หัวใจเป็นสีชมพูขั้นสุด นางแบบสาว โย ยศวดี เผยความรักหวานฉ่ำ กับแฟนหนุ่มลูกครึ่ง คบปีกว่ามั่นใจคือคนที่ใช่ รักครั้งนี้มีลุ้นถึงแต่งงาน

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

หัวใจเป็นสีชมพูสดใส โย ยศวดี หัสดีวิจิตร นางแบบสาว เปิดเผยสถานะหัวใจ หลังมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เล่าถึงแฟนหนุ่มลูกครึ่ง คบหามาปีกว่า ปรับตัวเข้าหากันจนมั่นใจ และได้เปิดตัวกันไปเรียบร้อยแล้วนั้น สาวโย เผยว่าคนนี้แหละคือคนที่คิดจะแต่งงานด้วย อีกทั้งยังเผยถึงความสวยออร่าจับเพราะศัลยกรรมหน้ามาใหม่มาให้หายคาใจ

เดินแบบมากี่เวทีแล้ว? “เป็นพันเวทีค่ะ เพราะว่าทำงานมา 23 ปี ตั้งแต่อายุ 13-14 ปีเลยค่ะ วันที่เลิกก็ 30 ปลายๆ แล้วค่ะ”

เดินแบบมาเป็นพันๆ เวทีทั้งไทยและอินเตอร์ แต่อยู่มาวันหนึ่งเลิกเพราะอะไร? “ทำมาหลายปี ทำงานจนมีรุ่นน้อง โยทำงานมา 4 เจนเนอเรชั่น ตอนหลังๆ เดินกับน้องๆ ที่อายุสิบกว่าไม่ถึงยี่สิบ แล้วเพื่อนๆ ทุกคนก็ผันตัวไปทำอย่างอื่นเหลือกลุ่มเราอีกไม่กี่คน คิดว่าถ้าอนาคตของวงการแฟชั่นจะเป็นยังไง คือรู้ตัวอยู่แล้วว่าวันหนึ่งเราต้องถูกลดงานลงจากการที่เด็กคลื่นลูกใหม่เขาต้องมา เมื่อถึงเวลานั้นเราอาจจะเสียใจที่นั่งอยู่เฉยๆ แล้วเป็นคนไม่มีงานแล้วเราจะทำยังไงดี เลยหาสิ่งอื่นทำเพื่อเติมไฟให้ตัวเอง เพราะว่าที่เราเป็นนางแบบช่วงปลายๆ ความรู้สึกเราเหมือนจะเป็นซึมเศร้า (งานน้อยลงไม่ว่า) แต่ว่าร่างกายเราไม่ได้เป็นสาว แล้วไม่ได้รู้สึกว่าเราสดเหมือนตอนทำงานแรกๆ”

ณ วันนี้ผันตัวมาเป็นนักกีฬาไตรกีฬาได้ยังไง? “เริ่มจากวิ่งก่อน โยสนใจเรื่องวิ่ง คือเอาจริงๆ มีคนมาชวนไปวิ่งก่อนประมาณ 4 กิโล ตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจเลิกเดินแบบจริงจัง จนไปเจอโค้ชที่สอนวิ่ง โค้ชบอกว่าต้องเลือกนะเพราะชีวิตถ้ายังอยากใส่ส้นสูงแล้วก็ผ้าใบเราก็จะมีการบาดเจ็บแบบนี้บ่อยๆ เพราะเริ่มวิ่งเยอะขึ้นใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น ตอนนั้นก็ทำให้เราตัดสินใจเลิกเดินแบบเลยก็ไปทำอะไรในแบบที่เราชอบ (ที่เราเลือกไปวิ่งเพราะหลังๆ เราก็ไม่ได้เอ็นจอยกับงานที่เราทำ แล้วเราก็ไม่อยากไปทำงานแล้วเราไม่มีความรับผิดชอบ) เพราะเวลาเป็นคนที่ทำอะไรก็จะทำแบบเต็มที่ เพราะเราเริ่มเบื่อการเดินแบบพอเบื่อปุ๊บ เราจะเป็นคนแบบนี้คือ ไม่อยากฝืนตัวเองไปทำงานแล้วเขารู้สึกว่าเราไม่เต็มที่กับงาน เราไปทำอะไรเรามีไฟกับมันดีกว่า ก็เลยเริ่มจากการวิ่งพอเริ่มวิ่งไปได้สักพักก็มีคนมาชวนว่าลองเล่นไตรกีฬาไหม ตอนนั้นเราก็งงว่า ไตรกีฬา คือ อะไรแต่เราเคยได้ยินนะคะ แต่เราไม่รู้ว่ามันประกอบด้วยกีฬาอะไรบ้าง ก็คือ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน แล้วก็วิ่ง เราก็คิดว่า ปั่นจักรยานคงไม่ยากเท่าไหร่ ส่วนวิ่งเราก็วิ่งอยู่แล้ว แต่ว่าว่ายน้ำคือเราว่ายน้ำไม่เป็นมันก็เลยต้องไปเริ่มกระบวนการพวกนี้ใหม่ทั้งหมดถือว่าผ่านความยากของการฝึกซ้อม”

ตอนนี้เรียกได้ไหมว่าโยกลายเป็นนักกีฬาอาชีพ? “ถามว่าอาชีพไหม ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำอยู่ ณ เวลานี้ คือมันจะเป็นอาชีพก็ต่อเมื่อว่าเราไม่ได้เล่นกีฬาเพื่อความสนุกอย่างเดียวแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องงานเพราะว่าเรามีสปอนเซอร์ เมื่อสปอนเซอร์สนับสนุนเราเพราะเขามั่นใจแล้วว่า โย ยศวดี เขาสามารถแข่งขันได้ไม่ใช่แค่แบบดูเป็นลุกส์นางแบบอย่างเดียว เธอว่ายได้ เธอปั่นได้ เธอวิ่งได้ ฉันก็สนับสนุนเธอเพราะฉะนั้นคือความรับผิดชอบแล้ว หน้าที่ของโย คือทุกครั้งเวลาที่เราแข่งเราจะลืมความเป็นนางแบบของเราไปเลย แต่จะคิดว่าวันนี้ ฉันคือนักกีฬา และจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด”

ซึ่งก็ทำได้ดีจริงๆ เพราะว่ามี ฮาฟมาราธอน มีมาราธอน แต่ที่ โย ทำคือ ฟูลไอรอนแมน? “ฟูลไอรอนแมน 2 ครั้งแล้วค่ะ ประกอบไปด้วยการว่ายน้ำ 3.8 กิโล แล้วก็ลงมาปั่นจักรยาน 180 กิโล แล้วก็วิ่งต่ออีก 42 กิโลค่ะ ต่อกันหมดด้วยเวลา 15 ชั่วโมงค่ะ”

เวลาที่เราแข่งอยู่ อยากเข้าห้องน้ำหรืออยากปัสสาวะ คือทำยังไง? “คือวิ่งอยู่ก็ปัสสาวะเลย แต่ถ้าไม่สะดวกแบบนั้นเขาก็จะมีห้องน้ำตามทางแต่อาจจะไม่เยอะ (แต่การแข่งขันไอรอนแมน) คือเราจะตัวเปียกอยู่แล้วการที่เราว่ายน้ำขึ้นมา บางคนปั่นจักรยานก็ฉี่พอเสร็จการแข่งขันก็มาอาบน้ำค่ะ จบด้วยเวลา 15 ชั่วโมงค่ะ มีคนบอกว่าครั้งแรกสนามแรกถือว่าโอเค สำหรับแนวเราที่ไม่ใช่เป็นนักกีฬาแล้วก็เพิ่งมาฝึกซ้อม แต่เอาจริงๆ ความตั้งใจของเราอยากจะได้ 13 ชั่วโมง เราต้องใช้เวลาฝึกฝนอีก คือการแข่งขันไอรอนแมน เป็นการแข่งขันทั่วโลก จะจัด ranking อายุเป็นกลุ่มอายุค่ะ ซึ่งของโยก็จะจัดอยู่ในช่วงอายุ 40-44 ปี ก็จะจัด ranking ไปว่าลำดับของเรา เวลาของเราอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ที่เวลาของเรายังไม่ได้ตามที่เราคิดเพราะว่า ว่ายน้ำกับปั่นจักรยานยังไม่เร็วพอแต่ที่เราแข่งตอนนั้นคือ ผ่านมา 2 ปีแล้ว แต่หลังจากการแข่งครั้งนั้นเราก็ฝึกซ้อมอย่างหนักมากนะ แต่เพราะมาเจอโควิดเลยไม่สามารถจัดได้เดินทางไปแข่งที่ไหนไม่ได้เลย”

แต่ถึงจะออกกำลังกายหนักขนาดไหน แต่ว่าหน้าก็จะสวยเป๊ะ และต้องยอมรับอีกอย่างคือสวยขึ้นมาก จนมีคนเขาเม้าธ์ว่าไปศัลยกรรมมาหรือเปล่า? “อันนี้มีคนถามเข้ามาเยอะ มีเพจเอาไปลงมีคนเอาไปลงแล้วก็มีคนถาม เราไม่ได้เป็นคนที่ต้องมานั่งปิดแล้วก็ไม่อยากที่จะพูดเยอะเพราะว่าไม่อยากแนะนำสถานที่ อย่างแรกเลยนะคะ โยมองว่าถ้าใครถามเรา แล้วเราแนะนำไปแล้วเวลาไปทำคือ ไม่ได้ทำแล้วออกมาดีทุกคน ไม่อยากให้เราเป็นตัวอย่างว่าฉันรู้มาจากโย ว่าไปทำที่นี่มาแล้วทำไมฉันไปทำมาแล้วหน้าฉันออกมาเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นพยายามจะพูดกลางๆ ว่าอะไรที่เราทำได้บ้าง แต่บางคนก็จะเขียนเยอะมากที่เกี่ยวกับเรา คือบางครั้งเขียนจนเรารู้สึกว่ารู้ดีกว่าเราอีก เช่น ไปทุบกรามมา ไปเกาหลีทุบกะโหลก เอาจริงๆ เราทำงานในวงการมา 20 กว่าปี ถ้าโยเป็นคนที่น่าเกลียดเป็นนางแบบไม่ได้หรอก เหมือนทุกคนพยายามที่จะแบบฉันจะเอารูปสมัยเป็นนักร้อง 15-16 มาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน เราก็รู้สึกเหมือนเราโดนบูลลี่เบาๆ หรือเปล่า เราก็เลยพยายามที่จะไม่อยากจะคุยเรื่องนี้ เพราะบางคนถามทำให้เรารู้สึกแย่ แต่ก็บอกตรงๆ นะคะว่าทำศัลยกรรมที่เป็นการผ่าตัดคือทำแค่จุดเดียวบนใบหน้า อันนี้ไปเดาเองว่าทำอะไร ส่วนเรื่องทุบกรามทำจมูกไม่เคยทำค่ะ”

แต่ก็มีอีกเรื่องหนี่งที่ไม่ถามก็ไม่ได้ หลังๆ เริ่มลงรูปหวานน่ารักมาก เขาคนนั้นเป็นใครเอ่ย? “จริงๆคบกันมาปีกว่าแล้วค่ะ ช่วงแรกๆที่ไม่ได้พูดอะไรเยอะ เพราะเราใช้ช่วงเวลาปรับตัวเยอะ คือมันเหมือนจะไปไม่รอด เหมือนจะโอเคไหม เพราะเรารู้จักกันตอนอายุมากแล้วทั้งคู่รู้ความต้องการของทั้งคู่ชัดเจนคือ เหมือนไม่อยากให้เสียเวลา แต่พอใช้เวลาผ่านไปหนึ่งปีโอเคก็พอปรับตัวได้ เราก็รู้สึกว่าเวลาหนึ่งปีเราก็เปิดตัวเพื่อให้รู้ว่าฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวสักเท่าไหร่นะ เขาเป็นลูกครึ่งค่ะ แต่เขาเป็นมีเชื้อสายไทยนะคะ ซึ่งเขาอยู่เมืองไทยมานานมีนามสกุลไทยค่ะ เขาทำธุรกิจในเมืองไทย”

มีความคิดที่จะลงหลักปรักฐานสร้างความครอบครัวจริงจังเลยไหม มีลูก? “มีลูกอาจจะช้าไปแล้วนะคะ เพราะตอนนี้สี่สิบสองแล้ว คิดเรื่องแต่งงานเพราะช่วงหลังๆ เราก็คุยเรื่องนี้พอสมควรเพราะว่าอนาคตมองเรื่องการแต่งงาน แต่ไม่ได้คุยเรื่องมีลูกหรือไม่มีลูกเพราะโยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้จริงๆ คือถ้าคนสองคนมีความสุขที่อยู่ด้วยกันดูแลกันแบบนี้เรื่อยๆ ไปเลยไม่ได้คิดเรื่องลูก แต่คิดเรื่องแต่งงานกับคนนี้”

ซึ่งตอนนี้อีกอย่างที่ โย ทำคือทำรายการของตัวเองเกี่ยวกับอะไร? “คือตอนแรกที่อยากทำคือ อยากเผยแพร่เรื่องกีฬาเพราะผู้หญิงที่มาตามเราส่วนใหญ่คือเรื่องของกีฬา เรื่องความสวย เรื่องอาหารต่างๆ เราก็คิดว่าทำไมเราไม่ทำช่องยูทูบไปเลย เมื่อคนอื่นทำกันไปเยอะแล้ว เราเลยทำช่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เพราะเรารักที่จะท่องเที่ยวด้วย ฝากติดตามทางยูทูป yotuber โย ยศวดี yossavadee เลยค่ะ”

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน