มีกระแสข่าวความรักระหองระแหงมาตลอดในช่วงนี้ สำหรับคู่รักลูกทุ่งสาวชื่อดัง ใบเตย-สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย อาร์สยาม กับ ดีเจแมน-พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ล่าสุดสาวใบเตยเพิ่งกลับมาจากบินไปเที่ยวพักผ่อนที่อเมริกา 3 อาทิตย์โดยไร้เงาแฟนหนุ่มร่วมทริปด้วย เลยโดนแซวว่าเป็นทริปพักใจของนักร้องสาว ทำให้คนสงสัยว่าทั้งคู่เลิกรากันจริงใช่ไหม มีโอกาสเจอสาวใบเตย เจ้าตัวเปิดใจหมดเปลือกกับ ข่าวสดบันเทิง ถึงสถานะความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มในตอนนี้

ความรักกับดีเจ.แมน ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“ความสัมพันธ์เอาตรงๆ เลยว่าตอนนี้ไม่พร้อมพูด ขอเวลา เป็นช่วงที่พักก่อน หายไปก่อนกับเรื่องตรงนี้ ส่วนเพราะอะไรขอเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็จะมาพูดทันที”

เรียกว่าช่วงนี้ทิ้งช่วง ทิ้งระยะห่าง เพื่อกลับไปทบทวนความสัมพันธ์ “ใช่ค่ะ”

ตัดสินใจนานมั้ย เพราะเราคบกันมานานแล้ว
“เอาจริงๆ ก็ตัดสินใจมาสักพักแล้ว และช่วงนี้ก็ต้องขอเวลาในการตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือว่าจบ”

ทริปที่ไปอเมริกามา 20 กว่าวัน ถือว่าเป็นทริปพักใจหรือว่าเป็นทริปที่เราต้องไปทบทวนความสัมพันธ์ “จริงๆ ไม่ได้พักใจเลย เราค่อนข้างพักผ่อนมากกว่า ในส่วนเรื่องของหัวใจ เราก็สตรองขึ้น เอาจริงๆ แล้ว เราก็ต้องกลับมาตัดสินใจกับตัวเองอีกที”

หลายคนคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ใบเตยต้องถอยออกมา มีระยะห่างกัน เป็นเพราะมือที่ 3 หรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะเรื่องที่เรางอนกันบ่อยๆ
“ไม่มีเรื่องมือที่ 3 ที่ 4 หรือว่าปัญหาอะไรที่ร้ายแรง แต่เป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องใช้เวลาเข้าใจกัน ใช้เวลาปรับ เวลาเปลี่ยน ถามว่าเขามีมาง้อมั้ย ก็มีค่ะ มีมาพูดคุยตลอด ในส่วนของผู้ชาย ผิดก็ต้องง้อก็เป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ครั้งนี้ใบเตยไม่ได้มองว่าเรื่องง้อหรือเรื่องอะไรสำคัญ แต่ใบเตยรู้สึกว่าเราควรพักกันก่อน แล้วค่อยกลับมา ถ้ามันดีก็ค่อยมารีสตาร์ตกันใหม่”

แสดงว่าเราก็ยังไม่ได้ปิดโอกาสเขาซะทีเดียว “ค่ะ”

กำหนดระยะเวลามั้ยว่าเราจะให้โอกาสกันและกันไปทบทวนความสัมพันธ์กันนานแค่ไหน
“เอาจริงๆ ไม่กำหนดหรอกค่ะ ของแบบนี้มันรู้กันแค่คนสองคนอยู่แล้ว ถ้าจะจบ ก็จบที่คนสองคน ถ้าดี เริ่มใหม่ก็เป็นเรื่องของอนาคต”

แต่คนก็ให้กำลังใจคู่เราเยอะมาก “ขอบคุณมากเลยค่ะ ปีนี้ก็คบกันมาปีที่ 5 แล้ว ซึ่งจริงๆ เรื่องของความรัก ทุกอย่างปัญหา อย่างที่บอกถ้าปีนี้ผ่านไปได้ก็คงจะแต่งแล้วล่ะ แต่ว่าถ้าผ่านไปไม่ได้ก็คือจบ แค่นั้นเอง เพราะเป็นปีพิสูจน์ ปีอุปสรรคจริงๆ”

แต่ปีนี้ก็เหลืออีกแค่สองเดือนเองนะ “(หัวเราะ) เราก็ต้องใช้เวลา”

คือคู่เราถ้าได้กลับไปทบทวนแล้ว และถ้าได้กลับมาก็คือได้แต่ง แต่ถ้ากลับมาไม่ได้ก็คือจบ คือมีแค่ 2 ช้อยส์ “ใช่ค่ะ”

ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับพี่แมนแล้วเนอะ
“จริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝั่งว่ายังคงรักกันมากแค่ไหน เขาบอกถ้ายังรักกันก็ต้องยังไหว แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องจบ ตอนนี้ก็ถอยห่างๆ

ฟันธงกับแฟนๆ หน่อย ว่าความสัมพันธ์กับพี่แมนยังคบกันอยู่หรือว่าเลิกกันแล้ว
“โอ้ย ยากจัง ใบเตยว่าเป็นช่วงถอยหลังแล้วกันค่ะ เป็นปีที่วัดใจ คนเราคบกันมานานก็เหมือนทุกคู่ที่จะมีปีที่พีคเกือบจะแตกหักแล้ว เราคบกันมาปีนี้ปีที่ 4 ย่างปีที่ 5 ด้วยความที่คบกันมานานเริ่มมีอะไรหลายอย่างที่เห็นชัดขึ้น เรื่องดีก็เห็นชัด เรื่องไม่ดีก็เห็นชัด ก็เป็นปีที่วัดว่าถ้าไปต่อได้ก็คงแต่งงานเลย แต่ถ้าไปต่อไม่ได้ก็คือเลิก

เราคุยกันแล้วว่าจะให้ระยะเวลากลับไปทบทวน
“ใช่ค่ะ เราก็ขอให้มีสเปชของชีวิต สำหรับใบเตยหยุดเพื่ออนาคตที่ดี เพื่อวันข้างหน้าที่เมื่อกลับมาคุยกันแล้วจะดีกว่าวันนี้”

ตอนนี้ใช้คำว่าเลิกกันได้หรือยัง
“ตอนนี้ใบเตยขอเวลาเพราะว่าการที่จะพูดคำนี้ออกไป เราก็ต้องให้ทั้งโอกาสเขาและให้โอกาสเราด้วยในการดูใจพอสมควรกับตรงนี้ ถ้ายังไม่มั่นใจก็ยังไม่อยากพูด คือเราบอกเลิกเขาไปแล้ว เขาก็ยังง้ออยู่ ใบเตยว่ามันก็คงห่าง พี่แมนไม่ยอมเลิก เขาขอโอกาสพิสูจน์อยู่”

เวลาที่ได้ไปเที่ยวอเมริกาช่วยได้มั้ย
“ไม่ได้ช่วยเลย (หัวเราะ) แต่ก็ช่วยให้มองเห็นหลายอย่าง ถามว่าช่วยตัดสินใจได้มั้ย ก็ยัง เพราะในความไกลกันมันยิ่งทำให้เราเห็นอะไรมากกว่าเดิมในเรื่องมุมของความดีแต่พอกลับมาที่เดิมเราก็ต้องมาดูแล้วว่าเมื่ออยู่ไกลดี พอกลับมาอยู่ใกล้ๆกันเหมือนเดิมได้อยู่ในที่ปัจจุบันที่เราอยู่มันจะโอเคหรือเปล่า เราก็ต้องชั่งใจพอสมควร”

ระหว่างที่อยู่อเมริกาได้ติดต่อกันมั้ย
“พี่แมนติดต่อมาตลอด แต่เราอยากนิ่งไว้ก่อนเพื่อได้ดูใจตัวเองจริงๆ ต้องใช้สมาธิพอสมควร ยิ่งมารีบๆมันไม่มีประโยชน์ ให้เราได้ถอยหลังออกมามองเห็นสิ่งดีๆของกันและกันว่าจริงๆแล้วยังรักกันหรือเปล่า ยังใช่มั้ย ยังเป็นห่วงยังอยากอยู่ใกล้มั้ย วันที่ไกลกันคนที่เราอยากให้อยู่ข้างๆที่สุดยังเป็นเขาหรือเปล่า”

ได้คำตอบนั้นหรือยัง
“ยังไม่มีค่ะ มันก็มีนิดนึงได้คิดแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ยังลังเลและสับสน ขอเวลาอีกสักพักหนึ่งให้แน่วแน่ก่อนและต้องถามทั้งเขาและเราก่อนด้วยว่าสบายใจกันยังไงที่สุด คือพี่แมนยังติดต่อมาหาเราตลอด ที่มี
ปัญหากันล่าสุดเราเป็นคนบอกเลิกเขาก่อนไปอเมริกาสองอาทิตย์ ขอยุติ ขอถอยหลังออกมา เขาก็เสียใจและมาง้อตามประสาผู้ชาย แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง้ออะไรหรอก เราก็ไม่ได้พูดว่าใครผิดใครถูก เรารู้สึกว่าถ้าเดินต่อไปแบบนี้แล้วมันแย่ก็อยากหยุดก่อน ถอยหลังออกมากลับมาคิดทบทวนดีกว่า”

หลังบอกเลิกเขาไป เขามาง้อมั้ย
“ก็มาง้อ ขอโอกาสอีกครั้ง ความจริงไม่ใช่เรื่องโกรธงอนอะไรกัน เราเป็นผู้ใหญ่กันแล้วเราต้องหาวิธีแก้ไขที่ไม่ใช่การง้อ แต่ว่าต้องให้โอกาสทั้งสองคนได้คิดให้มากๆ”

อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจบอกเลิกเขาไปแบบนั้น
“มันมีเรื่องค่ะ แต่ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว เราก็ตัดสินใจบอกแบบนั้นไป เราตัดสินใจไม่ยากเลย ก็พูดเลย เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร”

เป็นครั้งแรกเลยไหมที่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่มากเกินรับไหว
“ครั้งแรกนะที่เตยรู้สึกอย่างนี้แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่เรื่องมือที่สาม มันเป็นเรื่องของนิสัยที่เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างไม่ดี สำหรับการรับได้ของเรา เราเพิ่งเห็น และเป็นเรื่องที่ช็อคมาก คบกับมา 4 ปีไม่เคยแสดงออกมาให้เห็นมาก่อนเลย พอวันนี้มาเห็น เวลาทำให้เห็นทั้งธาตุแท้ที่ดีและไม่ดี
เราก็บอกว่าไม่โอเคกับมุมนั้นของเขา เขาก็ขอโทษเป็นเรื่องพลาดนิดนึง เป็นมุมดารก์ของเขาที่น่ากลัว และคิดว่าในอนาคตถ้าจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันกับคนนี้ได้หรือเปล่า”

เขาได้บอกกับเราว่าจะปรับปรุงตัวมั้ย
“บอกค่ะ บอกทุกอย่าง ก็ต้องให้เวลาไปคิดมีเวลาทำโทษ ไม่ใช่แค่จะมาง้อแล้วจะกลับไป ตอนนี้ก็เดือนหนึ่งแล้วที่ห่างกัน พี่แมนเขาก็บอกว่าไม่ขอพูดอะไรมาก แต่ก็จะทำให้ได้พิสูจน์ตัวเอง เรารู้สึกว่าถ้าในเมื่อมันเป็นนิสัยที่ติดตัวมาต่อให้วันนี้พิสูจน์แล้วถ้าต่อไปมันเกิดขึ้นอีกก็ไม่มีใครมารับประกันเรื่องอนาคตว่าคุณจะเป็นแบบนี้อีกหรือเปล่า จะยังทำแบบนี้กับฉันอีกมั้ย ไม่มีใครมาให้ความแน่นอนได้ ใบเตยจะซีเรียสตรงนี้พอสมควร”

ให้โอกาสตัวเองในการเปิดใจกับคนอื่น
“ก็ไม่ได้ปิด เรารู้สึกว่าถ้าเลิกกันจริงๆไปก็ขออยู่คนเดียว ไม่อยากรีบเร่งกับการมีแฟนใหม่ ก็คงอยากทำงานเยอะๆ ช่วงนี้รักการทำงาน การไปอเมริกาครั้งนี้ทำให้เราเห็นคุณค่าของการทำงาน ชีวิตเราคือนักร้องและนักแสดง อยู่ที่โน่นไปเที่ยวช้อปปิ้งก็ไม่มีความสุขเท่ากับการทำงาน เราเลยรู้ว่าคำตอบของชีวิตคือเรารักการทำงานมากที่สุด”

ไม่มีเขาเราก็อยู่ได้
“อยู่ได้ค่ะ ช่วงแรกๆอาจจะไม่สบายนัก สำหรับใบเตยเราเอนจอยยัวร์เซลฟ์อยู่แล้ว เป็นคนติดเพื่อนมากกว่าติดแฟนอยู่แล้ว”

โอกาสจะเป็นไปในทิศทางไหน
“ถ้าเป็นคนอื่นไม่ใช่พี่แมนเราคงไม่คุยด้วยแล้ว เลิกก็คือเลิก ตัดเป็นตัด ไม่เคยคุยเป็นพี่เป็นน้องกับแฟนเก่าสักคน แต่ว่ากรณีพี่แมน เรารู้สึกว่าถ้าเลิกกันไปแล้วเราก็เลิกกันด้วยดีอย่างเข้าใจ และยังมีมิตรภาพที่ดีเพราะทั้งพี่แมนและครอบครัวพี่แมนก็เป็นคนดีสำหรับเราเสมอ ก็ไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ถ้าต่อไปมันดีก็คงหนีกันไม่พ้นอยู่แล้ว ถ้าคู่กันก็คงคู่กันไม่แคล้วกันหรอกค่ะ ณ วันนี้ขอถอยออกมาก้าวหนึ่ง ก้าวหลังนะไม่ก้าวหน้า(หัวเราะ)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน