เนย โชติกา เผยเคล็ดลับแม่ลูกสองหุ่นเป๊ะปัง สามีรักหลงเปย์หนัก เปิดชีวิตครอบครัวสุดแฮปปี้ ราบรื่นไร้อุปสรรค ไม่เคยทะเลาะกัน มีลูกๆ น่ารัก
เป็นคุณแม่ที่หุ่นเป๊ะปังมาก จนไม่น่าเชื่อว่าคือหุ่นของแม่ลูกสอง สำหรับ เนย โชติกา วงศ์วิลาศ ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดใจหลังหายจากหน้าจอไม่ได้รับละคร เพราะเป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกถ้ามีครอบครัวแล้วจะทุ่มเทเวลาให้ทั้งหมด แต่ยังไม่คิดทิ้งวงการ กำลังลุยธุรกิจที่กำลังรุ่งไปได้สวย พร้อมเผยชีวิตคู่ ราบรื่นไม่มีอุปสรรค ตั้งแต่แต่งงานมามีแต่รอยยิ้มความสุข
พักงานในวงการไปกี่ปี? “พักไปตั้งแต่แต่งงานเลยค่ะ ประมาณ 4 ปี เราก็แพลนไว้แล้วก่อนแต่งงาน เราก็รับละครให้สุดๆ ไปเลย แล้วพอเราแต่งงานจะได้มีเวลาให้กับครอบครัวให้กับลูก เป็นความคิดของเราเอง คือเราทำงานเล่นละครมา 10 กว่าปี แล้วทำงาน 7 วันเลย เพราะเราเป็นคนบ้างานรับงานเยอะมาก เราเลยตั้งใจว่าถ้าแต่งงานมีครอบครัวก็จะทำธุรกิจของเราเองก็คุยกับสามีไว้แบบนั้น ซึ่งพอมาถึงจุดที่เรามีครอบครัว เราก็ได้ทำตามอย่างที่ตั้งใจที่จะทำจริงๆ”
ในอีกมุมหนึ่งแอบคิดหรือกลัวไหม ถ้าหายจากหน้าจอไปแล้วจะกลับมาไม่ได้? “ก็เคยคิดนะคะว่าถ้าเราหายไปแล้วกลับมาเขาจะให้เราเป็นแม่เลยไหมที่คิดนะ เราเลยพยายามทำให้ตัวเองไม่พัง ถึงเราจะมีสามีมีลูกแล้ว”
ไม่มีอะไรที่หุ่นใกล้เคียงกับคำว่าพังเลยมีแต่ปัง ใส่ชุดว่ายน้ำหุ่นปังมาก แต่ชีวิตที่หายไปไม่ใช่ชีวิตสบายอย่างเดียว ต้องเรียกว่าเป็น working woman อีกคนเลยก็ว่าได้? “เป็นคนที่ทำงานเยอะมาก เพราะเป็นคนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ถ้าอยู่บ้านเราก็จะอยู่กับลูกเลี้ยงลูก แล้วถ้าออกจากบ้านเราก็จะทำงานๆ เพราะว่าเนยดูเองทุกขั้นตอนเลย ซึ่งเรากับสามีก็ต่างคนต่างมีธุรกิจ เราก็จะแบ่งกันว่าถ้าวันไหนที่เราไปออฟฟิศเขาก็จะต้องอยู่บ้านกับลูก ต้องแตะมือกันค่ะเพราะเนยกับสามีไม่ยอมทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยงคนอื่นถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วย คุณย่ายังพอได้ แต่สามีเราคือไม่ไว้วางใจซะทีเดียว (ประมาณว่าขอให้อยู่ในสายตาเขานิดนึงก็ยังดี) ต่อให้เขานั่งทำงานหรืออะไรขอให้เขาได้เห็นลูก ลูกได้เห็นเขาแค่นี้ค่ะ เขาเพิ่งหายเป็นแบบนี้ตอนที่ลูกอายุ 3 ขวบ เพราะเขาเกรงใจด้วยที่จะให้ใครมาเลี้ยงลูกแทนเขา และเพราะเหตุผลนี้เลยทำให้ลูกติดเขามาก”
สามีเป็นถึงขั้นยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยหรือเปล่า? “ไม่ๆ ค่ะ เขาปล่อยตามสบายทำอะไรได้ทุกอย่างแต่เขาแค่ให้ฉันเห็น ซึ่งตอนนี้ก็ติดลูกน้อยลงแล้วค่ะ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ลูกติดสามีทำให้ลูกต้องกอดแขนของพ่อเขาตลอด เพราะฉะนั้นเนยเลยเป็นคนที่เอาลูกเข้านอนไม่ได้ต้องเป็นสามีของเราที่เอาเข้านอนตลอดเขาต้องแกะแขนพ่อของเขา”
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องถาม จริงๆ แล้วสามีติดลูก หรือภรรยา เพราะไม่ยอมออกจากบ้านเลย เพื่อนนัดไปไหนก็ไม่ไปจะอยู่บ้านอย่างเดียว? “เพราะว่าอคิณเขาไม่ยอมให้ใครพาเขาเข้านอนเลยจนเขาอายุ 3 ขวบ พ่อของเขาถึงจะสามารถนัดเพื่อนมาชิลที่บ้านได้อะไรแบบนี้ เพราะลูกติดเขา แล้วเขาก็เป็นคนที่ไม่ค่อยออกไปไหนอยู่แล้ว เขาก็ติดลูกด้วย แล้วเนยกับเขาก็คือไลฟ์สไตล์เดียวกัน คือชอบอยู่บ้านกับลูก ชอบทำกิจกรรมร่วมกัน”
เป็นเพราะว่าบ้านน่าอยู่ด้วยใหญ่โตสวยงามอย่างกับอยู่สโมสร และที่สำคัญไม่ได้สร้างบ้านไว้ให้อยู่อย่างเดียวนะ สามีเป็นสายเปย์ด้วย เดี๋ยวก็ซื้อแหวนให้ เดี๋ยวก็ซื้อโน้นนี่ให้? “แหวนพวกนี้คือ เนยเป็นคนสั่งมาเองแล้วก็ให้เขามาสั่งในวันวาเลนไทน์พอดี แล้วสามีก็อยู่บ้านพอดีแล้วก็ครบรอบ 12 ปีของเราพอดี เราก็เลยบอกเขาว่ายังไม่มีของขวัญให้เราใช่ไหมเอาเซ็ตนี้ไปเลยไหม เขาก็เลยโอนเงินเข้าบัญชีให้เรา”
ทำยังไง 12 ปี ก็ยังหวานเหมือนแรกๆ? “เพราะเราสองคนเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายยังคงดูแลเอาใจใส่กัน แต่เราก็ไม่ได้สวีตแบบเวอร์มาก แล้วอีกอย่างคือเราไม่เคยทะเลาะกันเลย เพราะว่าเรื่องทะเลาะกันเป็นเรื่องที่เราจะโวยวายไปเอง เราหาเรื่อง แต่เขาจะไม่ทะเลาะกับเราเลย อย่างเราเถียงเขาบทร้ายมาปุ๊บ เขาจะบอกว่าไม่น่ารักแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน แล้วหันหลังไปเลย เราก็เลยรู้สึกว่าจะทะเลาะกับเขาไปเพื่ออะไร เขาไม่เคยมีคำหยาบกับหนูเลยสักคำ หรือเขาอาจจะพูดไม่ทันเรา (หัวเราะ)”
แล้วเขาเคยโกรธอะไรเราไหม? “ถ้าเรื่องการที่เขาจะคุยแล้วแอ๊กติ้งเยอะก็จะเป็นในเรื่องของลูกมันทำให้เขาคุยเยอะ ทำให้เขาพูดเยอะแสดงความคิดเห็นเยอะ แต่เรื่องทะเลาะกันไม่มีจริงๆ ค่ะ เพราะเขาเป็นคนที่ใจเย็นมากๆ”
ได้ยินมาว่า เนย กลัวพี่เอมาก แล้ววันที่เราต้องคุยกับพี่เอ เขามีแผลงฤทธิ์ไหม? “กลัวจริง กลัวนาง วันที่คุยก็มีแผลงฤทธิ์ตามสไตล์ค่ะ แต่จริงๆ ลึกๆ แล้วนางเป็นคนใจดี แต่เสียงเขาจะมาก่อนเราเลยกลัวเขา เพราะตอนแรกที่เนยคบกับแฟน คือต้องหลบเพราะว่าตอนนั้นพี่เอเขาดูแลเรา เขารับเรามาจากแม่เราแล้วมาอยู่บ้านเขา การที่เราจะมีผู้ชายเข้ามาจีบ เขาก็ต้องรู้ว่าคนนั้นเป็นใคร เป็นคนยังไง เขาก็ยังไม่อยากให้เรามีแฟนด้วย แต่สามีเขาเป็นคนที่อดทนมาก รอเราครึ่งวันก็รอ แล้วจังหวะที่พี่เอจับได้ เพราะซอยบ้านพี่เอเข้าไปแล้วเป็นทางตัน คือรถที่เขามาส่งเราถอยออกไปไม่ได้เลยถูกจับได้ เขาก็บอกเราว่าไหนเป็นใครเอามาให้รู้จักหน่อยสิเป็นใครยังไงทำงานอะไรพ่อแม่เป็นยังไง เพราะว่าเขาก็ห่วงเรากลัวเราเจอคนไม่ดี”
ถามถึงกิจกรรมยามว่างของ เนย กันบ้างดีกว่า คือการปิ้งย่างบาร์บีคิวอยู่ที่สวนหลังบ้าน? “เราเป็นคนที่ชอบทำอาหารค่ะ ทำอาหารคือกิจกรรมที่เราสามารถทำกับลูกได้ เขาจะได้มีส่วนร่วมกับเราในกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำ เนยชอบทานอาหารใต้ฝีมือของแม่ แม่เขาก็จะส่งเครื่องปรุง อาหารมาให้เรา ส่งกล้วยที่เขาปลูกมาให้ เราก็ได้ทำของที่อยากทานเอง ก็เลยมีภาพโมเมนต์แบบนั้นออกมา”
ชีวิตคู่ของเนย เรียกว่าราบรื่นไม่มีอุปสรรค ไม่มีปัญหาเลย? “เนยก็เคยถามนะคะ ว่าเราอาจจะลืมอะไรตรงไหนในจุดที่ไม่ดีต่อกันไปหรือเปล่าก็ไม่มี มันนึกไม่ออกว่าทะเลาะอะไร เพราะเวลาที่ไม่มีเรื่องอะไรเลยก็จะดูแปลกนิดนึง”
แล้วถ้าสามีเป็นคนที่เรียบๆ ง่ายๆ แบบนี้ เนยเคยเบื่อสามีไหม? “ไม่ค่ะ ไม่เบื่อ เพราะเราอาจจะชินแบบนี้เพราะเราใช้ชีวิตแบบเรียบๆ ไม่ได้ต้องโทรตามโทรจิก ไม่ชอบแบบนั้นอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็รู้ว่าเราแป็นคนแบบไหน เพราะเราไม่ชอบมานั่งเคยเช็คคอยอะไรมันน่าเบื่อควรจะเอาเวลาตรงนั้นไปทำอะไรให้มันมีความสุข ให้มันได้เงินที่มันทำงานดีกว่า เพราะหนูรู้สึกว่าทำอะไรแบบนั้นมันไร้สาระ เพราะหนูได้คุยได้บอกเขาไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าหนูเป็นคนใจแข็งมาก ถ้าเกิดมามีคนอื่นหรือมีข่าวคือเราตัดเลยนะ เพราะว่าฉันอยู่ได้สบายเพราะเรามีงานทำมีเงิน เรื่องผู้ชายไม่ได้ซีเรียสคือเราก็บอกเขาไว้แบบนี้ตั้งแต่แรกเลย”
แล้วยิ่งตอนนี้ยิ่งนอกจากจะรักกันแล้ว ยังมีสิ่งหนึ่งที่รักร่วมกันด้วยคือลูก น้องอคิณ-น้องลลิณ? “อคิณ 3 ขวบสี่เดือนค่ะ ลลิณกำลังจะขวบหนึ่งค่ะ ตอนแรกที่อคิณมา เราก็คิดเลยว่าถ้าท้องอีกคนขอให้เหมือนแม่บ้างเถอะ แล้วลลิณก็เหมือนเรามากจนตกใจไม่ว่าจะเป็นเสียงสายตาที่มองจะไม่เหมือนอคิณพี่ของนางเลย อคิณเขาจะนิ่งๆ เหมือนพ่อมาก จะไม่ชอบเสียงดังด้วยค่ะ จะไม่มีโวยวายเลย แล้วบางทีน้องกรี๊ดเขาก็จะบอกว่าน้องกรี๊ดทำไม พี่ไม่ชอบเลยกรี๊ดแบบนี้ไม่น่ารักเลยมันเสียงดังเกินไป เขาพูดเหมือนพ่อเขาเลย ต่างกับลลิณมากเลยโยนของจนพ่อเขาแอบแซวนิสัยเหมือนใครเนี้ย แต่ก็รักเขาทั้งคู่มากๆ ค่ะ”
