ดาราหนุ่มเข้ม ท็อป จรณ โสรัตน์ แจงข่าวพระเอกโดนแจ้งความกลับ – อัพเดตหัวใจโสดสนิท เผยเลิก น้องหยดน้ำ ได้ 4 เดือนแล้ว
เมื่อวานนี้(16พ.ย.2563) พระเอกหนุ่ม ท็อป จรณ โสรัตน์ มาร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เจแฮร์ เซรั่ม ในฐานะพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ พร้อมให้สัมภาษณ์ ถึงประเด็นที่ยื่นฟ้องเพจดัง กรณีเขียนข่าวสร้างความเสียหายชื่อเสียงให้กับตนและครอบครัว แต่กลับโดนแจ้งความกลับจากคู่กรณีในข้อหาหมิ่นประมาทที่แจ้งความเท็จผิดคน ทั้งนี้ยังได้เปิดใจครั้งแรกถึงสาเหตุที่เลิกรากับ น้องหยดน้ำ นัดดาภรณ์ นิวาตวงศ์ อดีตแฟนสาว
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
มีข่าวว่าโดนสาวคนหนึ่งแจ้งความกลับ?
“เรื่องนี้ผมยังไม่ทราบเลยครับ ถ้าถามถึงเรื่องแจ้งความผมก็ยังไม่ได้รับเอกสารอะไรเลย”
ทางทนายยังไม่ได้แจ้งเรา?
“คือผมเรียนอย่างนี้ครับ ในเรื่องของการแจ้งความหรืออะไรก็ตามมันจะต้องมีเอกสารส่งมาให้ผม ณ วันนี้ผมยังไม่ได้เอกสารใดๆ ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าที่พี่ๆ พูดถึงเป็นผมหรือเปล่า”
ย้อนกลับไปเราได้แจ้งความกับเพจหนึ่ง?
“ถูกต้องครับ ผมได้แจ้งความกับเพจเพจนึงครับ ผมแจ้งความเป็นเพจนะครับ เพราะผมไม่ทราบว่าตัวบุคคลเป็นใคร”
แจ้งความเรื่องหมิ่นประมาท?
“ใช่ครับ พี่ๆ น่าจะได้ทราบข่าวไปว่ามีการเขียนข้อความที่จูงใจให้คนเข้าใจผิด ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าจะดำเนินคดี ซึ่งผมเองเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ทราบว่าเพจนั้นคือใคร ก็ได้มีการแจ้งความไปที่เพจโดยเฉพาะ”
อีกฝ่ายบอกว่ามีการแจ้งความผิดตัว?
“ผมเรียนอย่างนี้ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นการดำเนินการของพนักงานสืบสวนครับ มีขั้นตอนหลายๆ อย่าง แต่ว่ามีการเข้ามาพูดคุย ซึ่งทนายผมได้เข้าไปพูดคุยครับ”
เราได้มีการติดตามคดีไหม เพราะมีข่าวว่าทางศาลไม่รับแจ้งเพราะไม่มีมูลเหตุว่าเป็นเขา?
“อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับเพราะว่าความลับทางราชการแล้วก็เป็นเรื่องของพนักงานสืบสวน”
ที่เราแจ้งความไปมันมีขั้นตอนอะไรบ้าง?
“ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนอยู่นะครับ เรื่องของการสืบสวนเนี่ยผมเองเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีสิทธิ์เข้าไปรับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือมีการดำเนินการอย่างไร มันเป็นความลับทางราชการ เราให้รายละเอียดไม่ได้เลย”
ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างจะนานแล้ว เรายังติดใจอยู่ไหม?
“ผมก็ว่านาน แต่ว่าเราก็ต้องเคารพกระบวนการทางกฎหมายของเรานะครับ ต้องให้เกียรติทางพนักงานสืบสวนเขาสืบ ผมว่าจริงๆ แล้วใครๆ ก็อยากให้เรื่องจบโดยเร็วที่สุดแหละ”
มันคืบหน้าบ้างไหม?
“ก็มีความคืบหน้าครับ คือผมเองเป็นผู้เสียหายก็อยากเร่งอยากรู้เหมือนทุกคนแหละ แต่ก็ต้องให้เกียรติพนักงาน”
ยืนยันว่าไม่ได้แจ้งความผิดตัว เราแจ้งแค่เพจอย่างเดียว?
“ใช่ครับผม”
เขาฟ้องกลับมามันมีผลกระทบกับเราไหม หรืออยากจะชี้แจงอะไรบ้าง?
“ผมก็ยังไม่ได้เห็นข่าวอะไรเลย ผมก็เพิ่งทราบจากพี่ๆ แต่ก็ไม่ได้กังวลเพราะไม่ได้ทำผิดอะไร (ถ้าเป็นเราจริงๆ) ก็ไม่ได้กังวลอะไร”
อีกฝ่ายบอกว่าอยากให้เราขอโทษ หรือถอนฟ้องแต่เรานิ่งไปเป็นเดือน เลยจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด?
“อันนี้ก็เป็นสิทธิของเขานะครับ ก็ต้องเคารพสิทธิของเขา”
ทางเพจมีส่งตัวแทนมาไกล่เกลี่ยไหม?
“ไม่มีเลยครับ”
วันนี้ยังยืนยันจะเอาผิด?
“ก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย กับเขาเนี่ยผมไม่อยากใช้คำว่าเขา ผมอยากใช้คำว่าเพจมากกว่า อย่างที่แจ้งไปเลยว่าผมมอบหมายทนายให้ไปแจ้งความ ณ วันนี้อยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สืบสวนครับ”
วันนั้นอะไรคือจุดที่ทำให้เราลุกขึ้นมาฟ้อง?
“คือผมมองประเด็นที่มันมีการเขียนข่าวเท็จขึ้นมาเพื่อโจมตีผมและครอบครัว ซึ่งมีการได้ชี้แจงไปแล้วจากบุคคลคนนึงที่บอกไปแล้วว่ามันไม่ใช่ความจริง ตรงนี้ผมก็เลยไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงต้องมาทำร้ายผมและครอบครัว ผมเองไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย ผมมองว่าคุณมีคนติดตามเยอะบางครั้งบางสิ่งที่คุณเขียนน่าจะต้องพิจารณาหาข้อเท็จจริงมาแล้ว”
“ถ้าสมมติว่าวันนั้นคุณพ่อผมไม่ได้อยู่กับแม่จะเป็นยังไง ในฐานะที่ผมเป็นลูก คุณแม่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงหรือใดๆ เพราะฉะนั้นภูมิต้านทานของแต่ละคนมันไม่ได้เหมือนกันนะครับ ผมเรียนอย่างนี้จริงๆ ถ้าเป็นครอบครัวอื่นล่ะที่เขาอาจจะมีเรื่องเครียดอยู่แล้วก็ได้ มันกระทบต่อจิตใจและผมไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะเป็นเรื่องที่ดี มันควรจะมีวิจารณญาณมากขึ้น นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะเรียกร้องมากกว่า ผมไม่ได้อยากจะมาหาเรื่องหรืออะไร แต่ผมย้ำว่าวันนี้ผมเป็นผู้เสียหาย ครอบครัวผมเสียหาย ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการขอโทษใดๆ ทั้งสิ้นเลยครับ”
ตอนนี้สภาพจิตใจคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
“ก็โอเคขึ้นครับ คือมันก็ผ่านมานานแล้ว 3 เดือนกว่าแล้ว เราก็ให้กำลังใจ คุณแม่ก็เข้มแข็งขึ้น”
คนที่ไม่รู้ความจริงมีฟีดแบ็กกับเรายังไงบ้าง?
“จริงๆ แล้วผมว่าคนที่รู้จักครอบครัวผมจริงๆ เขาก็ไม่เชื่อในข่าวหรอก คุณลองนึกภาพสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาตลอดเวลา มันกระทบกระเทือนต่อจิตใจ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วการที่ต้องเสพข่าวตลอดเวลา ถ้าจิตใจไม่ได้เข้มแข็งมากพอ บางครั้งมันก็ส่งผลนะ แล้วเขาอายุแล้ว”
ส่วนตัวเราเครียดไหม?
“ผมไม่ได้เครียดอะไรนะครับ เพราะว่าเราก็ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย เราทำได้เท่าที่เราทำได้ เราทำได้ดีที่สุดแล้ว ณ วันนี้ สิ่งที่ผมว่าควรจะทำก็คงเป็นเรื่องการปรับใจของตัวเอง แล้วก็ดูแลสภาพจิตใจของคุณแม่”
ถ้าหลังจากเราให้สัมภาษณ์แล้วทางเพจติดต่อมาขอโทษจะยังพอไกล่เกลี่ยกันได้ไหม?
“ผมขอดูคำพูดของเขาดีกว่า ผมอยากทราบเหตุผลเหมือนกันว่ามันคืออะไร ตอนนี้ผมยังให้คำตอบไม่ได้”
ได้รับกำลังใจดีๆจากคนรอบข้างเยอะไหม?
“ก็มีครับ คุณพ่อ คุณแม่ น้องชาย แฟนคลับ เพื่อนๆ ของเรา คนที่รักเราทุกคน ก็ให้กำลังใจกับเรา แต่ส่วนตัวผม พูดจริงๆ ผมค่อนข้างจะเฉยๆ เพราะเราอยู่ในวงการนี้ เราก็เห็นข่าวอะไรแบบนี้มาค่อนข้างมากพอสมควร แต่ประเด็นมันไปกระทบกับครอบครัวของเรา แล้วก็เรารู้สึกว่าในฐานะที่เราเป็นลูกชายคนหนึ่ง เราก็ควรจะต้องปกป้องคุณแม่ แล้วก็ต้องเรียกร้องเพื่อยืนยันความถูกต้อง”
อัพเดตหัวใจหน่อย?
“โสดครับ”
ก่อนหน้านี้มีข่าวกุ๊กกิ๊กคือไม่มีแล้ว?
“มีข่าวกุ๊กกิ๊กด้วยเหรอครับ”
กับน้องหยดน้ำเห็นว่าคุยกัน?
“ก็ไม่ได้คบกันแล้ว (นานหรือยัง) 4 เดือนแล้วครับ”
ข่าวมีผลกระทบหรือเลิกกันก่อนแล้ว?
“ก่อนหน้ามีข่าวครับ ไม่เกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น”
จบสวยไหม?
“จริงๆ แล้วไม่มีใครอยากจากกันหรอกผมว่านะ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือคนเราพอทุกอย่างมันจบแล้ว เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นเท่านั้นเอง การที่มันจะจบดีหรือไม่ดี หรือหาเหตุผลอะไรมารองรับ มันก็คงไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครไม่เสียใจกับการเลิกรา เพียงแต่ว่า เราจะทำยังไงให้ใจเรามันดีขึ้นเร็วที่สุด เราไปโฟกัสกับอะไร เราวางอารมณ์ยังไง”
ตอนนี้โอเคแล้ว?
“ใช่ครับ ตอนนั้นสุดยอดจริงๆ ครับ”
เปิดรับคนใหม่หรือยัง?
“ไม่ครับ หมายถึงว่าไม่ได้คิดว่าจะเปิดใจหรือจะปิดอะไร เหมือนตอนนี้เราก็ทำงานไป ถ้ามันมีก็มี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เราก็ผ่านมาเยอะมากแล้วเหมือนกัน เข้าใจในวิถีของมันมากกว่า”
กลัวไหมว่าผู้หญิงเห็นข่าวแล้วไม่กล้าเข้ามา?
“ไม่ได้กลัวนะครับ เขาก็ไม่ได้ผิดที่จะตัดสินผมจากข่าว แต่ว่าถ้าจะมีคนเข้ามาสักคนหนึ่งแล้ว ถ้าเขาเลือกจะตัดสินจากข่าว เขาคงไม่เข้ามาแต่แรกแล้วหรือเปล่า ผมเลยไม่ได้กังวลเรื่องนี้”
เห็นว่าไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด?
“ยังไม่ใกล้หมดนะครับ อันนี้ก็เป็นเรื่องงงๆ เหมือนกัน คือผมยังมีสัญญาอยู่กับทางช่อง 3 (ประมาณกี่ปี) ผมขออนุญาตไม่เรียนแจ้งดีกว่า ว่าสัญญาเหลืออีกเท่าไหร่ เพราะผมก็ต้องให้เกียรติช่อง 3 แต่ผมยืนยันว่าผมยังมีสัญญากับทางช่อง 3 และผมจะยังอยู่กับช่อง 3 ต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็ยังถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง คือ ปมเสน่หา และ เกมล่าทรชน”
ยังไม่มีความคิดเรื่องการเป็นอิสระหรือย้ายสังกัด?
“ผมว่าอันนั้นเป็นเรื่องของอนาคต ณ วันนี้มันยังมีสัญญาอยู่ เลยไม่จำเป็นต้องมาคิดอะไรเรื่องนี้ แล้วเรื่องนั้นก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ผมไม่มีสิทธิ์ไปร้องขอการต่อสัญญา มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องมอบโอกาสให้กับผม”
มีช่องอื่นมาจีบไหม?
“ณ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรครับ”
ผลงานละครได้เห็นเมื่อไหร่?
“อยากรีบเสร็จแล้วเหมือนกันครับ น่าจะเป็นปีหน้า แต่ไม่ทราบว่าเดือนไหน”
