ภรรยา โจ บอยสเก๊าท์ เปิดใจนาทีที่รู้ว่ามีลูกกับนักร้องดัง ตั้งแต่ครั้งยังเป็นนศ.สาวว่า โจทำงานอยู่ที่กะซู่ ตอนนั้นเขาเป็นเด็กเสิร์ฟ เป็นบาร์เทนเดอร์ รู้สึกเจ้าของร้านจะเอ็นดูเลยให้ทำงาน ร้านอยู่ที่กรุงเทพฯ ตรงข้ามพาเลซ พี่ก็เป็นนักศึกษาก็ไปเที่ยวกันตามประสาวัยรุ่น ก็ไปเจอแล้วไปเที่ยวทุกวันๆ จนสนิทสนมกัน ก็เหมือนพี่น้องกันมากกว่า พอเรากลับเขาก็กลับไปเที่ยวต่อด้วย แล้วก็บางทีไปนอนด้วย เพราะตอนนั้นเราเป็นนักศึกษาอยู่ที่ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ก็จะเช่าอยู่กันหลายๆ ห้อง เหมือนเพื่อนนะคะ มันไม่ใช่ความรักกันหวานแหวว จะถามว่าจีบมันก็ไม่ได้จีบ มันไปกันตามสเต็ป ตอนนั้นโจอายุน้อยกว่า 7 ปีค่ะ ตอนที่มีไอซ์พี่ก็จำไม่ได้นะ แต่พอรู้ว่าท้องก็ตัดสินใจอยู่ว่าจะทำยังไง แต่เอาจริงๆ เพื่อนพี่ก็ซื้อยาให้กิน กินแล้วก็อ้วกออกมา เลยตัดสินใจกลับบ้าน แต่ตอนนั้นจำไม่ได้ว่า บอกโจรึยัง แต่จำได้ว่าไม่ได้บอกพ่อกับแม่ จนตัดสินใจที่จะเอาน้องไอซ์ไว้ ก็ไปหาหมอ น่าจะประมาณเดือนที่ 5-6 ก็โทร.บอกโจ เพราะพี่ตัวเล็กด้วย จนพี่จะคลอดแล้วพ่อกับแม่ยังไม่รู้เลย แล้วจากนั้นเราก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลย”

ก็ต้องเลือกว่าจะเอาอยู่หรือเอาออก? น้ำ บอกว่า “คือในตอนนั้นมันเป็นประสบการณ์ของเรา และสังคมในสมัยนั้นด้วย เป็นสังคมของคนต่างจังหวัดที่ส่งลูกมาเรียน พูดตรงๆ คือลูกก็ท้องไม่มีพ่อ พ่อแม่จะรับได้มั้ย คนรอบข้างจะรับได้มั้ย ตอนที่พี่ท้องพี่ก็โทร.บอกโจนะ และตอนนั้นพ่อแม่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไป ขนาดอยู่ในบ้านด้วยกันนะว่าพี่ท้อง ซึ่งพ่อเขารู้เขาก็เงียบ ตอนนั้นเขา 16 ก็ห่างกับพี่ประมาณ 7 ปี แต่พี่ไม่ได้อะไรคือพี่ก็บอกเขา คือพี่ก็รู้ว่าเค้าจะเข้าวงการแต่ยังไม่ได้ออกอัลบั้ม กำลังอยู่ในช่วงฝึกเป็นนักร้อง แต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา คือพี่ก็บอกว่า ไม่ต้องสนใจ ก็คือว่าพี่บอกให้รู้ว่าพี่มีน้องนะ แล้วโจก็ทำหน้าที่ของโจไป และเราก็ขาดการติดต่อกันไป ต่างคนต่างอยู่ ในช่วงที่พี่คลอดลูก พี่ก็จะโทรไปบอก แต่พี่จำไม่ได้ว่าโทรไปทางไหน อาจจะทางเพื่อนโจ หรือว่าอาร์เอสนี่แหละ ก็บอกว่าพี่คลอด ก็ไม่ได้คาดคั้นว่าเค้าจะรับผิดชอบอะไร ก็แค่เรามีลูกนะ ถ้าคุณสะดวกหรือว่างก็มาหาหน่อย”

มีอะไรมายืนยันว่า ผู้ชายคนนี้ เด็กคนนี้คือลูกของพี่โจจริงๆ? น้ำ บอกว่า “พี่จะยืนยันกับใครละคะ เพราะคนอื่นไม่ได้มีผลกับพี่กับลูก พ่อเขาคนเดียว เมื่อพ่อเขายอมรับ ก็ไม่มีผลกับคนอื่นว่าลูกพี่จะใช่หรือไม่ใช่ พี่ก็เลยไม่เคยดิ้นรนว่าต้องตรวจดีเอ็นเอ แต่พี่บอกเลยว่า ลูกพี่เป็นการพิสูจน์ดีเอ็นเอที่ประหยัดมาก ตั้งแต่เส้นผม ยันท่านอน เขาเหมือนพ่อเขามาก ตั้งแต่เล็กๆ เส้นผมตอนเด็กเขาก็สีทองเหมือนพ่อเขา ท่านอนก็ยังเหมือน เพราะพี่เคยเห็นไอซ์กับโจสองคนที่นอนแบบนี้ แล้วพี่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่จะต้องพิสูจน์อะไร”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน