนาคต เราก็ยังรู้สึกที่ดีต่อกัน”

รูปคู่ที่หายไปซ่อนเอาไว้หรือลบเลย?

“คือด้วยความที่เรามาโฟกัสที่งาน เราก็เลยมีการบอกเขาว่าด้วยไอจีของนักแสดงมันคือโปรไฟล์หน้าตาของการทำงาน ทีนี้มันก็จะมีผลกระทบนิดหน่อยเวลาลูกค้าเห็นรูป มันอาจจะไม่เหมาะกับสินค้า เราก็เลยมาคุยกันว่าขอเอาออกนะ”

แผนของเราที่จะแต่งงานก็คือพักไปก่อน?

“ใช่ ก็คือพักไปก่อน รอให้อะไรๆ มันเข้าที่เข้าที่เข้าทาง เดี๋ยวค่อยมาคุยกันใหม่อีกที”

ระยะเวลานานขนาดไหนแล้วที่ถอยกันออกมา?

“สักพักแล้วตั้งแต่โควิดเริ่มมีปัญหา (ต้นปี?) ก็ไม่กี่เดือนค่ะ ถามว่ายังได้ติดต่อกันมั้ย ยังคุยค่ะ ยังมีธุระปะปังที่จะต้องคุยต้องเคลียร์กันอยู่ มีคุยกันปกติ ทักว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง ธุรกิจที่เขาทำอยู่เป็นยังไงบ้างก็มีถามกัน”

ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เราออกตัวแรงใช่ไหม?

“อันนั้นก็เป็นวัยของเราตอนเด็กๆ ตอนที่เรารักเราก็เป็นคนเต็มที่ แล้วก็ไม่ได้เสียใจจากจุดนี้ เพราะว่าเราก็ทำเต็มที่แล้ว แต่ว่าพอมันมาถึงจุดที่เราพยายามกันทั้งคู่ แต่ถ้าตอนนี้เราฝืนมันก็จะแย่ เราต้องหยุดไว้ก่อน ตอนนี้เราต้องเอาที่ต้องโฟกัสหนักจริงๆให้มันดีก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกที”

ได้มีการเปิดใจคุยกันบ้างไหม?

“มีค่ะ มี (แต่มันไม่ได้แล้วใช่ไหม?) มันเป็นเรื่องของอนาคตค่ะตอนนี้เราต้องโฟกัสอันที่มันจะพาให้เรามีชีวิตรอดก่อน ตอนนี้มันย่ำแย่มาก”

คิดว่าจะมีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม?

“มันยังเป็นเรื่องของอนาคต ถ้าเกิดเรายังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว”

ไม่เปิดรับใครเข้ามาเลยใช่ไหม?

“เราก็ไม่ได้เปิด เราโฟกัสที่งานอยู่ค่ะ ส่วนทางผู้ใหญ่เขาก็บอกว่ามันเป็นเรื่องของเรา”

แล้วสภาพจิตใจเราตอนนี้โอเคไหม?

“ก็โอเคอยู่ ถามว่าร้องไห้มั้ยตอนนั้นที่คุยกัน มันก็ต้องมี เพราะว่ามันเป็นด้วยอารมณ์หลายๆ อย่าง มันมีหลากหลายอารมณ์ ณ ตอนนั้น มันก็เลยคิดว่าถ้าเกิดเรายังรู้สึกดีต่อกันเรารอสักแป๊บนึง ถ้าเกิดทุกอย่างสถานการณ์มันดีขึ้น เดี๋ยวเราว่ากันใหม่ ว่าเราจะอะไรยังไง”

ทุกวันนี้ยังคงคิดถึงเขาอยู่ไหม?

“คนมันอยู่ด้วยกันขนาดนี้ มันก็มีความผูกพัน มันก็มีทักทายกันปกติ”

ได้มีข้อตกลงกันใหม่ว่าต่างคนอาจจะต่างเปิดใจ?

“จริงๆ เราไม่ได้กำหนดอะไรไว้เลยค่ะ เราไม่ได้ซีเรียสอะไรด้วย ด้วยความที่เราเข้าใจกัน เราเข้าใจเรื่องการงานเป็นหลัก คือต่างคนต่างมีครอบครัวที่จะต้องดูแล มันก็ต้องสำคัญเรื่องนี้ว่าเราจะต้องเอาครอบครัวไปให้รอดในช่วงวิกฤติแบบนี้”

แล้วเราซีเรียสไหมที่หลายคนมองว่าเราออกตัวแร งเรื่องที่ไปคุกเข่าขอฝ่ายชายแต่งงาน?

“ซีเรียสมั้ย จริงๆ มันก็เป็นความผิดของเราด้วย ความที่เรารักเราก็เต็มที่ วัยเด็กบางทีเราอาจจะไม่ได้คิดเยอะมากไป แล้วด้วยความรักเราก็เต็มที่ แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสเพราะรู้สึกว่าเต็มที่แล้วจริงๆค่ะ”

มีเรื่องของมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องไหม?

“ไม่มีค่ะ ไม่มี เพราะทั้งเราและทั้งเขาไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้กันอยู่แล้วค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน