เคลียร์ปมอยู่ไม่จบรายการเพราะไม่พอใจนก อุษณีย์หรือไม่ – วันที่ 22 มี.ค. ที่ วังจักรพงษ์ ภายในงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนพิเศษ ฉลองครบรอบ 4 ปี ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมแฮร์ริทซ์ พร้อมฉลองครบรอบความรักยืนยง 12 ปี ‘ฮาน่า-ฮิวโก้’ มี ‘หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ’ ผู้จัดละครชื่อดัง มาร่วมงาน ก่อนเริ่มงานเลี้ยงฉลอง ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงดราม่าในโลกโซเชียล ถึง “นก อุษณีย์” ที่เมินใส่ “หนิง ปณิตา” กลางรายการหนึ่งจนหลายคนตั้งข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นก อุษณีย์ ไปออกรายการ มีกระแสออกมาระหว่างเราสองคน?
“จริงๆต้องบอกว่าหนิงกับน้องไม่ได้มีปัญหากัน ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อนล่วงหน้า ไม่มีอะไร หนิงก็ทำรายการก็สัมภาษณ์ตามที่ต้องถามแค่นั้นเลยจริง”

ก่อนเข้ารายการกับ “นก” ต้องคุยหรือบรีฟอะไรกันก่อนไหม?
“ไม่มีค่ะ ด้วยความที่เป็นรายการสด พอมาแต่งหน้าทำผมเสร็จ หนิงก็จะรับบรีฟคำถามจากทางทีมงาน บางทีกับแขกรับเชิญเราอาจจะมีโอกาสได้เจอกันก่อนเข้ารายการ แต่ด้วยวันนั้นไม่ได้เจอกันก่อนเข้ารายการ ช่วงเข้ารายการเบรกแรกหนิงก็อ่านข่าวตามรันสคริปต์รายการ เจอน้องตอนที่จะเข้ารายการเลย”

หลังจบรายการสถานการณ์วันนั้นเป็นยังไง?
“จริงๆวันนั้นหนิงไม่ได้อยู่จนจบรายการ แต่ว่าหลายๆคนก็คิดว่าหนิงอยู่ไม่จบรายการเพราะหนิงไม่พอใจอะไรหรือเปล่า คือหนิงต้องบอกอย่างนี้ว่า จริงๆแล้ววันจันทร์หนิงจะไม่ค่อยได้ไปทำรายการอยู่แล้ว เพราะติดกองถ่าย แต่พอคิวมาเป็นวันจันทร์ วันนั้นหนิงเป็นกองเป็นวันแรกๆ หนิงเองก็ไม่ได้แจ้งกับทางรายการเอาไว้ว่าเป็นวันเปิดกองวันแรกๆ แล้วคิวมันเผอิญชนกัน ก็ได้มีขอทางรายการไว้ว่า ถ้าต้องมาทำก็ขออนุญาตไม่อยู่จนจบ อยากจะกลับไปที่กอง ดูแลที่กอง เพราะตอนเช้าหนิงมาจากที่กอง มารายการแล้วก็กลับกอง ก็ไม่ได้อยู่จนจบ อันนี้เป็นการพูดคุยกันตั้งแต่ก่อนที่จะทำรายการ ไม่ได้เกิดการไม่พอใจแล้วกลับ ทีมงานรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า ถ้าหนิงเข้าทำงานวันจันทร์ อังคาร พุธ จะอยู่แค่ช่วงสัมภาษณ์ ไม่ได้อยู่ยาวจนถึงลูกค้า”

อากัปกิริยาของแขกรับเชิญเหมือนไม่พอใจกับเรา ถามอะไรไปก็ไปตอบอีกคนหนึ่ง?
“อันนี้หนิงก็เข้าใจได้ เข้าใจในมุมของเขา น้องเองอาจจะรู้สึกอึดอัดกับคำถามที่หนิงถามออกไป แล้วเมื่อคำถามที่ถูกถามออกไป ตัวหนิงเองก็ถามตามหน้าที่ที่หนิงจะต้องถาม แต่โอเค หนิงก็เห็นแล้วแหละ พอถามแล้วมันถูกเกิดความอึดอัดหรืออะไร น้องเองมีน้ำตา หนิงเองก็รู้สึกไม่ดีนะ หนิงก็กล่าวขอโทษเลย ณ ตอนนั้นว่า คือมันเป็นสิ่งที่เราต้องถาม เพราะหน้าที่ที่เราต้องถาม แล้วก็ในความรู้สึกตรงนั้น สิ่งที่หนิงรู้สึกไม่ดีคือแค่รู้สึกว่า อย่างที่หนิงพูดในรายการไปแล้วด้วยว่า ทำไมหลายๆคนต้องมามีน้ำตาทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง อย่างนกเองก็ต้องมาร้องไห้ อย่างจั่นเองเวลาสัมภาษณ์เขาอาจจะไม่ได้ร้องไห้ แต่ว่าเวลาเราคุยกันข้างหลังน้องก็จะมีน้ำตา ทำไมทุกคนต้องมาเจออยู่ในสภาวะแบบนี้ แล้วคนที่ทำให้เกิดเรื่องเขาหายไปไหน มันคือความรู้สึกจริง ณ ตรงนั้น”

หลังจากนั้นพอมีข่าวออกไปที่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นได้มีการโทรคุยหรือเคลียร์กันหรือยัง?
“ไม่ได้โทร.ค่ะ เพราะจริงๆโดยส่วนตัวหนิงไม่ได้มีเบอร์หรือคอนแทคน้องเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเวลาเจอก็จะเจอกันที่ช่องบ้าง หรือตามงานบ้าง แต่หนิงก็เชื่อว่าด้วยอะไรหลายๆอย่าง เวลามันจะเป็นสิ่งที่ทำให้น้องเข้าใจเอง วันนี้เองสมมติว่าคนนึงกำลังร้อนอยู่ แล้วในมุมที่เราคิด ถ้าเราไปพูดหรือไปอะไร ถ้าเขาไม่ได้คิดแบบที่เราคิดมันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องเคลียร์ แต่หนิงเชื่อว่าเวลามันจะทำให้เขาเข้าใจอะไรหลายๆอย่างเองค่ะ”

ข่าวนี้เราเครียดไหม?
“ก็เครียดนะ เพราะว่ามันเป็นการทำงานในครั้งแรกในชีวิต ที่ทำงานแล้วทำให้แขกรับเชิญต้องเสียน้ำตา เราก็รู้สึกอึดอัด ยังพูดกับทางทีมงานเลยว่ารู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี ไม่ดีมากๆ ก็รู้สึกแย่เหมือนกันค่ะ”

อย่างคอมเมนต์ในโซเชียลเองก็ค่อนข้างต่อว่าเราพอสมควรได้อ่านไหม?
“ไมได้อ่านค่ะ หนิงเป็นคนไม่ได้อ่านพวกคอมเมนต์อะไรแบบนี้อยู่แล้ว”

จะกระทบไหมกับสิ่งที่ออกมา คนมองว่าหนิงยิงคำถามรัวจนนกยังไม่ทันได้ตอบคำถาม?
“คือในเรื่องของการถามคำถาม เวลาที่เราทำรายการสด แล้วอยู่หน้ากล้อง เวลาเราถามคำถามไปแล้ว แล้วเกิดสมมติว่ามันไม่ได้รับคำตอบเนี่ย ทางทีมก็จะมีคนยกคำถามใหม่ขึ้นมา เราก็จะต้องถาม เพื่อกระชับเวลาด้วย ถ้าเราทิ้งเวลา มันก็เดดแอร์ จริงๆทำรายการสดมีความยาก บางคนไม่เข้าใจว่าทำไมคำถามนี้ยังไม่จบ เราไปถามอีกคำถามนึง แต่เขาก็ไม่เข้าใจหรอกว่าในมุมของการทำงานเนี่ย บางทีทางโปรดิวเซอร์เองหรือทางครีเอทีฟเอง เขาต้องการให้ตัดคำถามนี้แล้วเพื่อขึ้นคำถามใหม่ เราก็ต้องควบคุมทั้งหมด ณ ตรงนั้น ก็อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วย”

อย่างเรื่องนี้เองเราก็เป็นหนึ่งในตัวละครแล้ว กับเรื่องที่เกิดขึ้น “จั๊กจั่น” กับ “อาบี” มีอัพเดตอะไรกับ “จั๊กจั่น” บ้างไหม?
“จริงๆกับน้องเอง ด้วยสถานการณ์ที่มันคลี่คลายไปแล้ว ก็แค่โทร.คุยบ้างว่าน้องเป็นยังไง ถามคร่าวๆ น้องตอบว่าโอเคแล้ว และเล่าอะไรบ้างนิดหน่อย ที่น้องคิดว่าโอเคแล้ว เราก็จบ บางทีด้วยความเป็นพี่เป็นน้อง บางทีมันไม่ต้องทุกวัน น้องบอกโอเคก็คือโอเค เพราะหนิงเชื่อว่าน้องคงรับโทรศัพท์แล้วคุยกับคนหลายคนพอสมควร หนิงเชื่อว่าถ้าน้องไม่โอเค เดี๋ยวน้องก็โทร.มาเอง ถ้าไม่ได้โทร.มา ก็คือน้องโอเคแล้ว”

อย่างล่าสุดที่ “จั๊กจั่น” ออกมาโพสต์อีก ว่าถูกเอาชื่อไปแอบอ้าง อันนี้ได้อัพเดตกับน้องไหม?
“อันนี้ไม่ได้คุยค่ะ อย่างที่หนิงบอกว่าพอด้วยสถานการณ์อะไรหลายๆอย่างมันคลี่คลาย และได้คุยกันครั้งสุดท้าย น้องบอกว่าน้องโอเค ก็โอเค ก็ทิ้งท้ายกันว่าถ้าไม่โอเค ไม่ไหวก็โทรมานะ”

ตัวเราเองก็ทำงานได้ปกติ เจอได้กับทุกคน?
“ก็ทำงานได้ปกติค่ะ เอาจริงๆส่วนตัวหนิงเองไม่ได้มีเจตนาอะไรจะไปทำให้ใครเสียใจ คำถามทุกคำถามที่ถาม ถามตามหน้าที่ ตามสคริปต์ที่ต้องถาม แล้วพอมันเกิดปฏิกิริยาที่น้องเสียใจ หนิงเองก็แสดงความรับผิดชอบ ณ รายการสดตรงนั้น และพยายามอธิบายให้น้องเข้าใจว่าที่เราถาม เพราะว่าเราก็ถามแทนสคริปต์ด้วย แทนใจของคนที่เขายังเสพข่าวอยู่เท่านั้นเอง”

อาจจะไม่ได้เจอ ไมได้คุยกับน้อง ถ้าบอกอะไรได้อยากบอกอะไร?
“คือจริงๆส่วนหนึ่งหนิงก็พูดในรายการไปแล้วว่าให้เข้าใจที่เราต้องถามด้วย แล้วอีกส่วนนึงก็จะบอกว่า.. คือคนไลน์มาถามเยอะมากว่าโกรธไหม ก็จะบอกว่าไม่ได้โกรธ และเข้าใจน้อง ว่าทำไมน้องถึงรู้สึกแบบนั้น ส่วนนึงมันก็อาจจะว่าน้องก็มีสิทธิ์ที่จะอึดอัดว่าคำถามมันถูกถามตรง แต่ก็อยากให้น้องเข้าใจในมุมของเราด้วยว่า เราเองก็ทำตามหน้าที่ที่เราต้องทำ และก็ไม่ได้คิดอะไรว่าจะต้องเป็นอื่นเลย เจอกันหนิงว่า น้องก็จะเข้าใจว่าไม่ได้คิดว่าน้องจะมาเป็นคนที่เราไม่ชอบหรืออะไร เอาจริงๆหนิงก็สงสารในมุมที่น้องเป็นว่าทำไมน้องต้องเป็นแบบนี้ด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน