ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ เผยให้คำปรึกษา มะตูม ต่อสู้กับเชื้อ ‘โควิด’ พร้อมอัพเดตอาการของ มะตูม จากที่ไม่แสดงอาการ โดยตอนนี้ เริ่มมีไข้ เสมหะ ไอ และความเครียด
ถือเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งในวงการบันเทิง อย่าง ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน และ สามี แมทธิว ดีน ที่ต้องเผชิญกับการติดเชื้อ โควิด-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศไทยแรกๆอย่างหนัก ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลพักใหญ่
- อ่านข่าว แมทธิว-ลีเดีย ห่วงคนไทยไม่อยากให้ติด ‘โควิด’ เช่นตัวเอง ปอดไม่ฟื้น100 %
- อ่านข่าว นาทีแห่งความสุข แมทธิว-ลีเดีย เผยภาพแรกพ่อแม่ลูก หลังหายโควิด-19
- อ่านข่าว แมทธิว-ลีเดีย ยกครอบครัวตรวจร่างกาย หลังหายโควิด 6 เดือน หมอบอกยังมีความเสี่ยง
ท่ามกลางบรรดาแฟนคลับและประชาชนทั่วไป ที่คอยส่งกำลังใจให้ทั้งคู่อย่างรัวๆ จน ณ ปัจจุบันนี้ร่างกายของ แมทธิว หายเป็นปกติ แต่ ลีเดีย แม้ถุงลมที่ปอดยังเป็นแผลไม่หายดี 100% เหมือนสามี แต่กำลังใจของเธอเรียกว่าเกินร้อย
ล่าสุด ลีเดีย โพสต์คลิปวีดิโอบรรยากาศชายทะเล พร้อมแชร์ประสบการณ์ขณะอยู่โรงพยาบาลรักษา โควิด-19 ว่า ลีเดียชอบดูธรรมชาติตามวีดีโอต่างๆ มันทำให้เรารู้สึกสงบและมีความสุขในช่วงเวลาเล็กๆ ที่ไม่ได้มองกำแพงสีขาวในห้องสี่เหลี่ยม โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไร
ซึ่งโรคอื่นผู้ป่วยมีครอบครัวและคนที่รักมาเข้าเยี่ยมได้ แต่โรค โควิด-19 คือโรคที่ผู้ป่วยเดียวดายอยู่ตามลำพัง ไม่ว่าอาการจะหนักหรือเบาขนาดไหน ในเคสของ ลีเดีย ยังโชคดีที่ยังได้อยู่กับ แมทธิว
โดยเธอได้มีโอกาสคุยและให้คำปรึกษา รวมถึงกำลังใจกับ ดีเจมะตูม เตชินท์ เพราะอาการทางร่างกายเริ่มมีไข้ เสมหะ และไอ จากที่ไม่มีอาการอะไรเลยในตอนแรก ความวิตกกังวลและความเครียดที่มาพร้อมกับโรคนี้ ลีเดียเข้าใจดี
สิ่งที่ช่วยได้ในเวลาแบบนี้คือหาความสงบ ให้กับจิตใจ หาความสงบภายในให้ได้ เพราะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต มีขึ้นก็ต้องมีลง มีลงก็ต้องมีขึ้น ถ้าใจเรานิ่งและสงบได้ เราจะหาความสุขได้ในห้องเล็กๆสี่เหลี่ยมนั้น
และเมื่อกลับออกมาโลกข้างนอก เราจะเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆง่ายๆธรรมดาในชีวิต ช่วงเวลานี้จะทำให้เราเห็นคุณค่าของคนในชีวิตที่รักเรา และเราจะมองเห็นได้ชัดว่าอะไร คือ สิ่งที่สำคัญในชีวิต และเลือกที่จะไม่ใช้ชีวิตด้วยความประมาทอีก ขอให้อดทนและทำจิตใจให้เข้มแข็งไว้ กำลังใจสำคัญที่สุดสำหรับตอนนี้
พร้อมกันนี้ ลีเดีย กับ แมทธิว ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่ทั้งในและนอกโรงพยาบาลในช่วงเวลานี้ และสิ่งนี้จะผ่านไปด้วยกัน
ขอบคุณอินสตาแกรม lydiasarunrat