มิตรภาพเกือบ 40 ปี จตุรงค์ มกจ๊ก เสียใจโลกนี้ไม่มีผู้ชายชื่อ น้าค่อม แล้ว เผยเป็นต้นแบบความเรียบง่ายติดดิน ยกเป็นตลกอัจฉริยะ

สร้างความเศร้าเสียใจไปทั่วทั้งวงการ หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของนักแสดงตลกชื่อดังขวัญใจคนไทย น้าค่อม ชวนชื่น ที่จากไปอย่างสงบ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 เม.ย.2564 ท่ามกลางข้อความอาลัยรักของเพื่อนพี่น้องในวงการ พร้อมร่วมส่งดวงวิญญาณน้าค่อมไปสู่สุคติในสัมปรายภพ

ทั้งนี้ จตุรงค์ มกจ๊ก หรือ จตุรงค์ โพธาราม ตลกรุ่นน้องที่ผูกพันกับ น้าค่อม มาเกือบ 40 ปี เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงความรู้สึกต่อการสูญเสียพี่ชายในวงการ รวมถึงความประทับใจตลอดเวลาที่รู้จักกันมา ว่า

“ทราบข่าวตอนช่วงเช้าตื่นขึ้นมาก็รู้เลยเพราะว่ามันขึ้นตามหน้าเฟซบุ๊กเต็มไปหมด ความรู้สึกตอนนั้นคือสตั๊นต์ไป 5 นาที ถ้าเป็นทั่วไปก็เสียใจอยู่แล้ว แต่ว่ามันจะไม่ถึงขนาดเป็นพี่เหยิน ผมเรียกว่าพี่เหยินเพราะว่าเราสองคนสนิทกันมาก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเรียกน้าค่อมเลย ถ้าเป็นทั่วไปก็คือโอเคเกิดแก่เจ็บตาย แต่พอเป็นพี่เหยินแล้วมันรู้สึกว่าทำไมต้องเป็นพี่ค่อม ทำไมต้องเป็นโควิดด้วย รู้สึกเสียใจมาก”

“คือมันก็มีความรู้สึกตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว นอนก็คิดถึงแต่เขา ภาวนาว่าบุญกุศลอะไรที่เราทำไว้จะมากจะน้อยยังไงก็ส่งให้เขา ขอให้รอดกลับมาอาจจะไม่สภาพเดิมหรืออะไรก็ได้ แต่ขออย่าให้เป็นอะไร แต่ในความรู้สึกก็คิดว่าเดี๋ยวตื่นขึ้นมากลัวจะต้องรับข่าวไม่ดี แล้วในที่สุดปาฏิหาริย์ก็ไม่เป็นจริงรับข่าวร้ายจนได้”

ถามถึงสิ่งที่เขียนในอินสตาแกรมก่อนน้าค่อมจะเสียชีวิต? “ผมเขียนถึงความผูกพัน เล่าว่าเขาเป็นคนแบบไหน ถ้าใครที่ได้คบกับพี่ค่อมจะรู้เลยว่าเขาเป็นคนที่สุภาพ จริงๆ เขาไม่ได้เป็นคนด่าคน ไม่เคยด่าใครแบบจริงจัง ที่เห็นว่าเขาด่าคือด่าแบบสำเนียงตลกเป็นคาแร็กเตอร์ ทุกคนเข้าใจและไม่มีใครโกรธในสิ่งที่เขาด่า วัยรุ่นสมัยนี้เวลาเจอก็จะชอบบอกว่า พี่ค่อมด่าผมหน่อย พอด่าปุ๊บก็หัวเราะกัน”

 

“ไม่มีใครอยากให้เกิดความสูญเสีย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วก็คือช็อก แต่น้ำตาไม่ไหล ขนาดตอนที่แม่ผมเสียชีวิตน้ำตายังไม่ไหลเลย แต่ว่าทำอะไรไม่ได้ไปประมาณ 1 ชั่วโมง กรณีพี่เหยินก็เช่นกัน หลังทราบข่าวก็ทำอะไรไม่ถูกเลย คิดทุกอย่างอยู่ในใจมันหนักกว่าร้องไห้อีก

ความผูกพันของเราสองคนสมัยก่อนที่จะเข้าวงการทีวี พี่ค่อมอยู่คณะชวนชื่น ส่วนผมอยู่คณะอิสระเดือนเพ็ญ 2 คณะนี้จะผูกพันกันอยู่ตลอดเวลาเหมือนญาติ จนมาเข้าวงการและได้มาเล่นหนัง พี่ค่อม ผม และโก๊ะตี๋เวลาเข้าฉากเล่นอะไรด้วยกันก็จะเป็นช็อตที่จดจำของคนดู”

ย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นในวันที่รู้จักกัน? “รู้จักกันตั้งแต่ตอนที่ผมเล่นตลกอยู่คณะอิสระเดือนเพ็ญ ส่วนเขาอยู่คณะชวนชื่น ตอนนั้นต่างคนต่างไม่มีชื่อเสียงและยังไม่ได้เข้าวงการเลย แต่ว่างานในคาเฟ่เยอะมากแล้ว เรียกว่าคบหากันตั้งแต่ตอนนั้น พอเลิกงานก็ไปหาอะไรกิน ว่างก็นัดไปเที่ยวแพด้วยกัน ยังมีช็อตประทับใจที่ติดตามาจนถึงทุกวันนี้ สมัยที่พี่เหยินยังเป็นหนุ่ม ผอมๆ ผมยาว ขึ้นไปบนน้ำตกที่จ.กาญจนบุรี แล้วแก้ผ้าให้น้องๆ ดู ไม่มีใครทำแต่พี่เหยินทำ เขาเอ็นเตอร์เทนให้น้องๆ สนุกสนาน”

“ถามว่าแรกเริ่มที่เจอกันอะไรที่ทำให้อยากเข้าไปพูดคุยกับผู้ชายคนนี้ เวลาผมเล่นตลกอำคนโน้นคนนี้พี่เหยินจะเป็นคนหัวเราะให้ผมอยู่ตลอดเวลา บางมุขก็มั่นใจว่าตลกเขาก็หัวเราะ แต่บางมุขมันไม่ตลกเลย แต่เขาก็หัวเราะไปก่อนแล้ว เขาเรียกผมว่าอาจารย์ ทั้งที่เขาอายุมากกว่าและเล่นตลกมาก่อน แต่ผมจะเรียกเขาว่าพี่เหยิน บางทีก็ลามปามไปจนถึงว่าไอ้เหยิน ซึ่งเป็นความสนิทและเอ็นดูกัน แต่ในใจจริงๆ คือผมเคารพเขามาก”

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย jaturong_p (@jaturong_p)

“สิ่งที่ประทับใจในตัวพี่ค่อมคือเรื่องของความมีน้ำใจ เป็นคนที่ติดดิน ไม่ทำตัวโอเวอร์ เวลาใครกินอะไรที่อยู่บนโต๊ะใหญ่ๆ มีช้อนส้อม มีอาหารดีๆ ก็ไม่เอาแล้ว เขาจะตักราดแล้วแอบไปนั่งกินในมุมหนึ่ง ใช้มือกินด้วย จนทุกวันนี้เวลาผมอยู่บ้านก็กินข้าวกับมือเหมือนกัน อันนี้ติดมาจากพี่เหยินเลย เรียกว่าซึมซับความติดดินเรียบง่ายมาจากเขาทั้งนั้น”

จากวันที่ทราบข่าวว่าน้าค่อมติดโควิดและต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล กลายเป็นว่าต้องสูญเสียไปตลอดกาล? “ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น บอล เชิญยิ้ม แจ๊ส ชวนชื่น เข้าไปก็เต้นแร้งเต้นกาถ่ายคลิปมาให้ดู สุดท้ายทุกคนก็รักษาหายแล้วออกมาม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับพี่เหยิน เข้าไปแล้วไม่ได้ออกมา จากเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาที่ น้องไอซ์ ลูกสาวเขาออกมาอัพเดตอาการพ่อว่าแย่มาก จนเมื่อวานบอกว่าอวัยวะทุกอย่างไม่ค่อยทำงานแล้ว นั่นแหละผมก็มีความฉุกคิดว่าอย่านะ แต่สุดท้ายพี่เหยินก็จากพวกเราไป”

ช่วงที่ น้าค่อม นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ได้มีโอกาสพูดคุยกับทางครอบครัวบ้างไหม? “ผมไม่ไปกวนเขาหรอกเพราะรายละเอียดทั้งหมดเขาก็ต้องฟังจากหมออีกทีหนึ่ง เขาไม่ได้อยู่ข้างเตียง โควิดมันเป็นโรคที่ไม่สามารถจะไปเฝ้าข้างเตียงได้ ผมอ่านตามที่เขาโพสต์ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปรบกวนเวลาเขา เขาต้องใช้เวลาในการคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ และเขาต้องพักผ่อน”

“ฝากถึงน้องไอซ์ว่าตอนนี้ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อแล้ว ต้องเข้มแข็ง และต้องดำเนินชีวิตต่อไป ภายในวันสองวันนี้อาจจะอ่อนเปลี้ยเสียขาอ่อนแรงนึกอะไรไม่ออก หนูเป็นได้เลย แต่ว่าหลังจากนี้ไปผ่านพ้นงานศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไอซ์ต้องลุกขึ้นมาด้วยความเข้มแข็ง ดูแลน้องๆ และแม่เอ๋ต่อไปให้ได้ แล้วทุกคนจะเป็นกำลังใจให้หนู โดยเฉพาะลุงรงค์”

สำหรับผมถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการตลก พวกเราสูญเสียตลกอัจฉริยะที่ไม่ต้องเล่นอะไรเลย ครั้งหนึ่งพวกเราเคยเสียป๋าต๊อกไปแล้ว วันนี้เสียพี่ค่อมคนที่แค่ยืนทำหน้าเฉยๆ ด่าไอ้สัสคำเดียวคนก็หัวเราะแล้ว ตลกทุกคนทำไม่ได้แบบนี้ ผมทำอย่างนั้นก็ไม่ได้”

“วันที่โลกนี้ไม่มีพี่เหยินแล้ว ไม่มีพี่คนนี้ที่คอยให้กำลังใจเวลาผมเล่นมุขอะไรแล้วไม่ตลก แล้วก็จะไม่มีตลกคู่ใจที่เล่นหนังด้วยกัน ไม่เป็นไรชาติหน้าจะต้องได้เจอกันใหม่และจะตั้งคณะตลกด้วยกัน ตอนนี้พี่เหยินไปตั้งคณะกับโรเบิร์ต(สายควัน)รออยู่บนสวรรค์ก่อน สักวันหนึ่งเดี๋ยวเราก็ได้เจอกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน