แอน สิเรียม ควง จัสติน สามีฝรั่ง เปิดอกหมดเปลือก พรหมลิขิตนำพากว่าจะได้รักกัน

แอน สิเรียม ควง จัสติน สามีฝรั่ง / เรียกว่าเป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่มีผลงานมากมาย สำหรับ แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ สาวสวยในวัย 49 ปี ที่ปัจจุบันยังมีภาพถ่ายเซ็กซี่ นุ่งบิกีนีอวดโฉมที่ทั้งเฟิร์มและดูแข็งแรงให้เห็นตามไอจีอยู่เนืองๆ ล่าสุดควงสามีชาวอังกฤษ จัสติน เทดด์ เปิดใจกับ ข่าวสด ถึงเส้นทางรักและเคล็ดลับการครองรักของทั้งสองให้แฟนๆ ได้ชื่นชมกัน

แอน สิเรียม ควง จัสติน สามีฝรั่ง

เจอกันได้ยังไง และเจอกันครั้งแรกที่ไหน
จัสติน “ที่ๆเราพบกันครั้งแรก คือที่บางเสร่”
แอน “เจอกันที่แทมเมอรีนรีสอร์ต ก็เจอกันที่นั่น แอนไปเช่าพักเป็นที่พักไพรเวท”

จัสติน “แล้วเธอก็มา ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร”
แอน “แอนไปเขาก็โนไอเดียว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เขาไม่รู้ว่าเป็นดารามาก่อน”

จัสติน “เราเข้ากันได้ เพราะเธอชอบกิน เธอชอบดื่ม เธอเล่นเทนนิส เธอเล่นกอล์ฟ”
แอน “คุณไม่ควรพูดว่า ฉันชอบแอลกอฮอลล์นะ มันไม่ดี”
จัสติน “ผมหมายถึงแอลกอฮอล์ดีๆ ไม่ใช่..”
แอน “โอเค(ยิ้ม) เขาบอกว่าเราเข้ากันได้ เพราะว่าแอนชอบกิน แอนดื่มได้ ออกกำลังกายได้ ชอบนวดด้วย อะไรที่แอนชอบคือเขาชอบหมด ก็ไลฟ์สไตล์เหมือนกันค่ะ”

นานไหมกว่าจะรักกัน
แอน “จริงๆ ต้องบอกว่า ตอนแรกก็ไม่ชอบ ไม่ชอบฝรั่งเลย รู้สึกเหมือนมนุษย์ต่างดาวหรืออะไรสักอย่างมีตาสีฟ้า ไม่เหมือนเรา แล้วอย่างที่บอกว่าตัวเองเป็นลูกครึ่งก็โดนล้อมาตลอด ก็เลยรู้สึกว่าไม่ชอบฝรั่งเท่าไหร่ แต่เขาเป็นฝรั่งบุคลิกไทย จากที่ไม่ชอบก็อยากจะคุย อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วย คุยไปคุยมาก็เลยได้เป็นสามีเลย”

จัสติน “เป็นคำถามที่ดีมาก ผมใช้เวลา 2 ปี เธอไม่รับโทรศัพท์ผม แล้วเราก็มีเซอร์ไพรส์ ไปเจอกันโดยบังเอิญที่ลอนดอน เราเจอกันในสวน มันไม่โรแมนติกเลย เพราะเราเหงื่อออก หลังจากนั้น แน่นอน คำตอบก็คือใช่”
แอน “มันไม่ได้โรแมนติกอะไรเลย เป็นหน้าซัมเมอร์ ก็ไปวิ่งจ๊อกกิ้ง ก็ได้ไปเจอกัน ตัวเขาก็ตัวเลอะเหงื่อแตก ไม่ได้เป็นเหมือนฉากในหนังที่ดูโรแมนติก ที่ป๊ะกัน นี่เองก็หน้าสดไปเลยเหมือนกัน”

แอน “หลังจากที่เจอกัน ก็แลกเบอร์กันที่อังกฤษ ก็มีนัดทำนู่นทำนี่ ก็รู้สึกแฮปปี้มีความสุขค่ะ”
จัสติน “ผมเจอคุณ เดือนมกรา 2010 แล้วเราเจอกันอีกครั้ง ในอีก 2 ปีครึ่ง แล้วเราก็หมั้น เดือนพฤศจิกายน 2014”

แอน สิเรียม ควง จัสติน สามีฝรั่ง

จัสติน “อันนั้นเป็นไฮไลท์ของผมเลย”
แอน “เขาชอบงานหมั้น จัดที่เมืองไทยนี่แหละ”

จัสติน “ผมเอ็นจอยมาก แล้วเราก็มีการฉลองงานแต่งที่ลอนดอน”
แอน “ไปฉลองงานกลางคืนที่อังกฤษ แต่อันนั้นแอนชอบ สลับกัน คนละบรรยากาศ”

แล้วแอนชอบอะไรคุณจัสติน ถึงตกลงใจแต่งงานกัน
แอน “จริงๆ ก็เกร็งนะ เราก็เคยแต่งานมาก่อนแล้ว จะโดนคนไม่เห็นด้วยไหม คนจะก็อสซิบไหมอะไรอย่างนี้ แต่ก็ด้วยความที่เป็นชีวิตเราเนอะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้แต่งเป็นเรื่องเป็นราว แต่เขาก็อยากจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะว่าเขาก็ไม่เคยแต่งงาน แต่เราเคยแต่งแล้ว เขาอยากจัดที่ไทยแต่เพื่อนเขาอยู่ที่นู่น ก็เลยจัดงานเล็กๆ ทั้ง 2 ที่ งานไม่ได้ใหญ่นะ และเมื่อจะต้องใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว ก็ทำให้มันถูกต้องไป ก็ดีก็ดูแฮปปี้กว่า”

ตอนนั้นจัสตินเขาทราบใช่ไหมว่าเราเคยแต่งงานแล้ว
แอน “ทราบค่ะ เล่าว่าเคยแต่งงานกับคุณพ่อน้องนนนี่”

แอน สิเรียม ควง จัสติน สามีฝรั่ง

ตอนที่บอกเขามีความกังวลอะไรไหม
แอน “ก็ไม่ได้กังวลอะไร เขาค่อนข้างสมัยใหม่ ต่างประเทศเขาไม่ค่อยถือกันนะ เขามองว่าเขาก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ปีนี่ก็อายุครบ 61 ปี เดือนนี้ (มีนาคม)”
จัสติน “61 เดือนมีนาคม เราบาลานซ์ 2 ครอบครัวได้เป็นอย่างดีครับ ครอบครัวของผมมีแต่ผู้ชาย ครอบครัวของเธอมีแต่ผู้หญิง
แอน “เราเป็นครอบครัวที่เข้ากันได้ดีมากเลย เพราะว่าฝั่งบ้านเขามีแต่ผู้ชาย เลยไม่มีผู้หญิงเลย มีน้องสาวเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว เป็นครอบครัวใหญ่เหมือนกัน ของฝั่งแอนก็มีแต่สตรีเพศอย่างเดียวไม่มีผู้ชายเลย เวลาจัดวานก็จะพอดี๊พอดี”

พอเขาทราบว่าแอน เป็นคนมีชื่อเสียงเขาว่ายังไงบ้าง
จัสติน “ครับ ผมไม่รู้เลย”
แอน “เพราะว่าฉันไม่สวยเหรอ”
จัสติน “ผมไม่รู้”
แอน “คุณไม่รู้หรอกว่าคุณโชคดีแค่ไหน”
จัสติน “ผมบอกเธอแบบนี้เหมือนกัน แต่มันไม่ได้ผล”
แอน “เขาก็คิดไม่ถึง แอนไม่ใช่คนเวอร์ หลายคนก็บอกว่าแอนเรียบร้อยนะ ไม่ได้ซิ่งมากเท่าไหร่ ดูเป็นคนจริงจังมากกว่า”
จัสติน “ตอนที่เราเจอกัน ผมบอกคุณแล้วว่าผมบอกอเล็กซ์ เพื่อนสนิทผมที่ญี่ปุ่น หลังจากที่ผมกลับไปที่ญี่ปุ่น หลังจากที่ผมเจอคุณ ผมบอกเขา ว่าผมเจอภรรยาในอนาคตของผมแล้ว”
จัสติน “คุณจำได้มั้ย”
แอน “ตอนนี้ฉันจำได้แล้ว”
จัสติน “เขามางานหมั้นเราด้วย กับครอบครัวเขา”
แอน “ตอนที่เขาเจอเขาก็ไม่ได้บอกอะไร แต่วันหมั่นเพื่อนสนิทเขาที่อยู่ที่ฮ่องกงชื่ออเล็กซ์ เขาได้ไปบอกเพื่อนคนนี้ว่า ฉันเจอภรรยาในอนาคตแล้วนะ แล้วอเล็กซ์ก็มาบอกแอน เพื่อนเขาเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน คือคุณจัสตินเขาเคยทำงานที่ญี่ปุ่น 10 กว่าปี พอเขามาอยู่ที่ไทยบุคลิกเขาก็เลยไม่ได้เป็นฝรั่งมาก ไม่ได้เป็นอเมริกัน เขาเป็นคนอังกฤษด้วย”

เรื่องวัฒนธรรมเลยไม่ค่อยมีปัญหา เพราะว่าทำงานอยู่เอเชียนาน
แอน “ใช่ ก็น่าจะเป็นอันหนึ่งที่ทำให้คอนเน็กต์กันงาน”

ในวันแต่งงานได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกันยังไงบ้าง
จัสติน “ให้เกียรติ รัก และเชื่อฟัง”
แอน “ให้เกียรติกัน รักกัน และก็จะมีกันและกัน”

จัสติน “ผมเป็นคาทอลิก การที่จะแต่งงานในโบสถ์คาทอลิกได้ คุณต้องแต่งกับคาทอลิก แต่เพื่อนสนิทของพ่อผม เขาเป็นบาทหลวง เขาทำให้มันไปถึงจุดที่จะเป็นไปได้ จุดที่ยอมรับได้ และจุดที่ยอมรับไม่ได้ แต่เรามีพิธีที่ดีมาก”
แอน “เขาเป็นครอบครัวคาทอลิก แอนเป็นพุทธ ตอนที่เราจัดงานหมั้นเราก็ทำพิธีแบบพุทธ แต่พอไปแต่งที่อังกฤษเราก็ทำพิธีคาทอลิก แต่ว่าเงื่อนไขของคาทอลิก ถ้าแต่งงานกับผู้หญิงที่เคยแต่งงานแล้ว เขาจะไม่ให้แต่งในโบสถ์ ต้องเป็นผู้หญิงที่จะต้องไม่เคยแต่งงานมาก่อน พ่อแม่เขาก็ค่อนข้างเป็นแบบนั้น พระของคาทอลิกเขาก็จะมาทำพิธีที่โรงแรมแทน ทุกคนก็จะได้กล่าวคำมั่นว่าจะรักกัน จะดูแลกันตลอดไป ทางเขาก็ปลื้ม”

ต้องเขาคาทอลิกไหม
แอน “ไม่ค่ะ เวลาเขาไปโบสถ์แอนก็ไปกับเขา ไปทำบุญด้วยกันบ่อย ไปวัดสิเรียมพุทธารามเขาก็ไปนะ ไม่มีปัญหา”

วัฒนธรรม ศาสนาไม่เป็นอุปสรรค์
แอน “ไม่ค่ะไม่มี ค่อนข้างจะราบรื่นพอสมควร ต้องบอกว่าเป็นความรักที่โตแล้ว ไม่เป็นแบบเด็กๆไม่มีเรื่องหึงหวง ไม่มีเรื่องอะไร มีแต่เราจะใช้ชีวิติยู่ด้วยกันยังไงให้มีความสุข ซึ่งเราก็เห็นตรงกันว่าความรักที่ถาวรที่จะทำให้เราอยู่กันไปจนแก่จนเฒ่าได้มันคือการให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่มีใครทำอะไรถูกใจเราหมดซะทุกอย่างเรื่อง แม่เราลูกเรายังทำไม่ถูกใจเราเลย สามีก็เหมือนกัน แต่แค่สิ่งที่สำคัญก็คือรักเดียวใจเดียว ต้องมั่นคงในความรัก ไม่ใช่จะมีทีเดียวหลายๆคน ไม่ได้ใช่ไหมค่ะ ก็เน้นความซื้อสัตย์ซึ่งกันและกัน”

เวลาเห็นรูปเซ็กซี่ในไอจีเขามีฟีตแบ๊กยังไงบ้าง มีหวงบ้างไหม
จัสติน “ผมไม่ชอบเลย”
จัสติน “ผมชอบลุกส์ที่สวยสง่าของเธอ ไม่ใช่เซ็กซี่ลุกส์
แอน “เขาไม่ชอบลุกส์เซ็กซี่”

แอน สิเรียม ควง จัสติน สามีฝรั่ง

จัสติน “ผมซีเรียสนะ ผมชอบลุกส์สวยสง่ามากกว่าลุกส์เซ็กซี่”
แอน “นี่เป็นงานของฉัน”
จัสติน “ผมรู้ ผมให้อภัยคุณ”
แอน “โอ้ เขาให้อภัย”

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

อ่านข่าว : แอน-นนนี่ ความเจ็บปวดที่เจอ กลับมาอยู่กับแม่ ความสุขที่โหยหาทั้งชีวิต

แต่งงานกันมายังคงความสวีตยังไงกันบ้าง

จัสติน “อันนี้ถามจริงๆ หรือเปล่า (หัวเราะ) ผมว่าเป็นการผสมผสานที่ดีนะระหว่างไทยกับยูเคนะ คุณชอบลอนดอนมากกว่าที่คุณคิดว่าคุณชอบ คุณชอบความเป็นส่วนตัวตอนอยู่ที่ลอนดอน ได้เปลี่ยนวิวทิวทัศน์ คุณชอบฤดูกาลที่นั่น คุณเคยไม่ชอบความหนาว แต่ตอนนี้คุณเริ่มชอบอากาศหนาวแล้ว”
แอน “เขาบอกว่าที่ทำให้ความรักดูสดชื่นอยู่ตลอดเวลา เขาก็พยายามว่าน่าจะเป็นเพราะว่าเดินทางบ่อยด้วยแหละ อยู่ที่ไทย 3 เดือน อยู่ที่อังกฤษ 2-3 เดือน แล้วด้วยที่อังกฤษเขามี 4 ฤดู ก็ 4 ฤดูจริงๆ เสื้อผ้าก็ต้อง 4 ฤดูเนอะ ไม่เหมือนประเทศเราที่มีฤดูเดียวเนอะ ก็โชคดีที่ได้อยู่ที่นี่ แล้วก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ 15 เดือนไม่ได้ไปไหนเลย นี่เป็นครั้งแรกของเขา”

แอน “แอนขยายความก็ได้ อาจจะเป็นเพราะว่าการเดินทางมันเป็นเรื่อง สมมติเพื่อนกันเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันกลับมายังเลิกคบกัน ดัวนั้นการเดินทางการใช้ชีวิตที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา มันเป็นการดูแลซึ่งกันและกัน เป็นการเทคแคร์ซึ่งกันและกัน แอนว่ามันมีความหมายมากกว่าคำว่าแก้เบื่อ ไม่ใช่หรอกว่าทุกการเดินทางมันจะราบรื่น มันเป็นไปไม่ได้มันจะต้องเจออะไรต่างๆนานา เยอะแยะมากมาย”

จัสติน “สนับสนุนทีมฟุตบอลที่เหมาะสมก็ช่วยนะ แม้เราจะมีความขัดแย้งกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับทีมฟุตบอล เธอพยายามอย่างมากที่จะเปลี่ยนมาชอบทีมฟุตบอลของผม แต่เธอทำไม่ได้”
แอน “ก็คือบ้านเขาอยู่เชลซี แต่เขาซัพพอร์ตลิเวอร์พูล ไม่เคยเชื่อเลยว่าเรื่องฟุตบอลมันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตครอบครัว แล้วแอนเชื่อว่าถ้าใครมีสามีเป็นคนอังกฤษก็จะเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องซีเรียส ก่อนที่จะแต่งงานก็มีการแจ้งกันว่าแอนชอบเชลซี ก่อนที่จะไปเช่าอยู่ที่เชลซี แล้วก็ได้ไปสนามเชลซี ก็มีความรู้สึกว่า แต่ทีมฟุตบอลที่รู้จักทีมแรกคือลิเวอร์พูลนะ อาจจะเป็นเพราะช่วงอายุ เขาก็บอกก่อนแต่งงานว่าต้องเปลี่ยนมาซัพพอร์ตลิเวอร์พูลนะ แล้วเวลาแมชต์ที่เป็นลิเวอร์พูลกับเชลซีเตะกันก็จะต้องมองบน แล้วถ้าเชลซียิงเข้าเราก็ (กรี๊ดกัดฟัน)”

จัสติน “เธอเป็นคนเปิดใจยอมรับจริงๆ เพราะว่าการแข่งขันฟุตบอลจะเริ่มค่อนข้างดึก เธอไม่เคยบอกว่าไม่กับผมตอนดูฟุตบอลดึกๆ เพราะว่าเธอก็ดูเองด้วย แต่ปกติหลังจากมากสุด 5 นาทีเธอก็ (ทำเสียงคร่อกและเอนหัวท่านอนหลับ)”
แอน “เวลาดูที่นี่มันดึก แล้วการดูกีฬามันเป็นสิ่งที่เขารักมากเลย ยังไงเขาจะต้องดูทุกกีฬา เขาดูทุกกีฬาจริงๆ แล้วฟุตบอลเป็นอะไรที่ซีเรียสมากเลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือไปฮอลิเดย์หรือไปเที่ยวก็แล้วแต่ เขาจะขอเปิดทีวีดูฟุตบอลในห้องนอนนะ เพราะพออยู่ด้วยกันไปอาจจะมีภรรยาบอกว่าปิดได้แล้ว ดึกแล้วนู่นนี่นั่นแบบนี้ แต่แอนก็ไม่เป็นไรให้เขาเปิดดูได้ แอนหลับได้ เป็นเด็กกองเก่า เด็กกองถ่ายหลับได้ทุกที่”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน