งานเข้าพิธีกรคนดัง บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี อย่างจัง จากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่ารู้เรื่องโลกใบที่หนึ่งของ เค วัฒนา ว่าที่เจ้าบ่าวของดาราสาว จั๊กจั่น อคัมย์สิริ โดยมีคนส่งรูป คลิปเสียง ทะเบียนรถ รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกที่ระบุได้ว่า ตาล โลกใบที่หนึ่ง มีตัวตนจริง!

ทว่าคดีกลับพลิก เมื่อชาวเน็ตจับโป๊ะรูปถ่ายทั้งหมดที่ถูกเผยแพร่ออกมาว่าไม่ใช่ ตาล ตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่เป็นรูปของนักร้องลูกทุ่งสาว อั้ม นันทิยา และ หมูหวาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 12 มี.ค.64 พิธีกรคนดัง บุ๋ม ปนัดดา เปิดใจทั้งน้ำตาถึงมหกรรมโดนแกงที่เกิดขึ้น จากการได้รับข้อมูลเท็จของอดีตผู้จัดการส่วนตัวจั๊กจั่น

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ไม่โอเคเลย เราพยายามขอโทษในทุกทางที่เราได้เพราะเรารู้สึกผิดจริงๆ แต่ด้วยคำพูดที่เขาพูดในคลับเฮ้าส์มันเลยกลายเป็นว่าเขาอาจจะรู้สึกว่าเราขอโทษแบบไม่จริงใจ ถ้ารู้จักบุ๋มจริงๆ บุ๋มจะเป็นคนที่พยายามจะมองในหลายๆ จุด ทีนี้ก่อนที่น้องจะเข้ามามันมีอยู่คนหนึ่งที่น้องพูดถึงคนป่วย มีอาการทางจิตเราก็เลยบอกว่าถ้ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ระวังขึ้นนิดนึง เพราะว่ามันเซ้นซิทีฟ แต่กลับกลายเป็นว่าบุ๋มไปเข้าข้างอาบี ทำไมถึงไม่เห็นใจจั๊กจั่นบ้าง

จั๊กจั่นเองก็ออกมาบอกว่าแล้วถ้าหนูฆ่าตัวตายมั่งล่ะ ไม่มีใครอยากให้ใครเป็นอะไรทั้งสิ้น ยิ่งสิ่งที่จั๊กจั่นเจอมันเจอหนักกว่าที่ใครเขาเจออยู่แล้ว ฉะนั้นเราคุยกันได้แค่กรณีแรกเท่านั้น ไม่ใช่ว่าไม่ได้แคร์จั๊กจั่น หรือ ไม่ได้ห่วงเลย มันไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอนค่ะ แค่พูดให้มองหลายๆ ด้านในฐานะที่ทำคดีหลายๆ มุมเราเองไม่ได้เป็นคนที่อยู่ข้างใน แล้วเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลยต้องคิดให้รอบคอบขึ้น เพียงแต่ว่าตอนนั้นรอจังหวะให้คนเข้ามา ไม่นึกว่าจะเข้ามาในคลับเฮ้าส์กันเร็วขนาดนี้

บุ๋มพลาดเองที่ไม่พูดแทรกพี่หนุ่ม ไม่พูดแทรกปุ๊ก บุ๋มกลับอึ้ง เพราะว่าได้ยินเสียงสั่นเครือของจั๊กจั่น มันเลยทำให้บุ๋มไปไม่เป็นเลย แล้วกลายเป็นว่าเสียงร้องไห้เขามันติดหูบุ๋มไปถึงเช้า จนเรารู้สึกแย่ รู้สึกแย่กับการนำเสนอข่าวของเราที่มันทำให้น้องเสียใจมากขนาดนี้ แต่เราไม่โทษน้องนะ เพราะเราทำตัวเราเอง เราเป็นคนอ่านข่าวเขาจริงๆ เราอยากรับผิดชอบตรงนี้จริงๆ ก็เลยโพสต์ข้อความประมาณตี 3 ไปอีกรอบหนึ่ง ด้วยความที่ความรู้สึกมันตลบไปหมดเลย รู้สึกว่าไม่ได้ พี่ต้องขอโทษน้องผ่านทางรายการเพราะว่าเราได้อ่านข่าวน้องผ่านหน้ารายการ”

“ความรู้สึกหนึ่งคือเจ็บ เพราะว่าอย่างอาบี รู้จักกันมาเกือบ 20 ปี มันไม่รู้หรอกว่าใครคนหนึ่งจะทำเรา…ที่เขาเรียกกันว่าแกง มันจะทำกันขนาดนี้ ส่งข้อความมาเยอะมาก แต่บุ๋มอยากจะบอกว่าถ้าไปย้อนดูดีๆ วันจันทร์เราพูดถึงกรณีน้องก็จริง แต่บุ๋มบอกแล้วนะว่าไม่ให้โพสต์ถึงชื่อน้อง เพราะว่ายังไม่มีใครรู้ความจริงอะไรเลย

วันอังคารบุ๋มไม่ได้จัดรายการ แต่น้องได้มีการให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นประเด็นอะไร อาบีส่งข้อความอะไรมา ทีมส่งข้อความอะไรมาบุ๋มไม่มีเอามาพูดเลยนะ เพราะเรารู้สึกว่าคำที่ออกจากปากน้องคือที่สุด คำพูดของคุณเค วัฒนา ของวันพุธที่ผ่านมาคือที่สุด เลยยังงงอยู่ตรงนี้ว่าทำไมถึงมาหาว่าบุ๋มไปกล่าวหาเขาเรื่องธุรกิจสีเทา เพราะหลังจากวันพุธบุ๋มยังไม่ได้จัดรายการ ยังไม่มีอะไรให้โพสต์หรือเขียนเลย”

ย้อนกลับไปวันแรกที่อ่านข่าว มองว่าตัวเองพลาดตรงไหนถึงกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต?
“บุ๋มว่านักข่าวที่คุยกันทุกคนในนี้ เราโดนหมดนะ เราโดนข้อมูลส่งด้วยกันหมด แต่บุ๋ม จะไม่โทษใครว่าเราโดนแกงกันทั้งหมด มันคือสิ่งที่เราจะพูดออกไปมันต้องคัดกรอง แต่อยากให้เปิดใจ อย่างเช่นเรื่องธุรกิจสีเทา คือเขาเป็นคนบอกเรา เราไม่ได้เป็นคนพูดกับคนอื่น แต่กลับกลายเป็นว่าเราไปพูดกับคนอื่น เพราะมันมีแชตอื่นที่เขาไปบอกชาวบ้านว่าบุ๋ม เป็นคนจะไปแจ้งความตำรวจเรื่องธุรกิจโต๊ะบอล บุ๋ม ว่าน้องคงได้รับข้อความแบบนี้ที่แชร์ๆ กัน แล้วก็ไปถามน้องจนน้องเข้าใจผิดว่าบุ๋ม เป็นคนพูด”

ตอนนี้ได้ต่อสายตรงไปคุยยังอาบีหรือยัง?
“บุ๋มส่งข้อความไปถามอาบีค่ะ แต่เขาไม่ตอบบุ๋มเลยค่ะ หลังจากที่ทุกอย่างมันเปิดออกมา บุ๋มมีข้อมูลทุกอย่างก็จริงที่ถามกับนักข่าวแต่ละคน ไม่แตะเลยนะ ไม่เคยเอาออกมาเลยนะ คลิปเสียงหรืออะไรก็ตาม เพราะเรารู้สึกว่าใช่มันมีประเด็นนี้เกิดขึ้นจริง แต่อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นเราทำข่าวดารา คำพูดของดารามันเป็นสิ่งที่เราต้องไปเอาคำพูดจากปากเขา ความเป็นจริงมันอยู่ที่นั่น แต่ถามว่าเมื่อมีประเด็นแล้วเราไม่พูดใช่มั้ยมันก็ไม่ใช่

เพียงแต่ถ้าคนอื่นจะหาว่าบุ๋มเริ่ม ไม่เป็นไร บุ๋มยอมรับผิดทุกอย่าง จะผิดจริง ไม่ผิดจริง เรารับผิดหมดทุกอย่างเพราะเรารู้สึกแย่ รู้สึกว่าคนๆ หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขาคงแย่กว่าเราเยอะ ร้องไห้กว่าเราเยอะ ดังนั้น อยากจะขอโทษน้องจริงๆ ด้วยความจริงใจ จากหัวใจเลยว่าไม่มีความตั้งใจหรือเจตนาที่จะทำร้ายน้องแบบนี้เลย”

กลัวจั๊กจั่นจะไม่รับคำขอโทษไหม?
“กลัวมั้ย ไม่เป็นไรมันเป็นสิทธิ์ของน้องค่ะ แล้วบุ๋มก็ยอมรับผิดเองจริงๆ หลายคนก็บอกว่าทำข่าวกันหมดทุกช่องคนอื่นก็พูดเหมือนกันทำไมบุ๋มโดนอยู่คนเดียว บุ๋มไม่ทราบ แต่ถ้าโซเชี่ยลบอกว่าบุ๋มผิด บุ๋มก็ผิด”

แต่ทางจั๊กจั่นไม่ติดใจในตัวพี่บุ๋ม แต่อยากให้ขอโทษเคและทางครอบครัว?
“ใช่ค่ะ ในรายการเมื่อสักครู่นี้เหมือนกับว่าบุ๋มใช้พื้นที่ข่าวรายการตกมันส์บันเทิง เพราะว่าบุ๋มใช้พื้นที่นี้ในการทำข่าวน้องด้วย เลยใช้พื้นที่ตรงนั้นและอยากใช้โอกาสตรงนี้อีกครั้งขอโทษน้องจั๊กจั่น ครอบครัวของน้องจั๊กจั่น คุณเค เพื่อนๆ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้อง อย่างครอบครัวของคุณเคด้วยนะคะที่เข้าใจผิด หรือว่าเข้าใจว่าบุ๋มมีเจตนาที่ไม่ดีกับครอบครัว บุ๋มขอโทษจริงๆ(ยกมือไหว้) ไม่มีนะ คำว่าธุรกิจสีเทาไม่ได้มาจากบุ๋มนะ ดังนั้นถ้าอยากให้บุ๋มขอโทษ ถ้าเจออีกทีบุ๋มยินดีค่ะ แมนๆ แบบนี้แหละ ทำก็คือทำ ไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่ว่าไม่ได้ทำแล้วเข้าใจผิดบุ๋มก็ขอโทษ ขอโทษคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

คิดใหม่ว่าเป็นเพราะอะไรเขาถึงใช้เราเป็นเครื่องมือในการทำลายคนๆ หนึ่ง แล้วก็สร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาทำไม?
“จริงๆ เขาไม่ได้ใช้บุ๋มคนเดียว สื่อหลายๆ สื่อได้รับข้อมูลเมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่รู้สึกแย่คือเรารู้จักเขามานานมาก ความสัมพันธ์ 20 ปีมันไม่มีค่าอะไรเลยเหรออาบี บุ๋มเสียใจที่เพื่อนในวงการมันไม่ควรที่จะทำร้ายกันอย่างนี้ พี่ไม่ควรทำร้ายน้องแบบนี้ ยิ่งใกล้ชิดน้องขนาดนี้ พี่ต้องรู้สิว่าน้องนิสัยดีขนาดไหน น้องทำง่านการกุศล น้องช่วยคนขนาดไหน น้องไม่ควรเจอแบบนี้ แต่ ณ วันนั้นบุ๋มโง่เอง เขาเล่นมาหาถึงที่ด้วยความที่ข้อมูลมันไม่ใช่แค่คำสองคำ หรือภาพสองภาพ (โชว์ข้อความแชต)”

อันนี้คือไลน์ของอาบีใช่ไหม?
“ใช่ เขาส่งมาเยอะแบบนี้เลย (เลื่อนแชตในโทรศัพท์ให้ดู) ถามว่าเอ๊ะมั้ย ก็ต้องเอ๊ะเหมือนกัน ว่าทำไมสตอรีเรื่องราวมันขนาดนี้ แต่ก็เอ๊ะอีกอย่างด้วย คือเขาก็ผู้ใหญ่อะ เพราะการเอ๊ะของเรา เราถึงไม่ได้เอาข้อมูลทั้งหมดนี้ออกมาเปิดเลยนะ ไม่มีเลย บุ๋มขอสัมภาษณ์จั๊กจั่น ขอคำจากน้อง จากคุณเค นั่นคือสิ่งที่จบ ไม่มีอะไรจากในนี้หลุดไปเลย”

อาบีก็ส่งภาพเหล่านั้นที่เป็นข่าวให้เราเหมือนกันใช่ไหม?
“มีค่ะ มีคนอื่นด้วย อย่างที่แอนนา ทีวีพูลเปิด อย่างที่พี่หนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอยเปิด แต่เราไม่ได้เปิดเลย ถือว่าไม่ใช่เรื่อง”

ตอนนี้เรายังเห็นเขาเป็นเพื่อนอยู่ไหม หรือตัดไปเลย?
“โอ้…ถ้าเพื่อนทำกันอย่างนี้ ไม่ใช่เพื่อนแล้วมั้ง แต่แค่อยากให้เขาที่นอกเหนือจากรับผิดที่เขาโพสต์ อยากให้เขาไปรักษาจริงๆ นะ การสร้างเรื่องได้ขนาดนี้ บุ๋มไม่เคยเจอนะ เราเจอผู้ร้ายมาเยอะมากเลย แต่เราไม่เคยเจอแบบที่สามารถสร้างตัวละครขึ้นมาขนาดนี้ มีคลิปเสียงด้วย ไม่เคยเจอ”

ต้องยอมรับว่าครั้งนี้เราโดนแกงหม้อใหญ่เลย เรารู้สีกเสียหน้าไหม?
“ไม่เสียหน้าค่ะ แต่เสียใจมากกว่า เราไว้ใจคนนะ แต่การไว้ใจ ก็บอกว่าอย่างที่บุ๋ม ก็มีเอ๊ะถูกมั้ยถึงไม่มีข้อมูลออกไปเหมือนสื่ออื่นนะ ไม่มีเลยนะ เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นแค่นักข่าวบันเทิง เราแค่นำเสนอประเด็นขึ้นมา และเมื่อดาราให้สัมภาษณ์มันต้องจบ แต่ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นความเข้าใจผิดที่คนบอกว่าบุ๋มต้องเป็นตัวเริ่ม ไม่ใช่นะ ถ้าเกิดดูดีๆ บุ๋มไม่ได้เป็นคนเริ่ม แต่ก็ไม่ขอปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น ขอน้อมรับความผิดแต่โดยดี”

วันที่อาบีมาให้ข้อมูล พอเราฟังจบแล้วอยากโทร.หาจั๊กจั่นไหม?
“โทร.ค่ะ ให้ทีมข่าวโทร.ค่ะ แต่น้องถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ แต่อีกวันน้องก็มา แต่จังหวะรายการไม่ดี เพราะเราเป็นรายการสด เลยกลายเป็นว่าเราได้คำสัมภาษณ์ของน้อง เราก็อ่านตามที่น้องให้สัมภาษณ์ ทุกอย่างก็จบอยู่แค่นั้น ไม่ได้มีต่อเลย”

จากเหตุการณ์นี้ มันจะกระทบกับความน่าเชื่อถือที่ตัวเราสร้างมาไหม?
“ถ้าเหตุการณ์เดียว แล้วทำให้ทุกคนหมดความเชื่อมั่นในตัวบุ๋ม ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าวันหน้าอยากจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบุ๋มยินดี ไม่ต้องมาคาดคั้นจากบุ๋มอีกก็ได้ แต่บุ๋มก็จะยังทำในสิ่งที่บุ๋มช่วยคนได้ ทำเคสต่างๆ เหมือนเดิม ถอยไม่ได้ค่ะ มันคนละเรื่องกัน งานก็คืองาน แต่บทบาทในสิ่งที่เราทำมันก็ต้องทำ แต่ถึงบอกว่า อย่างเมื่อคืนที่จั๊กจั่นอาจจะรู้สึกว่าเราไม่ได้ขอโทษเขาจากใจจริง วันนี้เขาเลยมาพูดแบบนี้ บุ๋มก็เลยบอกว่าไม่ใช่นะน้อง ไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้นแน่นอน”

เรื่องนี้ให้บทเรียนอะไรกับเราบ้าง?
“ทำงานอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี เราก็ไม่นึกหรอกเนอะ ว่าเราจะเจอเรื่องแบบนี้ แล้วก็ไม่นึกว่าจะเจออะไรที่มันเป็นภารตะ เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ที่จะทำลายชีวิตคนคนหนึ่งได้ขนาดนี้ มันก็เป็นบทเรียนเราเหมือนกันค่ะ แต่ถามว่าจะไม่ได้ทำหน้าที่ต่อไปคงไม่ใช่ แต่จะรักษามากขึ้น จะพยายามทำงานให้ดีกว่านี้”

อยากบอกอะไรกับโซเซี่ยลที่ถล่มเราหนักมากตอนนี้?
“อยากจะบอกโซเชียลทุกคน คุณมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ ทำได้เต็มที่เลยค่ะ แล้วบุ๋มขอน้อมรับทุกคอมเมนต์ คุณจะบอกว่าผิดหวังในตัวพี่บุ๋มมาก จะไม่ติดตามแล้ว ยินดีค่ะ ผิดก็คือผิด บุ๋มยอมรับเต็ม แล้วก็ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นค่ะ เพราะแค่อยากมาบอกว่าอะไรที่ทำ และอะไรที่ไม่ได้ทำ บุ๋มชัดเจนตรงนี้เสมอค่ะ”

ยืนยันจากปากตอนนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ไม่มีตาลโลกใบที่หนึ่ง เป็นแค่ตาลทิพย์แน่นอน?
“ณ วันนี้ต้องตาลทิพย์แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นอะไรอย่างนี้เกิดขึ้น บุ๋มว่ามันก็ไม่แฟร์กับทุกๆ คน แล้วก็ตัวนักข่าวเอง ขอพูดในนามนักข่าวบันเทิงในวันนี้แล้วกัน พวกเราเองก็มีการคุยกันนะคะ เราเองก็รู้สึกแย่ในสิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าทุกคนพยายามทำหน้าที่งานของตัวเองให้ดีที่สุด แต่เมื่อมันไปทำร้ายจิตใจใครก็ตาม ขอน้อมรับความผิดไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ แล้วบุ๋มเองไม่ว่าจะทำให้ใครรู้สึกแย่ รู้สึกเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับจั๊กจั่นหรืออะไร บุ๋มเองต้องขอโทษอีกครั้งค่ะ ขอโทษจากใจค่ะ (ยกมือไหว้)”

เรากับอาบีสนิทกันขนาดไหน?
“ไม่ๆ เจอกันตามงานการกุศลเท่านั้นเอง แค่ตอนนี้บุ๋มแคร์ความรู้สึกจั๊กจั่นมากกว่า แคร์ความรู้สึกน้องมากกว่า(เสียงสั่น) ว่าน้องจะรู้สึกยังไง น้องจะเกลียดเรามั้ย แต่น้องคงเข้าใจผิดไปเยอะ เมื่อวานไม่ร้บสาย แถมยังบอกว่าถ้าจั่นฆ่าตัวตายบ้างล่ะ คือไม่มีทางที่เราจะทำให้น้องรู้สึกอย่างนั้นแน่นอน”

แต่ล่าสุดจั๊กจั่นก็เข้าใจเจตนาของเราแล้ว?
“ใช่ แต่เขายังเข้าใจผิด หาว่าเราไปพูดเรื่องธุรกิจสีเทา ซึ่งบุ๋มทำรายการแค่วันจันทร์ วันพุธ แล้วหลังจากนั้นไม่ได้ทำเลย อย่างที่บุ๋มโพสต์ในไอจี ว่าอาบีส่งชื่อมา บุ๋มยังบอกเลยว่าขอให้ไม่เป็นจริง แต่เมื่อคืนในคลับเฮ้าส์มันชุลมุนมาก บุ๋มยอมรับว่าไม่ได้อธิบายเคลียร์ แล้วพอมีเสียงน้องร้องไห้ เราก็อึ้งไปเลย ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ได้แต่ขอโทษ อธิบายไม่ถูก น้องคงเสียใจเนอะ เรารู้สึกอย่างนั้น น้องคงเสียใจมาก มากกว่าวันนี้ที่เราร้องไห้ มากกว่าวันนี้ที่เราแย่ สิ่งที่บุ๋มเจอมันกระจอกมาก สำหรับสิ่งที่น้องเจอ บอกเลยว่ามันน้อย ถ้ามีโอกาสอยากจะขอโทษน้องต่อหน้ามากกว่าค่ะ เพราะพูดแค่เสียงผ่านคลับเฮ้าส์มันอธิบายไม่ได้ (ร้องไห้)”

เราพยายามโทร.ไปหาจั๊กจั่นแล้วใช่ไหม?
“โทร.ค่ะ ส่งข้อความไปเมื่อวาน แต่เขาไม่ตอบอะไร ไม่เป็นไร”

คิดว่าทำไมเขาถึงคิดว่าเราไม่เข้าข้าง?
“พอเห็นข้อความอื่นของอาบี ที่ส่งให้คนอื่น บอกว่าบุ๋มเป็นคนที่แบบโน่นนี่ มันก็เลยไม่แปลกที่จั๊กจั่นจะเข้าใจบุ๋มผิด ว่าบุ๋มเป็นคนไปวิ่งกับตำรวจ ซึ่งเราไม่เกี่ยวอะไรเลย(ปล่อยโฮ ร้องไห้หนัก)”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ บุ๋ม ปนัดดา ร้องไห้หนักอยู่นั้น ปรากฏว่า จั๊กจั่น อคัมย์สิริ ได้โทรศัพท์เข้ามาหา จากนั้นทั้งคู่จึงได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกันพักใหญ่ โดยพิธีกรสาวร้องไห้ออกมาเป็นระยะ พร้อมกล่าวขอโทษอีกฝ่าย

หลังจากที่วางสาย บุ๋ม ปนัดดา ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า “สบายใจเยอะมากๆๆๆ โล่งมาก ปลดล็อกเลยอะ น้องบอกว่าเข้าใจบุ๋มนะ แต่ไม่พร้อมเท่านั้นเองเพราะว่าเมื่อคืนคือแบบเสียใจมาก แล้วก็ไม่อยากให้จบแค่นี้ อยากให้มีการดำเนินคดีกับอาบี ซึ่งเรื่องนี้เดี๋ยวช่วยน้องเต็มที่เพราะบุ๋มเองก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นเช่นเดียวกันว่าคนคนหนึ่งไม่ควรเจออะไรอย่างนี้ ยังไงก็สัญญาค่ะว่าจะทำให้ดีที่สุด”

ได้ยินจั๊กจั่นบอกว่าตัวเราเองตกเป็นเหยื่อด้วย? “ใช่ค่ะ บอกว่าตัวบุ๋มเองกับเขาเองก็ตกเป็นเหยื่อของอาบีทั้งคู่ ไม่ใช่แค่เราทุกคนโดนกันหมด เราจะทำยังไงได้บ้างดังนั้นก็เชื่อว่าความเป็นพี่เป็นน้องยังเหมือนเดิม (จั๊กจั่นหายโกรธ?) ยิ่งกว่าหายโกรธค่ะ แต่ร้องไห้หนักมากบอกว่าเสียใจทำไมเขาต้องมาทำให้ความสัมพันธ์บุ๋มกับจั๊กจั่นมันแตกแบบนี้ ไม่ดีแบบนี้ รู้สึกแย่แบบนี้ มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น เพราะบุ๋มกับเขาพูดกันตรงๆ เบื้องหลังเลยมีหลายเคสมากเรื่องหมาแมวเรื่องกิจกรรมต่างๆ คือบุ๋มกับน้องทำกันมาตลอด ดังนั้นจากวันนี้ไปอย่างแน่นแฟ้นและแน่นกว่าเดิมบอกเลยค่ะ บุ๋มจะยืนเคียงข้างน้องไม่ต้องห่วงค่ะ ขอบคุณค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน