เปิดใจ “กอล์ฟ อนุวัฒน์” เดินหน้าง้อแฟน เกี่ยวไหม เลิกเพราะบทชายรักชาย?

ออกมาเดินหน้าง้อแฟนแบบเต็มสูบ สำหรับ กอล์ฟ อนุวัฒน์ เชิดชูรัตนา หลังเคยบอกเลิกฝ่ายหญิงไปแบบไม่มีเหตุผล และล่าสุด นักแสดงหนุ่ม ได้เปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ ถึงการกลับไปง้อแฟนนสาว ในครั้งนี้ว่าสาเหตุที่จริงแล้ว การเลิกได้เกี่ยวกับการที่เจ้าตัวไปรับบทชายรักชายดั่งเคยมีข่าวลืออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่
เรื่องที่โพสต์ง้อแฟน “ก็ผมบอกเลิกเขาไป ก็ง้อเองก็ตามนั้นเลยครับ แล้วก็กำลังง้ออยู่”
ก็ประกาศให้รู้เลย “ก็ให้รู้แหละครับ เพราะว่าเขาไม่ยอมคุยกับผมเลยครับ”
คือที่ผ่านมาหลายคนจะไม่รู้ว่าแฟนกอล์ฟคนไหน แต่ครั้งนี้เป็นการประกาศว่าเป็นคนนี้ “คือเอาจริงๆเลยนะครับ เราคุยกันน้อยมาก ในช่วง3-4เดือนหลัง ผมทำงานหนักมาก และเราเจอกันน้อยมาก ผมก็เลยรู้สึกคิดเองเออเอง เราก็ไปบอกเลิกเขา โดยที่เราคิดเองทั้งหมด แล้วเราก็ยังไม่ได้มีการคุยกันเลย เราก็ตัดสินใจเอง ก็คือเป็นความผิดพลาดของผม”
ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าโดนบอกเลิกเพราะอะไร “ตอนแรกก็ไม่รู้ คือเราก็ไปแบบเท่ๆเลย เราไม่มีเวลาดูหรือเราจะหมดแพชชั่น คือมันคิดเองเออเองไปหมด เจอกันน้อยลงมากๆ และบวกกับเขาก็ทำงานด้วย มันก็มีเวลาที่ไม่ตรงกัน ซึ่ง ณ ตอนนั้นมันก็เลยคิดว่า โอเคบอกเลิกเลยดีกว่า โดยที่เขาก็งงว่าคืออะไรอ่ะ
พอผ่านระยะไปซัก2-3 เดือน พอมันได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง เพราะว่าหยุดสงกรานต์ มีโควิด มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่า มันเหมือนขาดอะไรไปอย่างนึง เราก็ได้รู้ว่าไอ้สิ่งที่มีอยู่แล้วมันมีค่าสำหรับเรามาก และเราก็โตแล้ว เราก็รู้สึกว่าอยากจะมีใครสักคนมาอยู่ข้างเรา ซึ่งเราก็มีอยู่แล้วแต่ว่ามันขาดหายไป สิ่งที่มันเคยทำให้กันและกันมันขาดหายไป เราก็เลยคิดถึงเขา เราก็ไลน์ไปหาก่อน แต่เขาก็ไม่ยอมคุยกับเรา เราก็เลยง้อครับ ก็เดินหน้าง้อเต็มที่เลย หลายคนก็จะตกใจว่าคืออะไร เพราะว่าผมไม่เคยลงรูปเขาเลย”
แล้วทุกวันนี้มีการตอบโต้อะไรมาไหม “ดีขึ้น ดีขึ้น ผมก็ยังเดินหน้าง้อต่อไป”
ก็เรียกว่ารู้คุณค่าตอนเกือบจะเสียไป “ก็ประมาณนั้นเลยครับ คนเราถ้ามันไม่จวนเจียนมันไม่รู้สึกหรอก นี่ผมรู้สึกแล้ว”
ช่วงนี้ก็ต้องทำคะแนนเยอะหน่อย “ความรู้สึกคือเหมือนจีบใหม่ครับ ก็นึกถึงใจเขาใจเราเนอะ เพราะว่าเราไปบอกเลิกเขาก่อน เขาก็จะไม่มีความไว้ใจเรา เขาก็จะคิดว่า เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกไหม”
ไม่ใช่ว่างานเยอะเราไปบอกเลิกเขาเองอีก “เออใช่ คำพูดนี้เลย แต่ว่าเราก็รู้แล้วอ่ะ ว่าเรารักเขามากแค่ไหน”
เพื่อนแซวเยอะเลย “อย่าเรียกว่าแซวนะครับ เรียกว่าด่าดีกว่า ใครรู้ก็จะเรียกว่าไอ้_วาย ไอ้โง่ ไม่ฉลาดเอาซะเลย คนใกล้ชิดไม่ได้มีใครเข้าข้างเรา ไม่มีใครจะสงสารผมเลย (หัวเราะ) ผมก็ให้เพื่อนช่วยง้อแฟน เพื่อนก็ให้ความร่วมมือ จริงๆก็คือด่าด้วยสงสารด้วย เพื่อนก็อยากให้แฟนกลับมา ก็เลยช่วยกัน”
เขาก็ยังไม่มีใครใหม่ “อันนี้ไม่รู้นะครับ แต่ว่าน่าจะไม่มีใครครับ เพราะว่าคูณ(แฟน) ถ้ามีใครเขาจะไม่คุยเลย”
ตอนนี้หนุ่มๆก็คงไม่กล้าจีบแล้ว “ไม่รู้ครับว่าจะกล้าหรือเปล่า แต่ก็คงจะมีคนกล้าครับ”
ก็เรียกว่าเดินหน้าง้อเต็มที่ “ง้อมันต้องมีพลัง เพื่อพิสูจน์ให้เขาเห็น ให้คนรอบตัวเขาเห็น มันไม่ใช่ง้อแค่เขาคนเดียวแล้ว เพราะว่าเพื่อนเขาก็ไม่ได้ไว้ใจผม ซึ่งผมก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองอยู่แล้ว”
ณ ตอนนั้นที่บอกเลิกคือเรื่องงานล้วนๆใช่ไหม ไม่มีเรื่องอื่นเลย “ไม่มีเรื่องอื่นครับ ผมอยากเท่ อยากเดินออกมายืนได้ด้วยตัวเอง จริงๆเราไม่ได้มีมือที่3เลยครับ คือผมผิดเอง คิดเองเออเอง เราไม่ได้พูดคุยกันจริงๆ เขาก็พร้อมที่จะพูดคุยแหละครับ แต่ว่าผมตัดสินใจเองคนเดียว คือผมไม่ควรจะเป็นแบบนี้”
แต่ตอนนั้นก็คือบอกสาเหตุเขาใช่ไหมว่าเราไม่มีเวลาให้ “คือไม่ได้พูดครับ แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าเลิกเพราะอะไร ก็แค่บอกว่าเลิกกันเถอะ แต่จริงๆในใจเรามีเหตุผลของเรา แต่ไม่ได้พูดออกไป เพื่อนทุกคนทั้งเพื่อนเขา เพื่อนเรา ก็บอกว่าเป็นอะไรเนี่ย ”
คือนัดรวมกันแล้วบอกเลิกเหรอ? “ไม่ครับ โทรไปด้วยครับ เลวร้ายมาก ก็คือเขาควรจะโกรธจนถึงทุกวันนี้แหละครับ คือเราผิดเองแหละ จะบอกว่าไม่มีเวลา ก็ไม่ใช่สาเหตุ ถ้าคนรักกันมากพอ มันก็จะไม่มีข้อนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มันทำให้เรารู้สึกว่า เราไปค้นหาตัวเองแล้ว เรารู้สึกว่าตอนนี้เรารักเขามาก เราก็เลยทำตามหัวใจตัวเอง ”
ครั้งนี้ถ้าสำเร็จมันน่าจะพัฒนาไปมากขึ้นกว่าเดิมไหม “คือมันต้องดีกว่าเดิมและมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ คือทุกคนจะได้เห็น แล้วก็เรียกว่าเปิดตัวในวงการบันเทิงไปในตัวเลย ”
เพราะที่ผ่านมาเงียบเลย “ใช่ครับ คราวนี้ก็จะได้รู้แล้วว่าคนนี้คือใคร”
ครั้งนี้จะทำให้มุมมองความรักของเราเปลี่ยนไปไหม “เปลี่ยนมาก มันทำให้เรารู้สึกว่าการมีความรักที่ดีมันดีมากอยู่แล้ว แล้วก็การที่ใครสักคนจะรักเราจริงๆมันหายากมาก และเราก็รักเขาด้วย ผมเป็นคนที่ใช้แค่ความรู้สึกเรา ผมไม่ใช้ข้ออื่นไม่ว่าจะเป็นการรวย หรือ จนไม่เกี่ยวเลย ขอแค่เรารักเขา เขารักเรา มีไลฟ์สไตล์ที่ตรงกัน อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจแค่นั้นพอ แล้วที่ผ่านมาคือไม่เคยทะเลาะกันเลยนะ ”
ก็ไม่แปลกที่เขาโกรธมากที่ไปบอกเลิกเขาใช่ไหม “ครับเค้าโกรธมาก แล้วก็เสียใจมาก”
ครั้งนี้ก็ถือว่าปรับเปลี่ยนเราไปมาก “ก็เปลี่ยนมากครับ ก็เรียกว่ามันเป็นความผิดพลาดของผมที่ไม่ได้คุยกันไม่ได้สื่อสารกัน เพราะว่าจริงๆแล้ว ความรักจริงๆมันง่ายมากนะ ถ้ามันเจอคนที่ใช่จริงๆมันง่ายมากจริงๆ ผมกลับทำให้มันเป็นเรื่องยากเอง”
มีเพื่อนแซวไหมว่าเราเล่นหนังสายวาย เอ๊ะ หรือเราค้นพบ “เยอะ ครั้งแรกเลยคือเพื่อนที่สนิทกัน ทักว่า เป็นตุ๊ดหรือเปล่าเนี่ย ผมก็อำกลับว่า เออเป็นตุ๊ดว่ะ ก็แกล้งกัน คือมันรู้จักผมดี แต่มันชอบแกล้ง ผมจะเป็นคนแบบว่าเป๊ะ และคิดไปก่อน ”
“ประสบการณ์ความรักครั้งนี้สอนผมเยอะมาก ทำให้ร้องไห้เหมือนหมาเลย คือตอนออกมาอย่างเท่แต่ตอนกลับไปคือร้องไห้เหมือนหมาจริงๆ คืออยู่ไม่ได้ อยู่กับห้องไม่ได้ แม่ก็ถามว่าเป็นอะไร ทุกคนก็งงว่าเออบอกเลิกเขาเองแล้วมาเศร้าเหมือนคนบ้า “
ก็คือช่วง2เดือนก็ซึมเศร้าอยู่แล้วด้วย “คือเศร้าหนักเลย คือเราบอกเลิกเขาให้เค้าไปเจอคนที่ดีกว่า เราไม่มีเวลาให้ ซึ่งมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราบอก มันก็เลยเศร้า”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน