หลังจากที่ พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช นางเอกหน้าคม ออกมายอมรับว่าเลิกรากับ เพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง สามีนักธุรกิจเรียบร้อยแล้ว หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา 3 ปี และกลับไปอยู่ที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์

(ชมคลิป‘เพชร’สามีหมื่นล้าน‘พิ้งกี้’โพสต์คลิป!! ถึงนางเอกสาว-หลังยอมรับเลิกรา พร้อมแคปชั่นนี้)

ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ไปสอบถาม แม่อ้อย-สรินยา ไชยเดช คุณแม่ของนางเอกสาวหน้าคม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง “แม่อ้อย” ได้กล่าวว่า ตนเป็นคนแฟร์ๆ หมายถึงว่าถ้าลูกตัดสินใจแล้วก็เป็นเรื่องของเขาไป คนเราต้องมีความคิดของตัวเอง โตแล้ว ไม่ใช่ว่าตนจะไปโน่นนี่นั่น เมื่อลูกตัดสินใจแล้วตนก็ไม่พูดร่ำรี้ร่ำไร ต่อไปก็มาตั้งหน้าทำงาน อยู่กับสิ่งที่ลูกสบายใจแค่นี้เอง วันที่ลูกมาบอกว่าเลิกกับสามีแล้วและกลับมาอยู่ที่บ้าน ตนก็ไม่ได้ถามถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร บางทีมันเป็นเรื่องของสามีภรรยาก็ต้องปล่อยเขาตัดสินใจกันไป ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปถามย้ำถามซ้ำอะไรอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าตลอดทั้งสัปดาห์ที่พิ้งกี้กลับมาอยู่บ้าน สภาพจิตใจเป็นอย่างไร คุณแม่นางเอกหน้าคมกล่าวว่า ลึกๆ ของทุกคนก็เมื่อผ่านภาวะเหตุการณ์แบบนี้มาก็ต้องรู้สึกโหวงเหวงบ้าง บางช่วงก็ซึมๆ เพราะสามีภรรยากันก็อยู่กันมาหลายปี ฉะนั้นมันก็ต้องมีความรู้สึกของเขาอยู่แล้ว ตนก็ไม่ได้ย้ำคิดย้ำทำอะไร แต่พยายามจะไม่ให้เขาอยู่คนเดียว ส่วนมากจะชอบชวนไปทำกิจกรรมต่างๆ มากกว่า เช่นกินข้าว ไปเที่ยว ไปหาเพื่อนฝูง เพื่อให้สนุกเฮฮาเพราะอยากให้เขาผ่านช่วงนี้ไปก่อน แต่พิ้งกี้ชอบร้องเพลง มีไฟเรื่องนี้ก็จะคิดโน่นคิดนี่อยู่ตลอด ส่วนบรรยากาศในบ้านหลังจากที่พิ้งกี้กลับมาอยู่ด้วยก็อบอุ่นดี พ่อกับแม่รักลูกอยู่แล้ว บ้านเราจะอยู่กันเงียบๆ สบายๆ แต่ความอบอุ่นมันล้นเหลือ แล้วก็จะไม่ทำอะไรให้มันเป็นเรื่องเยอะ เพราะครอบครัวของเราจะอยู่ง่ายกินง่าย

“ในฐานะของคนที่เป็นแม่ก็ปลอบใจกันไป เริ่มต้นกันใหม่แค่นั้นเอง แม่จะสอนพิ้งกี้ว่า คนเรารักกันก็อยู่กันไป เมื่อมีเรื่องไม่เข้าใจอะไรก็เคลียร์กัน เมื่อเคลียร์กันไม่ไหวอยู่กันเป็นพี่เป็นน้องอยู่กันในสถานภาพอย่างอื่นไป ไม่ต้องไปโกรธแค้นเป็นตายอะไรเพราะมันไม่มีประโยชน์ เพชรเขาก็ดีเพราะเป็นผู้ใหญ่แล้ว เวลาปรึกษาเรื่องการค้าทำมาหากินก็ช่วยได้เยอะ แต่คนเราบางทีเป็นอย่างอื่นดีกว่าเป็นสามีภรรยากันค่ะ” แม่อ้อยกล่าว

ต่อข้อถามว่ามีโอกาสได้คุยกับ เพชร-อิทธิ บ้างไหม แม่อ้อยกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไร อย่างที่บอกว่าให้สามีภรรยาคุยกันไปเพราะเป็นเรื่องของเขา ตนก็ไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรกับเขาหรอก ส่วนดีของเพชรก็มีเยอะ แต่ว่าความคิดของสามีภรรยาก็เป็นของแต่ละครอบครัวไป ตนก็แยกเป็นส่วนๆ ไป เพชรเขาก็ดีกับตน เคารพนบนอบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตนยืนยันว่าการเลิกรากันของพิ้งกี้กับเพชรไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใหญ่โต เรื่องเล็กน้อยแต่บางทีเรื่องเล็กน้อยนี่แหละตัวดีที่นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

ผู้สื่อข่าวถามถึง “นายสมาน ไชยเดช” คุณพ่อของพิ้งกี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แม่อ้อยตอบว่า คุณพ่อเพิ่งผ่าตัดหัวใจมาและเพิ่งกลับมาบ้านได้ 2 อาทิตย์ ถามว่าพอมาทราบเรื่องของลูกสาวกับสามีแล้วมีผลกระทบอะไรกับสุขภาพมั้ย คุณพ่อจะเป็นคนไม่พูด เฉยๆ สบายๆ ใจเย็น ไม่ได้เป็นคนขี้โมโห ไม่พูดไม่ถามอะไรมาก วันๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงพูด แต่กับเรื่องนี้คุณพ่อก็บอกแค่ว่า อะไรที่ลูกสบายใจก็ทำไปเถอะ

ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้ไหมที่ทั้งสองคนจะกลับมาคืนดีกัน คุณแม่นางเอกคนสวยกล่าวว่า ตนก็ไม่รู้ ตอนนี้ยังเป็นช่วงรุนแรงอยู่ก็ปล่อยไปก่อน ส่วนถ้าอะไรจะเกิดขึ้นภายภาคหน้าก็แล้วแต่เบื้องบนเขาจะกำหนด

เมื่อถามอีกว่าหลังจากนี้พิ้งกี้จะกลับมารับงานในวงการบันเทิงมากขึ้นกว่าเดิมไหม แม่อ้อยกล่าวว่า ตนต้องขอบคุณผู้ใหญ่และพี่ๆ ในวงการทุกคนที่โทร.มาบอกว่าจะส่งงานให้ ชวนพิ้งกี้ไปเล่นละคร ไปถ่ายแฟชั่น คิดว่าคงจะอั้นกันมา เพราะช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเห็นผลงานพิ้งกี้ผ่านสื่อเท่าไหร่ อยากให้เขาทำงานไปก่อนตามความตั้งใจที่อยากจะเป็นนักแสดงที่ดี พิ้งกี้ยังบอกด้วยว่าอาจจะต้องไปเรียนการแสดงเพิ่มเติม เรียนคิวบู๊ เรียนภาษาจีน เรียนภาษาอังกฤษ ด้วยความที่ปัจจุบันนี้ตลาดมันกว้างแล้ว เรียกว่าคิดเรื่องเหล่านี้กับตนทุกวัน ตนก็ภูมิใจว่าลูกของเราดีอย่างตรงที่มีความขยัน รวมถึงเวลาบอกอะไรพิ้งกี้จะรับฟังและเห็นชอบด้วย

แม่อ้อยกล่าวต่ออีกว่า ครั้งนี้ทำให้ตนรู้เลยว่ายังมีคนที่รักพิ้งกี้อยู่ ซึ่งเจ้าตัวเขาก็ดีใจมาก นึกไม่ถึงว่าแฟนคลับรวมถึงประชาชนทั่วไปจะยังดีและยังรักเขามากขนาดนี้ ตนและพิ้งกี้ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ทั้งผู้ใหญ่ แฟนคลับ รวมถึงพี่ๆ นักข่าวที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด

“ตอนนี้พิ้งกี้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ไปแล้วที่หนึ่งก็รู้กันหมดแล้ว อยากขอจบเพียงแค่นี้แล้วกัน ส่วนโอกาสหน้าถ้าจะได้เจอพี่ๆ นักข่าวก็ค่อยพูดไปตามที่อยากรู้อีกที แม่อยากให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปก่อน เรื่องของเราเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วเล็กน้อยมาก หลายคนก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ แต่พอเป็นดาราก็อาจจะดังหน่อย ฉะนั้นมองทุกอย่างให้เป็นสัจธรรมจะได้สบายใจค่ะ” คุณแม่ของพิ้งกี้กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน