หลังจากเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล นักแสดงสาวช่อง 3 โพสต์คลิปสีไวโอลินเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” ลงอินสตาแกรมส่วนตัวชื่อว่า @ladiiprang พร้อมเขียนข้อความว่า “ลูกขอร่วมส่งพ่อหลวง ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ผ่านบทเพลงนี้ของพ่อ เพลงพระราชนิพนธ์ ชะตาชีวิต H.M. Blues ภาพรอยยิ้มของพ่อ จะอยู่ในใจลูกตลอดไป #ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” ปรากฏว่ามีคนเข้าไปกดไลก์ในอินสตาแกรมเป็นจำนวนมากด้วยความซาบซึ้งและชื่นชมนักแสดงสาว
วันนี้ผู้สื่อข่าวข่าวสด มีโอกาสได้พูดคุยกับสาว ‘ปราง’ ถึงเรื่องนี้ โดยเผยให้ฟังว่า “เพลง ‘ชะตาชีวิต’ เป็นเพลงที่หนูเคยเล่นตั้งแต่เด็กๆ พอดีกับที่ว่าวันที่ 14 ตุลาคม ทุกคนไปร่วมส่งพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย หนูอยากไปมาก แต่ไม่ได้ไป เพราะติดถ่ายละครจนถึงตีสอง พอตื่นเช้ามาวันที่ 15 ตุลาคม คิดว่าน่าจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อถวายความอาลัยแด่พ่อหลวง คิดได้ว่าเล่นเพลงพระราชนิพนธ์ที่พ่อหลวงแต่งดีกว่า น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ร่วมถวายความอาลัย สาเหตุที่เลือกเพลง ‘ชะตาชีวิต’ เพราะเป็นเพลงแรกของเพลงพระราชนิพนธ์ที่หนูฝึกเล่นไวโอลิน อีกอย่างด้วยเนื้อหาที่มีความหมายดีและเมโลดี้ของเพลงเหมาะสมกับบรรยากาศในช่วงนี้ ไม่ได้ดูสดใสร่าเริง จริงๆ เพลงของในหลวงมีหลายมู้ดมากๆ แต่มู้ดของเพลงนี้สื่อถึงอารมณ์ได้อย่างดี ที่สำคัญเป็นเพลงที่หนูชอบมากด้วยค่ะ”
นักแสดงสาว กล่าวต่ออีกว่า “ความตั้งใจของปราง คือ อยากเล่นเพื่อถวายความอาลัยและมีโอกาสได้โพสต์ลงไอจีส่วนตัว ไม่คิดว่าจะมีคนชื่นชมและซาบซึ้งมากมายขนาดนี้ ตอนที่เล่นจะร้องไห้ แต่ก็พยายามเล่นอย่างตั้งใจที่สุด จริงๆ ก่อนเล่นหนูนั่งระลึกถึงพระองค์ท่าน บอกว่าขอให้การเล่นครั้งนี้เล่นออกมาได้ดีที่สุดและเพราะที่สุด ต้องบอกก่อนว่าหนูไม่ได้หยิบไวโอลินมาเล่นเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้นานหลายปีมาก ปรางเริ่มเรียนไวโอลินตั้งแต่สมัยมัธยม จนตอนนี้ก็เรียนจบมาหลายปีมากๆ ค่ะ”
“วันที่ทราบข่าวสวรรคตของในหลวง ก่อนอื่นบอกตามตรงว่าหนูไม่เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าในหลวงเลย มีโอกาสได้รู้จักเรื่องราวของท่านจากข่าวและหนังสือมาตั้งแต่เด็ก หนูแทบไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะรู้สึกสะเทือนใจได้มากขนาดนั้น นั่นเพราะความจริงแล้วผูกพันกับพ่อหลวงมากมายเหลือเกิน แต่ก่อนเคยแต่พูดถึงพระองค์ท่าน เล่นละครถวายพระองค์ท่าน แต่ไม่เคยได้พบเจอหรือเข้าเฝ้าเลย วันที่ 13 ตุลาคม ทราบข่าวว่าในหลวงสวรรคต มันอธิบายยากเพราะเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิตนี้เลย จุกอยู่ในอก พูดออกมาไม่ได้ว่าความรู้สึกแย่แค่ไหน ตอนนั้นถ่ายละครอยู่ด้วย แต่หมือนโลกหยุดหมุน ไม่รู้จะไปทางไหน มือไม้สั่น หูอื้อไม่ได้ยินอะไร น้ำตาไหลออกมาเอง บรรยากาศรอบข้างเงียบไปหมด” ปรางกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
เมื่อถามถึงคำสอนของในหลวงที่นำมาใช้ในชีวิตตัวเอง นักแสดง กล่าวว่า “คำสอนของในหลวงที่หนูจำขึ้นใจ คือ อย่าดูถูกความหวังของใคร เพราะความหวังนั้นอาจจะเป็นความหวังสุดท้ายในชีวิตของเขาก็ได้ คำสอนนี้ทำให้หนูมองทุกคนเปลี่ยนไปและการใช้ชีวิตของหนูก็ดีขึ้น เวลาเห็นใครทำอะไร บางทีอาจจะไม่ถูกใจหรือไม่เข้าใจเลยว่าเขาทำอย่างนั้นทำไม แต่พอทุกครั้งที่นึกถึงคำสอนนี้ของในหลวงก็จะหายหงุดหงิดทันที แล้วมองทุกคนเปลี่ยนไปว่าแต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง เราไม่ควรไปดูถูกหรือไปทำลายความหวังของเขา เพราะตัวเราไม่รู้ว่าชีวิตเขาผ่านอะไรมาบ้าง ความหวังนี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ของเรา แต่อาจจะเป็นความหวังสุดท้ายของเขาก็ได้ค่ะ”
“วันนี้ตอนเย็นหนูตั้งใจว่าจะไปแจกน้ำประชาชนที่มาถวายความอาลัยในหลวงที่หน้าพระบรมมหาราชวังค่ะ” ปรางทิ้งท้าย
