เบื้องหลัง“บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ”

วันที่ 11 ต.ค. ที่โรงภาพยนตร์อิมพริเว่ ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล นักแสดงและผู้กำกับ ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวภาพยนตร์สารคดี “บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ” (THE JOURNEY) ถึงผลงานการกำกับภาพยนตร์สารคดีครั้งแรก ซึ่งจัดฉายรอบพิเศษให้ชมกันก่อนจะเข้าฉายจริงวันที่ 12-15 ต.ค. ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ ทั่วประเทศ

‘โดนัท’ เผยความรู้สึกว่า “ตื่นเต้น เหนื่อย แต่ว่ามีความสุขคะ หนังฉายตอน 2 ทุ่ม แต่ตอน 6 โมงเย็นยังมีอะไรที่ต้องแก้ไขอยู่เลย แก้จนวินาทีสุดท้าย พอดีตอนเช้ามาเช็กแล้วเพิ่งเห็นว่ามีอะไรผิดพลาดนิดหน่อย อยากทำทุกอย่างออกมาให้สมบูรณ์ที่สุด วันนี้ก็จะรู้สึกมีความสุขที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงเรียบร้อย คงจะเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายที่ได้ทำให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9”

กรุงเทพได้ดูก่อน 13-14 ต.ค.ชมฟรีทั่วประเทศ

พรุ่งนี้ (12ต.ค.) จะเป็นวันแรกที่หนังเข้าฉาย ในกรุงเทพฯจะมีโอกาสได้ดูก่อน ส่วนวันที่ 13-14 ต.ค.ได้ดูกันทั่วประเทศที่โรงหนังเครือเอสเอฟทุกสาขา รวมถึงวันอาทิตย์ยังมีฉายอีก อยากให้อัพเดตรอบฉายกันเรื่อยๆ เพราะตอนนี้มีผู้ใหญ่ใจดีเยอะมากที่เข้ามาสนับสนุนและเปิดรอบให้ประชาชนได้ชมกันฟรีๆ เลย หลายคนถามว่าจะรับบัตรอย่างไร หนึ่งชั่วโมงก่อนหนังฉายต้องไปรอรับบัตรกันเอง เพราะไม่มีการจองที่ให้ใครทั้งสิ้น

“โดนัทใช้เวลาเกือบ 1 ปี ในการถ่ายทำ จุดเริ่มต้นของหนังอยู่ที่วันที่ 13 ต.ค.ปีที่แล้ว บอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่ากำลังเดินถอยหลังอยู่ แอบหลอกตัวเองนิดหนึ่งว่ายังอยู่ในโลกเดิม ยังไม่ค่อยยอมรับความจริงเท่าไหร่(ยิ้ม) อยากให้ทุกคนได้มาดู แล้วก็อยากรับฟังความคิดเห็นว่าเป็นอย่างไรกับภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกของโดนัท ส่วนตัวลุ้นมาก ทุกครั้งที่ตัดต่อจะได้ดูผลงานของตัวเองก็รู้สึกชอบและมีความสุข เลยอยากแบ่งปันความสุขนี้ให้คนอื่นด้วย

ดูเมื่อไหร่ ก็ร้องไห้ทุกครั้ง

เรื่องนี้มีไทม์ไลน์ที่เป็นประวัติจริงๆ แต่จะทำอย่างไรให้คนเดินทางไปกับหนังของเรา โดนัทชอบเดินทางอยู่แล้ว บวกกับเกิดความสงสัยและแรงบันดาลใจจากการอ่านบันทึกการเดินทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 เลยอยากรู้ว่าพระองค์ท่านเป็นนักเดินทางแบบไหน ท่านเขียนอะไร เห็นอะไร ระหว่างทำสารคดีเรื่องนี้ก็พบคำตอบหนึ่งว่าสำหรับนักเดินทางจุดหมายปลายทางไม่เคยสำคัญเลย แต่สำหรับในหลวงรัชกาลที่ 9 จุดหมายปลายทางของพระองค์สำคัญมากเพราะคือประเทศไทยและคนไทย”

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยาวหนึ่งชั่วโมง ดูผลงานของตัวเองเมื่อเช้าก็ร้องไห้ แต่จะร้องกันคนละส่วน ครั้งแรกที่ดูก็จะร้องพาร์ตนี้ ดูอีกครั้งก็จะร้องอีกพาร์ตหนึ่ง ต้องกราบในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงสอนให้ตัวเรามีความอดทนและมีความพยายามในการทำงาน จนทำให้ทำภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ได้สำเร็จ

ถามถึงงานกำกับละคร“เดือนประดับดาว” คืบหน้าถึงไหนแล้ว ดาราสาวกล่าวว่า โดนัทเพิ่งจะส่งแบบจบเรื่องไปให้ช่อง 3 ได้ประมาณ 2 เดือน และยังขอเขาแก้อีก จนเขาบอกว่าให้เลิกแก้ เวลาที่ทางช่องตามงานก็ยังทำให้เขาไม่เสร็จ เลยไม่กล้าอะไร นี่ก็เพิ่งส่งไป ต้องรอแป๊บทั้งเรื่องของเวลาและความเหมาะสม

แฟนหนุ่มร่วมแสดงความยินดี

จากนั้นผู้สื่อข่าวมีโอกาสสัมภาษณ์ “ตาม จำนงค์อาษา” แฟนหนุ่มนักธุรกิจของสาวโดนัท ที่มาให้กำลังใจเจ้าตัวเผยว่า “รู้สึกดีใจกับโดนัทด้วยกับผลงานชิ้นนี้ของเขา ผมมีโอกาสได้บินไปกับเขาในครั้งแรกและครั้งที่สอง ได้เห็นตอนถ่ายทำทั้งหมด รวมถึงได้ช่วยเขาถ่ายรูปนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะไม่ใช่มืออาชีพ จริงๆ ไปเป็นกำลังใจมากกว่า การทำงานชิ้นนี้โดนัทต้องหาข้อมูลและอ่านเยอะ เขาเข้าห้องสมุดของที่โน่นด้วย พอกลับมาเมืองไทยก็ไปเข้าห้องสมุดอีก เพื่อไปเอาเอกสารหลายอันที่จะมาใช้ในภาพยนตร์สารคดีชิ้นนี้

เขาทุ่มเทมากจนแทบจะไม่ได้นอนเลย เห็นแล้วก็สงสารเหมือนกัน คือเขาก็ค่อนข้างเครียดเพราะอยากทำออกมาให้ดีที่สุด ผมเองก็เป็นห่วงสุขภาพของเขา เพราะมีโอกาสไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขาอยู่เหมือนกัน สิ่งที่ผมจะดูแลได้คงเป็นเรื่องซัพพอร์ต ไม่ให้เครียดมาก และไม่กวนเวลาเขาทำงาน”

เริ่มชินหรือยังกับการที่มีคนจับตาเพราะเป็นแฟนกับโดนัท? หนุ่มตามกล่าวว่า “เฉยๆ ครับ ไม่ได้รู้สึกเกร็งหรือว่าอะไร ทุกอย่างปกติดี สิ่งที่ผมประทับใจในตัวโดนัทคือเขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน นิสัยตรงๆ คุยกันง่ายดี ถามว่าเป็นคู่ที่หวานมั้ย เฉยๆ อาจมีบ้างบางจังหวะเช่นวันเกิด ที่ผ่านมาก็เจอกันตลอด ไปไหนไปกันเป็นบัดดี้มากกว่าครับ”
—–

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน