อั้ม อธิชาติ เผยธาตุแท้ แอน ทองประสม แซวประสาเพื่อนสนิท ห่อหมกขาดตลาด ทำคนโฟกัสผิดจุด พับแผนมีลูก พยายามหลายรอบไม่ติด เห็นใจนัท มีเรีย ภรรยา

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 24 มี.ค. 2564 อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ นักแสดงหนุ่ม ในฐานะผู้ก่อตั้ง และกรรมการบริษัทฝ่ายการตลาด บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด เปิดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนา “ผลิตภัณฑ์กัญชา และกัญชง ตามมาตรฐานสากลในระดับ Medical Grade” ให้สัมภาษณ์ถึงธุรกิจ พาว เฮม สเปรย์ เป็นสเปรย์ฉีดปาก ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกัญชา-กัญชง ที่ห้องปทุมมา โรงแรมสยาม เคมปีนสกี้

พร้อมเผยถึงเรื่องที่ แอน ทองประสม แซวขณะเล่นเซิร์ฟสเก็ตกับภรรยาสาว นัท มีเรีย ทำเอาหลายคนโฟกัสผิดจุด ถึงกับแซวว่าห่อหมกขาดตลาด และยังเผยเรื่องที่ตัดสินใจพับโปรเจ็กต์มีลูก ผิดหวังหลายครั้งจากการพึ่งวิธีวิทยาศาสตร์ บวกกับอายุที่มากขึ้น

 

แนวทางของการเกิดผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกัญชา-กัญชง? “คือตอนนี้ตลาดของกัญชงและกัญชามันถูกเปิดกว้างอย่างเสรี แต่ภายใต้ความเสรีนี้สิ่งที่ต้องตามมานั่นคือ การให้ความรู้ใหม่สำหรับคนไทยว่าในระดับไหนที่สามารถทานได้และสามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้บ้าง รวมถึงมาตรฐานของการปลูก แน่นอนว่าหากใครมีความรู้เบื้องต้นก็สามารถที่จะปลูกได้ แต่จะปลูกอย่างไรให้มีความปลอดภัย และมาตรฐานในการกลั่น การสกัดกัญชงและกัญชาด้วย”

คิดนานไหม กับการเอา 2 อย่างนี้มาทำเป็นผลิตภัณฑ์? “จริงๆ ไม่ได้ตัดสินใจนานเลย เพราะเชื่อว่าพืชทุกตัวมีข้อดี มีคุณค่าอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องศึกษาว่าอะไรที่มากไปแล้วจะส่งผลไม่ดี และจะเอาส่วนที่ดีที่สุดออกมาใช้อย่างไร ถ้าเปรียบการปลดล็อคกัญชงและกัญชาก็ไม่ต่างอะไรกับม้าที่วิ่งแข่งกันเยอะๆ วันนี้จึงอยากทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นม้าที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่ทำมาเพื่อแข่งตามแฟชั่น เพราะฉะนั้นกับการทำ MOU วันนี้ถือว่าเป็นโชคดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัทที่มีมาตรฐานระดับสูง”

อยากเปลี่ยนความคิดคนกับการบริโภคกัญชงและกัญชาไหม? “เขามีส่วนที่ดีก็มี ส่วนที่ต้องระวังก็มี เพราะฉะนั้นคนเราควรที่จะศึกษาข้อมูล ไม่ต่างอะไรกับการทานอาหารบางอย่างที่เป็นเวลานานเมื่อมันเกิดการสะสมมันก็ไม่ได้ดีเสมอไป แค่ต้องรู้ว่าทานแค่ไหนถึงจะเป็นประโยชน์ ดังนั้นสิ่งที่เราทำในวันนี้มันอยู่ภายใต้การยอมรับ การไว้วางใจของผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน”

ก่อนที่จะมีการนำออกมาขายในการทดลองด้วยตัวเองไหม? “ผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง ผมจะใช้ตัวเองทดลองก่อนเป็นอย่างแรก และเป็นการทดลองทานในระดับที่มากกว่าคนทั่วไปด้วย เพื่อให้รู้ว่าต้องทานขนาดไหน แล้วเมื่อทานเป็นประจำแล้วจะรู้สึกอย่างไร รวมถึงคนรอบข้างก็ไม่ควรเป็นแล็บทดสอบที่ 2”

ตัวแรกที่จะปล่อยขายคืออะไร เมื่อไหร่? “ตัวแรกก็จะเป็น พาว เฮม สเปรย์ เป็นสเปรย์ฉีดปากที่จะช่วยลดอาการไอ ระคายเคือง อักเสบ สามารถใช้ได้ง่าย คือใช้ภายนอก มีส่วนผสมของเฮมและใบพูคาว ลดการอักเสบ สดชื่น และตัวที่ 2 ก็จะเป็นสเปรย์พ่นหมอนที่จะทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้นเปรียบเสมือนอาโรม่า จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมนี้”

เป้าหมายวางไว้ถึงขนาดไหน? “ผมตั้งใจเลย เพราะว่าสมุนไพรไทยเรามีความเชื่อมานาน ณ วันนี้จะยกระดับสมุนไพรไทยไปสู่ตลาดโลก เพราะฉะนั้นมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ บวกกับส่วนตัวแล้วไม่อยากเห็นต่างชาติเอาสมุนไพรไทยของเราไปทำการวิจัยและจดสิทธิบัตรว่าเป็นของเขา”

“นอกจากเรื่องของธุรกิจแล้ว จากการลงพื้นที่ของประชาชนที่เพาะปลูกก็เห็นได้เลยว่านี่คือเศรษฐกิจใหม่ ที่สามารถสร้างอาชีพให้เขาได้ เห็นถึงความภาคภูมิใจในทรัพยากรของไทยเมื่อมีคนเห็นค่า แตกต่างจากเมื่อก่อนที่จะต้องไปซื้อวัตถุดิบจากภายนอกแล้วนำเข้ามาผลิตในไทย และเท่าที่ผมทราบมาคือ ตอนนี้ต่างชาติพยายามที่จะเอากัญชาสายพันธุ์ไทยไปพัฒนา เพราะสายพันธุ์ของต่างชาติเขาได้มีการพัฒนาจนสุดทางแล้วหรือเรียกยังไงว่ากัญชาสายพันธุ์ไทยเป็นนางงามที่ยังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสดและใหม่”

เราเป็นพระเอกแล้วมาทำธุรกิจแบบนี้กลัวคนจะมองภาพลักษณ์อีกด้านไหม? “ไม่ครับ อย่างที่บอกว่าเราต้องให้ความรู้กับคน วันนี้มีคนจะทำกัญชาอยู่เยอะ แน่นอนว่ามันเป็นข้อดีของผู้บริโภคพยายามให้ข้อมูลให้ความรู้ทุกคน วันนี้จะมีคนทำกัญชาเยอะอยู่หลายที่ ซึ่งมันก็เป็นข้อดีของผู้บริโภค เมื่อมีออกมาเยอะๆ สิ่งที่ตัดสินคือ มาตรฐาน คุณภาพระดับสูง อย่างที่บอกว่าวันนี้ทำไมผมต้องเลือกคำว่า Medical Grade เพราะเราคัดมาแล้ว เรากรองข้อมูลมาแล้ว ฉะนั้นผู้บริโภคที่ไม่ทราบ สามารถศึกษาได้เลย”

คนโฟกัสไม่ถูกออกกำลังกายบ้าง ทะเลบ้าง เซิร์ฟสเก็ตบ้าง? “ช่วงนี้เราไม่ได้ทำลูกเลยนะ หมายถึงว่าเราก็พยายามหากิจกรรมใหม่ๆ เริ่มจากเซิร์ฟสเก็ต เด็กๆ เห็นเขาเล่นกัน หลานๆ ผมเนี่ยก็เลยมองว่าเขาเล่นกัน เราก็พาเด็กๆ ไปเล่น พอไปเล่นเสร็จปุ๊บก็กลายเป็นว่าเราเล่นได้ เราก็มีกิจกรรมทำกับหลานๆ นัทเขาไม่ได้อยากเล่น ตอนที่จะให้เล่นคือทั้งขู่ทั้งเข็ญ หลอกล่อ เขาก็บอกว่าไม่เอานะรอบเดียวพอ เดี๋ยวล้ม เดี๋ยวเจ็บ กลายเป็นว่าพอเล่นได้ ออฟชั่นเต็ม ชุดมา เขาก็เลยเริ่มสนุกกับการทำกิจกรรมใหม่ๆ ทางด้านกีฬา”

แอนเข้ามาแซวห่อหมกขาดตลาด ได้เห็นไหม? “อ๋อ (ยิ้ม) คือต้องถามว่าดูอะไรก่อนดีกว่า จริงๆ (ยิ้ม)มันก็เป็นกางเกงออกกำลังกาย ใส่ในยิมก็เลยไม่ได้เป็นประเด็นเท่าไหร่ ด้วยความที่มันอาจจะมูฟเมนต์เยอะหรือเปล่า ก็อยากให้โฟกัสที่สเก็ตบอร์ดครับ และการสอน”

แอนก็ไปโฟกัสที่นั้นเหมือนกันนะ? “พี่แอนก็เป็นคนแบบนั้นแหละครับ(ยิ้ม) จริงๆ เราจะได้เห็นธาตุแท้ของแอนทองประสมจากคอมเมนต์ต่างๆ”

ดราม่าใหญ่เลย? “จริงๆบางอย่างมันก็มีการล้อเล่นในระดับเพื่อน อย่างที่บอกถามว่ามันจะมีการ บูลลี่กัน คำว่าบูลลี่มันก็ต้องมองที่กาลเทศะ และความเหมาะสมต่างๆ แต่บางทีเพื่อนกันเราก็คุยเล่นกันได้ ต้องดูที่ผู้พูดรู้สึกยังไงบ้าง”

ตัวเราเองไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นใช่ไหม? “ก็ไม่ได้คิดอะไร ถามผมมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ชุดออกกำลังกายสมัยนี้ มันก็มีบ้าง แต่เราก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เห็น ต่อๆ ไปก็พยายามที่หลีกเลี่ยงก่อนครับ แต่ก็ยังมีเปิดตลาดอยู่บ้าง ตอนนี้ไม่ได้ใส่แล้วครับ ก็มีลูกค้ามาถามซื้อบ้างครับ (ลูกค้าซื้ออะไร) ว่าตลาดเปิดหรือเปล่าครับ”

แสดงว่าห่อหมกก็คือหมดตลาดจริงๆ? “ไม่หมดครับ ยังมีขายอยู่ครับ”

เดี๋ยวนี้พอทำอะไรคนก็เลยจะโฟกัสตรงนั้นตลอด? “ก็อาจจะนิดนึง บางคนก็อาจจะซีเรียสได้ แต่บางทีบางอย่างมันเป็นเรื่องแต่ละความคิดคนมากกว่า ถ้าเรามองว่าเราไม่รู้สึก เราก็ไม่เป็นไรครับ เพราะบางอย่างเราก็พูดเล่นกันได้ในระดับเพื่อน จริงๆ มันมีมานานละนะ ตั้งแต่ตอนถ่ายละครเรื่องเพลิงนาคา คอมเมนต์ก็จะกระหน่ำ อย่างที่บอกว่าบางทีเราก็ต้องเข้าใจเรื่องยุคสมัย ว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็จะเปลี่ยนไป คนเราก็มีความคิดที่เปลี่ยนไปได้ อย่างเมื่อก่อนสายวายเรายังไม่มีเลย แต่วันนี้สายวายเป็นที่ยอมรับของคน เพราะฉะนั้นมันก็คือความเหมาะสมในแต่ละยุค แต่ละสมัยดีกว่าครับ”

ตัวพี่นัทเองเขาเขินไหม เวลาโดนแซวแบบนี้? “ต้องไปถามเขาครับ (เขามีท่าทีไหม) ไม่มีจริงๆ คือเพื่อนเขาก็แซวเราหนักกว่านี้อีกครับ เพราะเพื่อนเขาก็สนิทกันเป็น 20-30 ปี”

พี่อั้มเลือกทำความเข้าใจกับสิ่งที่มันเปลี่ยนไปมากกว่า? “ถ้าถามผมนะ ตัวผมจริงๆ เราเคยเจอเรื่องในวงการมานานครับ มันก็มีทั้งเรื่องซีเรียสจริงจัง แล้วก็มีเรื่องรักก็มี เราไม่ได้รู้สึกอะไร ก็เข้าใจบริบทของแต่ละเวลา”

ก่อนหน้านี้บอกว่าจะพักมีลูก ปิดโปรเจ็กต์ไม่ทำแล้ว? “ก็ปิดนะครับ ไม่มีลูกแล้ว โอเค ตั้งเป้าไว้แล้วครับ เพราะตอนนี้เราก็มีหลานเยอะ หลานก็เริ่มโตกันมาละ เราก็มองว่าการมีลูกมันเลยช่วงเวลาที่เราอยากจะมี เพราะมีลูกก็ต้องเลี้ยง 24 ชั่วโมง ตอนนี้เราก็เลี้ยงแบบฟรีแลนซ์เอา ชอบก็เลี้ยง เริ่มงอแงก็ส่งให้คุณแม่คุณพ่อเขาไป”

 

พับโปรเจ็กต์เพราะว่าท้อ? “มันก็ไม่ได้ท้อหรอกครับ เราก็พยายามเต็มที่แล้ว พยายามแล้วมีแล้วแต่ด้วยเรื่องของทางวิทยาศาสตร์ต้องบอกว่ามันก็ต้องขึ้นกับผู้หญิงด้วย บางครั้งผู้หญิงก็ต้องไปเข้าตามขั้นตอน มีทั้งความคาดหวังทีแรก จนไม่ได้ตามหวัง ให้เขาต้องเริ่มต้นใหม่ๆ มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพกาย แล้วก็สุขภาพจิตครับ”

คุยกันเข้าใจ? “เข้าใจกันครับ ก็มีหลานเด็กๆ เยอะแยะไปหมด ถือว่าเราก็ได้ให้ความรักกับเด็กๆได้หลายๆ คนครับ”

เราห่วงสุขภาพ และจิตใจของคนรัก? “ใช่ครับ เพราะการมีลูกมันต้องอยู่ที่ความพร้อมของทั้งสองคนเนอะ”

หมอบอกว่าไม่ได้จริงๆ หรือโอกาสมันน้อย? “จริงๆ อย่างที่คุณนัทเคยบอกว่ามันเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง วันที่คุณนัทฟังผลครั้งสุดท้ายตอนเช้าไปฟังว่าไม่ติด ตอนเย็นกลับมาคุณแม่เสีย มันก็เป็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง สุดท้ายชีวิตมันอยู่แค่นี้เอง ซึ่งคุณแม่ก็รักษาโรงพยาบาลมา 10 กว่าปี ทั้งเกิดและเสียชีวิต อยู่ในวันเดียวกัน จะได้หรือสูญเสียมันอยู่แค่นั้นเอง ก็เลยมองว่าเราก็มีชีวิต มีความสุข ในแบบนี้ได้ให้ความรักด้วยการดูแลคนอื่นก็ได้ ถ้าเกิดเรามีลูกเราก็อาจจะต้องให้ความรักกับคนคนเดียวครับ”

ถ้าวันหนึ่งติดขึ้นมาล่ะ? “ติดก็ต้องเลี้ยงครับ ติดก็แฮปปี้แหละครับ”

ก่อนที่จะยุติแผนมีดราม่า? “ไม่มีครับ คุยกันด้วยความเข้าใจ เพราะว่าเราก็เห็นและเดินทางตามความรู้สึกมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มทำอะไรต่างๆ จนเข้าใจมากกว่า”

อายุก็มีส่วน? “อายุก็มีส่วนครับ ถ้าผู้หญิงอายุเยอะๆ มีลูก สุขภาพก็อาจจะลดน้อยถอยลง สองการที่ต้องเลี้ยงลูก 24 ชั่วโมงตอนที่มีอายุมากขึ้นอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบากนิดนึงครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน