แพรนวลรู้สึกตัวตื่นขึ้นบนเตียงหลาวเปิง แล้วต้องตกใจ เมื่อพบว่าประตูห้องนอนที่ปิดแง้มไว้ถูกพังเสียหาย เสียงพูดคุยของทหารดังแว่วมาทางหน้าต่าง แพรนวลแอบฟังได้ยินว่ากำลังตามหาเธออยู่ แพรนวลใจคอไม่ดี คิดหาทางเอาตัวรอด
หลาวเปิงกลับไปยังห้องนอนของเขาอีกครั้ง ชะงักเห็นแพรนวลเดินออกมาจากห้องน้ำ ลึกๆ แล้วแอบดีใจ แต่ก็อดสงสัยเธอไม่ได้
“แม่หญิงหายไปไหนมา”
“ฉันอยู่ในห้องตลอดเวลา”
“ผมเคาะประตูเรียกตั้งนาน จนให้ทหารพังประตูเข้ามาก็ไม่เห็นแม่หญิง”
“เมื่อกี้ฉันอาบน้ำ”
“ฉันได้ยินเสียงพวกคุณอยู่ข้างนอก แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า จึงไม่กล้าออกมาจากห้องน้ำ”
“ผมเคยบอกว่าจะรอจนกว่าแม่หญิงจะพูดความจริง วันนี้ผมยังยืนยันคำเดิม ถ้ามันทำให้แม่หญิงรับรู้ถึงความจริงใจ”
หลาวเปิงมั่นใจว่าแพรนวลกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง แต่ไม่อยากคาดคั้นให้ตอบ
เจ้านางเรืองระยับโกรธมากที่หลาวเปิงเชื่อคำพูดของแพรนวลมากกว่าคำพูดเธอ
“แม่หญิงแพรนวลก็ยืนยันความบริสุทธิ์ใจตรงนี้ ไม่ได้หนีไปไหน”
“ฉันไม่ใช่สายลับทหารไทยอย่างที่เจ้านางเรืองระยับกล่าวหา” แพรนวลพยายามชี้แจง
“ฉันก็ไม่เคยเห็นนักโทษคนไหนยอมรับว่าตัวเองทำผิด..ให้แพรนวลออกไปจากหอคำซะ” เจ้านางเรืองระยับกดดันหลาวเปิง น้ำเสียงกร้าว
“ฉันยินดีออกไปถ้าทำให้ทุกคนสบายใจ”
“ผมทำตามความต้องการของเจ้านางไม่ได้” หลาวเปิงโพล่งออกมา
เจ้านางเรืองระยับจ้องหลาวเปิงเขม็ง โกรธจนแทบกระอักออกมาเป็นเลือด
“คุณแพรนวลปลอดภัยก็ดีแล้ว อย่าหาความกันอีกเลยนะคะ ตองริ้วขอร้อง”
“มันไม่จบแค่นี้แน่” เจ้านางเรืองระยับสะบัดมือจนหลุดจากเจ้านางตองริ้วแล้วเดินเชิดออกไปด้วยความเจ็บใจ
แพรนวลเครียด ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอขอโทษหลาวเปิงกับเจ้านางตองริ้วด้วยความรู้สึกผิด ที่เธอเป็นต้นเหตุให้ทุกคนต้องทะเลาะกัน และยืนยันว่าเธอไม่ใช่สายลับทหารไทยอย่างที่เจ้านางเรืองระยับกล่าวหา
หลาวเปิงสบายใจเมื่อรู้ว่าอาการบาดเจ็บที่เข่าของแพรนวลดีขึ้นแล้ว เจ้านางตองริ้วมองแพรนวล สีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก
“อูซอไม่รู้จักคุณแพรนวล ทำไมต้องทำร้ายคุณแพรนวลด้วย”
“เขาแค่จับตัวฉันไว้ค่ะ แต่ฉันหกล้มเอง”
“มันคงคิดว่าแม่หญิงแพรนวลเป็นน้องตองริ้วเพราะชุดที่แม่หญิงใส่”
แพรนวลก้มมองชุดที่ตัวเองใส่ “อูซอตั้งใจฉุดเจ้านางตองริ้ว?”
เจ้านางตองริ้วตกใจ หลาวเปิงเครียดขึ้นมาทันทีรู้ว่าคนอย่างอูซอไม่หยุดแค่นี้แน่
เจ้านางเรืองระยับกราบตักของเจ้านางจามรีที่นั่งสง่างามอยู่บนตั่ง ด้วยความนอบน้อม
“น้องตองริ้วบอกว่าเจ้าย่าจะกลับจากเมืองพยากวันนี้ เรืองระยับก็รีบมากราบเจ้าย่าทันที”
“ทำไมไม่ชวนหลาวเปิงมาด้วย”
“หลานรักของเจ้าย่ามัวแต่ช่วยเพื่อนรักเตรียมงานแต่งงานให้น้องตองริ้วค่ะ”
“เมืองเวียงขินเงียบเหงามานาน มีงานมงคลบ้างก็ดี”
“เจ้าย่าเห็นด้วยเหรอคะที่น้องตองริ้วจะแต่งงานกับสามัญชน?”
“ความรักขึ้นอยู่กับคนสองคน ไม่มีชนชั้น..ไม่มีถูกผิด แล้วเรื่องของเรากับหลาวเปิงล่ะ?”
เจ้านางเรืองระยับสบตาทองเพ็ง ก่อนสีหน้าเศร้า ทอดถอนใจ
“หลาวเปิงบ่ายเบี่ยงที่จะแต่งงาน”
“คงอยากสร้างความมั่นคงให้ตัวเองก่อน”
“ไม่อยากทำตามสัญญาของผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ ถ้าญาติของเจ้าพ่อที่เมืองเชียงฟ้ารู้ว่าเรืองระยับถูกหลาวเปิงปฏิเสธ หลานคงอับอายมาก”
“อย่าเพิ่งคิดมาก..ย่าจะพูดกับหลาวเปิงให้”
เจ้านางเรืองระยับรีบยกมือไหว้ขอบคุณเจ้านางจามรีด้วยความดีใจ
แพรนวลนั่งจิบน้ำชาอยู่กับหลาวเปิงในหอคำ หญิงสาวได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชา ก็ย้ำเตือนให้นึกถึงกลิ่นดอกไม้ที่วนเวียนในความทรงจำของเธอ
“กลิ่นชาหอมคุ้นๆ”
“ชาลั่นทมครับ หลังหอคำมีสวนลั่นทมออกดอกทั้งปีเราจึงเก็บมาทำชา”
“เก่งมากนะคะที่เอาดอกลั่นทมมาทำชาไม่ให้เหม็นหืนได้”
แพรนวลพูดพลางจิบชาและสูดกลิ่นหอมอย่างชื่นใจ
“พี่หลาวเปิงก็ชอบดอกลั่นทมมากค่ะ แต่ตองริ้วรู้สึกว่ากลิ่นมันหอมเอียนแปลกๆ”
แพรนวลมองหลาวเปิงด้วยความประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเขาชอบดอกลั่นทมเหมือนกัน
“ผมชอบความหมายของดอกลั่นทม..ดอกไม้แห่งรักอันมั่นคง”
“ดอกไม้แห่งรักอันมั่นคง” แพรนวลและหลาวเปิงพูดพร้อมกันโดยบังเอิญ
แพรนวลกับหลาวเปิงชะงักสบตากัน หัวใจที่ตรงกันนั้นเต้นแรง เจ้านางตองริ้วสัมผัสได้ถึงความรู้สึกพิเศษทางสายตาของทั้งคู่ แต่ก็นิ่งเงียบรักษามารยาท จันสมเดินเข้ามา ทำให้แพรนวลกับหลาวเปิงต่างหันกลับมาทำตัวปกติ จันสมลดตัวนั่งลงข้างเจ้านางตองริ้ว
“เจ้านางจามรีเรียกจายหลาวเปิงกับเจ้านางตองริ้วไปพบที่หอในค่ะ”
แพรนวลสงสัยว่าเจ้านางจามรีเป็นใคร
แพรนวลเดินตามหลาวเปิงกับเจ้านางตองริ้วผ่านสนามหญ้าริมสวนลั่นทมที่คั่นระหว่างหอคำกับตึกเล็กอีกตึกหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พักของเจ้านางจามรี
“เจ้านางจามรีหรือเจ้านางแดงหลวงเป็นชายาอีกพระองค์ของเจ้าฟ้าเฒ่า ท่านเอ็นดูพี่หลาวเปิงกับตองริ้วเหมือนลูกหลานค่ะ”
“ฉันเป็นคนนอก คงไม่เหมาะที่จะเข้าไป” แพรนวลท่าทางลังเล
“เจ้าย่าใจดีมาก..ผมอยากให้แม่หญิงแพรนวลเข้าไปกราบท่านด้วยกัน”
สายตาและน้ำเสียงนุ่มนวลของหลาวเปิง ทำให้แพรนวลยอมเดินตามเขากับเจ้านางตองริ้วไปหอในอย่างว่าง่าย
เจ้านางจามรีมองเจ้านางตองริ้วที่นั่งพับเพียบกอดขาเธอไว้อย่างออดอ้อน โดยหลาวเปิง แพรนวล และเจ้านางเรืองระยับนั่งอยู่บนตั่งใกล้กัน
“จะออกเรือนแล้ว ยังไม่ยอมโตสักทีนะตองริ้ว”
“ตองริ้วคิดถึงเจ้าย่านี่คะ”
เจ้านางจามรีลูบหัวเจ้านางตองริ้วด้วยความเอ็นดู แล้วหันไปมองแพรนวลอย่างพินิจพิจารณา
“แม่หญิงแพรนวลเป็นครูไทยที่มาช่วยงานพ่อบุญสิงห์ครับ”
“ไม่มีใครรู้ว่าแพรนวลพูดจริงรึเปล่า”
แพรนวลไหว้เจ้านางจามรีด้วยกิริยางดงาม
“เรืองระยับเล่าให้ฟังว่าเธอเดินทางมาเวียงขินคนเดียว”
“ใช่ค่ะ”
“ไม่กลัวอันตรายเหรอ?”
“ฉันเคยเดินทางไปเรียนและใช้ชีวิตอยู่อเมริกาคนเดียว การเดินทางมาเวียงขินจึงไม่ใช่เรื่องยาก อันตรายมีอยู่ทุกที่ทั่วโลก..ถ้าเรากลัวก็คงไม่รู้จักโลกกว้างนอกบ้าน”
เจ้านางจามรี หลาวเปิง เจ้านางตองริ้ว รู้สึกทึ่งในบุคลิกและการพูดจาฉะฉานของแพรนวล เจ้านางเรืองระยับไม่สบอารมณ์ จึงเปลี่ยนเรื่องเพื่อดึงความสนใจของทุกคนมาจากแพรนวล
“น้องตองริ้วน่าจะพาว่าที่เจ้าบ่าวมากราบเจ้าย่า”
เจ้านางตองริ้วอึกอักตอบไม่ได้เพราะยังไม่เจอซานแปง หลาวเปิงเห็นอาการของหญิงสาวจึงออกตัวแทน
“ช่วงนี้มีลูกค้าสั่งเฟอร์นิเจอร์เข้ามาเยอะ ซานแปงกับผมต้องผลัดเวรกันควบคุมการผลิตอย่างใกล้ชิด”
“ไม่ให้เกียรติญาติผู้ใหญ่ของน้องตองริ้วเลยนะคะ”
“เตรียมพิธีแต่งงานไปถึงไหน..มีอะไรให้ย่าช่วยไหม?”
“พี่ซานแปงจะเข้ามาคุยรายละเอียดวันนี้ค่ะ”
“ป่านนี้ยังไม่เห็นหน้า ไม่มีความรับผิดชอบ”
เจ้านางตองริ้วนึกน้อยใจอยู่ในทีที่ซานแปงยังไม่มา
ด้านซานแปงกำลังไสไม้อยู่ที่บ้านอย่างขะมักขะเขม้น ปอสาเข้ามาถามลูกชายอย่างแปลกใจ
“ยังไม่ออกไปทำงานอีกเหรอ?”
“ผมอยากทำตู้หนังสือใหม่เอาไว้ที่บ้าน”
“ใช้ลูกน้องที่โรงงานทำมาให้ก็ได้”
“คุณค่าของบางอย่างอยู่ที่เราลงมือทำเองครับแม่”
ซานแปงยิ้มให้ปอสา แล้วหันกลับมาไสไม้ต่อ บัวเขมถือตะกร้าผักเดินผ่านมาหยุดยืนข้างปอสา พลางเอ่ยเตือนซานแปงที่นัดกับเจ้านางตองริ้วไว้ ซานแปงหยุดชะงัก แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานของตนต่อไป ปอสากับบัวเขมได้แต่มองในท่าทางแปลกๆ ของซานแปงอย่างเดาไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น
แพรนวลกุมมือปลอบเจ้านางตองริ้วขณะเดินกลับหอคำ โดยมีหลาวเปิงเดินตามมาเงียบๆ
“คุณซานแปงคงติดธุระจริงๆ อีกสักพักก็คงมาค่ะ”
“รู้ดีจริงนะ” เจ้านางเรืองระยับเดินนำทองเพ็งเข้ามาประจันหน้ากับแพรนวลอย่างมีอำนาจเหนือกว่า
เจ้านางตองริ้วชำเลืองมองหลาวเปิง กลัวจะเกิดเรื่อง
“พ่อบุญสิงห์กลับมาแล้ว เธอควรรีบไปแสดงตัวว่าเป็นใคร มาที่นี่ทำไม”
“พี่เรืองระยับรู้ได้ยังไงคะ”
“พี่ก็มีหูตาสับปะรดในเวียงขินเหมือนกัน”
หลาวเปิงเห็นแววตาที่เป็นกังวลของแพรนวล จึงพูดตัดบท
“ผมจะพาแม่หญิงแพรนวลไปหาพ่อบุญสิงห์”
“ฉันไปด้วย”
หลาวเปิงปฏิเสธเจ้านางเรืองระยับทันควัน “คงไม่สะดวก เพราะผมจะปรึกษาธุระสำคัญทางทหารด้วย”
“หลาวเปิงเห็นฉันเป็นคนอื่นเหรอ”
“ผมเห็นเจ้านางเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่รู้มารยาทและกาลเทศะเป็นอย่างดี”
เจ้านางเรืองระยับพยายามข่มความโกรธไว้ภายใต้ความสง่างามของเธออย่างยากเย็นที่สุด
“ฉันไปเตรียมตัวก่อนนะคะ” แพรนวลรีบเลี่ยงออกไป ไม่อยากอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของหลาวเปิงกับเจ้านางเรืองระยับ
แพรนวลเข้ามาในห้องมองตัวเองในกระจก วิตกกังวลที่จะต้องเผชิญหน้ากับครูบุญสิงห์ ในที่สุดก็ตัดสินใจจะเผชิญหน้ากับความจริง หันหลังจะเดินออกจากห้อง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเจ้านางเรืองระยับเดินเข้ามาประชิดตัว แล้วเงื้อมือตบหน้าแพรนวลสุดแรง
“หลาวเปิงเปลี่ยนไปตั้งแต่หล่อนมาที่นี่”
“ไม่เกี่ยวกับฉัน”
เจ้านางเรืองระยับเงื้อมือตบแพรนวลอีกฉาดใหญ่ จนแพรนวลหน้าหัน
“อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้”
เจ้านางเรืองระยับพยักหน้าสั่งทองเพ็ง ทองเพ็งรู้งานปรี่เข้าไปจับตัวแพรนวลทันที
“จะทำอะไร?” แพรนวลตกใจ
เจ้านางเรืองระยับก้าวเข้าหาแพรนวลช้าๆ แพรนวลพยายามจะหนีแต่ถูกทองเพ็งล็อกตัวไว้จนหนีไปไหนไม่ได้
“ความสูงศักดิ์ทำให้ฉันแสดงกิริยาต่ำกับหล่อนไม่ได้ แต่ฉันฆ่าหล่อนได้”
เจ้านางเรืองระยับจ้องหน้าแพรนวลเขม็ง แววตาแข็งกร้าว
เมื่อมาถึงบ้านครูบุญสิงห์ แพรนวลยังรู้สึกหวาดหวั่นต่อความร้ายกาจของเจ้านางเรืองระยับไม่หาย หลาวเปิงคิดว่าเธอกังวลใจเรื่องครูบุญสิงห์จึงพูดปลอบใจ
“ไม่ต้องกังวลเรื่องพ่อบุญสิงห์นะครับ”
แพรนวลไม่พูดอะไร เดินนำเข้าบ้านครูบุญสิงห์ไปทันที พยายามอยู่ห่างหลาวเปิงให้มากที่สุด หลาวเปิงไม่ได้เอะใจ รีบตามแพรนวลเข้าไป
ครูบุญสิงห์ในชุดข้าราชการสีน้ำตาลรับไหว้หลาวเปิงและแพรนวล ก่อนจะมองแพรนวลอย่างนึกสงสัย
“แม่หญิงแพรนวลเป็นเพื่อนเจ้าสาวของน้องตองริ้วครับ เพิ่งมาจากเชียงรายได้สองวัน”
“ไม่คิดว่าสาวไทยจะแต่งชุดไทเขินได้สวยขนาดนี้”
แพรนวลยิ้มอายๆ หลาวเปิงอธิบาย
“ผมนับถือครูบุญสิงห์เหมือนญาติผู้ใหญ่ จึงเรียกพ่อบุญสิงห์มาตลอด”
“บ้านคุณแพรนวลอยู่ตรงไหนของเชียงรายครับ?”
“อยู่ห้วยสักค่ะ”
“คนบ้านเดียวกับนายต่วน”
“นายต่วนไหนคะ?” แพรนวลรวบมือทั้งสองไว้ด้วยกันอย่างระงับอารมณ์ตื่นเต้น นึกลุ้นว่าจะเป็นคนเดียวกับที่เธออยากเจอมากที่สุด
“นายต่วน วงศ์สุคำ เป็นพ่อค้าไทยที่เข้ามาซื้อเครื่องเขินของคนเวียงขิน ไปขายที่เชียงรายครับ”
“นายต่วนเช่าบ้านอยู่ติดบ้านพ่อบุญสิงห์ ผมเคยเจอไม่กี่ครั้งก็รู้สึกได้ว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่ขยันทำมาหากิน”
เสียงพูดคุยเรื่องนายต่วนของหลาวเปิงกับครูบุญสิงห์ค่อยๆ เบาลง เพราะความคิดของแพรนวลเวลานี้กำลังล่องลอยกลับไปสู่ความทรงจำในอดีต รู้สึกตัวอีกทีเมื่อถูกหลาวเปิงสะกิดแขนเรียก
“คะ?”
“นายต่วนแวะมาพอดี ผมจะแนะนำให้แม่หญิงแพรนวลรู้จัก”
แพรนวลหันไปเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า เธอถึงกับลุกขึ้นมองเขาให้ชัดๆ อย่างไม่คาดฝัน หัวใจเกือบหยุดเต้น เพราะใบหน้าวัยหนุ่มของพ่อที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน และเพราะเธอขาดการติดต่อกับพ่อเป็นเวลานานตั้งแต่พ่อแยกทางกับแม่ ในใจของแพรนวลจึงเต็มไปด้วยความโหยหาอ้อมกอดอันอบอุ่น
“พ่อ..”
“ว่าไงนะครับ”
แพรนวลรีบนั่งลง “เอ่อ ฉันรู้สึกเหมือนเราเคยเจอกันมาก่อน”
“มีคนหน้าคล้ายผมด้วยเหรอครับ”
“ฉันคงเข้าใจผิดค่ะ”
“ชื่อคุณแพรนวลเพราะมาก ถ้ามีลูกสาว..ผมขออนุญาตใช้ชื่อนี้ได้มั้ยครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะ” แพรนวลตอบเสียงเบาราวกับกระซิบ เพราะสิ่งที่เธออยากทำตอนนี้คือการกอดพ่อให้แน่นที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอคือใคร ได้แต่เฝ้ามองกิริยาท่าทางของนายต่วนอย่างไม่วางตา ราวกับต้องการจดจำสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับพ่อไว้ให้มากที่สุด
ครูบุญสิงห์ฟังเรื่องราวจากหลาวเปิงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“อูซอเป็นคนพาล..หลาวเปิงต้องระวังให้มากเป็นสองเท่า”
“ทหารเวียงขินมีจำนวนไม่มาก ผมจึงอยากรบกวนพ่อบุญสิงห์ช่วยขอกำลังทหารไทยจากพันตรีประกิตมาคุ้มกันน้องตองริ้วในวันแต่งงาน”
“ผมจะลองพูดกับพันตรีประกิตให้”
“ขอบคุณพ่อบุญสิงห์มากครับ”
ครูบุญสิงห์รับไหว้หลาวเปิง ก่อนหันไปเห็นแพรนวลยืนคุยอยู่กับนายต่วนบริเวณสวนข้างบ้าน
“คำเอ้ยบอกว่าคุณแพรนวลเป็นครูใหม่ของผม?”
“ผมบอกคำเอ้ยแบบนั้นครับ”
บุญสิงห์ดูออกว่าหลาวเปิงกำลังลำบากใจ “หลาวเปิงเป็นคนมีเหตุผล พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้ผมฟังแล้วกัน”
“ขอบคุณที่เข้าใจครับ”
“สองคนนั้นสนิทกันเร็วดีนะ”
ครูบุญสิงห์เอ่ยปากทักเมื่อเห็นแพรนวลกับนายต่วนยิ้มและหัวเราะขณะคุยกัน หลาวเปิงรู้สึกหงุดหงิด แอบหึงโดยไม่รู้ตัว
+++++++++++
คลิกอ่านบทโทรทัศน์บ่วงบรรจถรณ์ตอนก่อนหน้านี้
บ่วงบรรจถรณ์ ตอนแรก : เมื่อล้มตัวลงนอนเป็นครั้งแรก แพรนวลก็ฝันว่าเธออยู่ในเมืองเวียงขิน
บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 2 น้ำเสียงและสายตาจริงจังที่หลาวเปิงมองมายังแพรนวล ทำให้หญิงสาวต้องหลบสายตา