ต้อย หมวกแดง โชว์เพลงใหม่ล่าสุด เอ๊าะเยาะ พร้อมเผยชีวิตปัง เพราะลงอักขระที่หมวกแดงทุกใบ ทำจมูกเสริมโหวงเฮ้ง

จุดพลุดังเปรี้ยงปร้างจากเพลง อย่าขอหมอลำ สำหรับนักร้องมากความสามารถ ต้อย หมวกแดง ที่ไม่ว่าเขาจะไปเล่นที่งานไหนก็ต้องใส่หมวกสีแดงเสมอ เช่นกันเมื่อได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เขาต้องสวมหมวกสีแดง เอกลักษณ์ประจำตัว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้มานั่งเล่าถึงที่มาที่ไปของหมวกที่ลงอักขระไว้ทุกใบ และเล่าเรื่องราวการไปเสริมโหงวเฮ้งที่คิดจะทำแล้วปังแต่กลับพังไม่เป็นท่า พร้อมนำเพลงใหม่ล่าสุด เอ๊าะเยาะ มาโชว์อย่างสนุกสนาน

พูดถึงเพลงใหม่ล่าสุดของ ต้อย หมวกแดง คือเพลงที่ชื่อว่า? ต้อย หมวกแดง : “เพลง เอ๊าะเยาะ ปกติจะออกเพลงปีละ 1 ถึง 2 เพลง ซึ่งปีนี้เพลงนี้เป็นเพลงแรกเลยครับ เพลง เอ๊าะเยาะ ในเพลงนี้จะบอกว่า เราพยายามที่จะใช้เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อปลูกผลไม้ คือเงาะนั่นเอง เราพยายามจะบอกว่าเงาะมันมีขนาดเล็ก เราก็เปรียบเทียบว่าเป็นลักษณะ เอ๊าะเยาะ ก็ได้เล่าความเป็นมาที่จะปลูกเงาะครับ เป็นเพลงสนุกสนานที่มีเรื่องเล่าผสมอยู่ในเพลงด้วย ผมได้มีโอกาสได้รับเชิญให้เข้าค่ายเพลงซึ่งมีเสี่ยชัยเป็นผู้บริหารแล้วก็คุณแหลม พี่อ้อย กระท้อน เป็นที่ปรึกษา ผมก็ได้เพลงนี้มาฟัง เนื้อมันแปลกดี เมโลดี้มันแปลกดี แต่ดนตรีตอนแรกที่ฟังผมรู้สึกว่ามันเป็นร็อคจริงๆ ไป ผมก็เลยให้เขามาปรับเป็นร็อคอีสานหน่อย ประมาณ 3-4 รอบก็ลงตัว”

แต่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ต้องย้อนกลับไปตำนานความโด่งดังของเพลง อย่าขอหมอลำ เพลงนั้นพี่ต้อย ทำเองทั้งหมดเลยหรือเปล่า? ต้อย หมวกแดง : “ใช่ครับทุกขั้นตอนเลย เนื้อ ทำนอง ดนตรี ทั้งหมดเลยครับ เพราะเมื่อก่อนหลังจากที่ผมออกจากวงนากาไปแล้ว ก็มาทำเพลงทั้งหมดคือเราใช้ทุนงานเราเอง ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้มีเงินทองเยอะมากก็หยิบยืมเพื่อนบ้างจนได้ครบทั้ง 10 เพลง เพราะว่าเมื่อก่อนจะออกอัลบั้มต้องทำให้ครบ 10 เพลงถึงออกได้ และเพลง อย่าขอหมอลำ เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่ผมทำด้วย ณ ตอนนั้นที่แต่งเพลงนี้เสร็จที่เราฟังเพลงนี้ในห้องอัดตอนนั้นเราก็คิดว่าเพลงของเราได้น่าจะโดนใจแฟนเพลง เพราะในเพลง อย่าขอหมอลำ คือเรามีดนตรีที่ใหม่มีส่วนผสมของ HipHop , Rock แล้วก็หมอลำซึ่งเป็นเมโลดี้พื้นบ้าน”

และเพลงนี้เอง อย่าขอหมอลำ ทำให้หลายๆ คนที่ไม่เคยร้องหมอลำมาก่อนอยู่ดีๆ ก็ร้องได้ แต่ก็ไม่ได้ดังแค่เพลง เพราะดังไปถึงเอกลักษณ์การแต่งตัวจนได้ฉายา ต้อย หมวกแดง ทำไมต้องเป็นหมวกแดงเอ่ย? ต้อย หมวกแดง : “หมวกแดง ต้องบอกว่าเป็นหมวกคู่กาย หมวกประดับบารมี ทีนี้เวลาที่เราออกเพลง อย่างเมื่อก่อนที่เราอยู่วงนากา (ก็จะมีความกึ่งๆ เพื่อชีวิตหน่อย) เราก็จะมีชื่อว่า ต้อย นากา แล้วพอออกมาแล้วเราออกเพลง อย่าขอหมอลำ แล้วเพลงดังเราจะไปใช้ชื่อว่า ต้อย นากา มันไม่น่าเข้า เพราะว่าเพลงมันสนุก มันจริงจังมากเราก็เลยคิดว่างั้นเราใช้ชื่อว่า ต้อย หมวกแดง แล้วกัน”

แต่ว่าหมวกนี้ไม่ใช่ หมวกธรรมดา เพราะเป็นหมวก ที่ไปลงอักขระมา? ต้อย หมวกแดง : “ใช่ครับ เพราะในช่วงที่เพลงเราได้รับความนิยม เวลาที่เราไปเล่นตามวัดต่างๆ เกจิอาจารย์ตามวัดที่เราไปเล่นท่านก็จะทำการเป่าหัวให้ ให้ของขลัง แล้วก็มีใบหนึ่งที่ต่อจากใบที่ผมใส่ใบแรกนี้ เพราะได้มีโอกาสเข้าไปกราบหลวงพ่อคูณบ่อยมาก ท่านก็ลงอักขระให้ ทั้งเคาะทั้งอะไรซึ่งหมวกของผมจะมีอยู่ทั้งหมด 3 ใบ ซึ่งทุกใบก็ลงอักขระไว้ทุกใบ ซึ่งจะมีตะกรุดใส่ไว้ด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล”








Advertisement

พี่ต้อย เป็นคนเชื่อเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะว่านอกจากหมวกที่ลงอักขระแล้ว พี่ต้อย ยังไปเสริมโหงวเฮ้งด้วยคือ ไปทำจมูก? ต้อย หมวกแดง : “คือแบบนี้ครับ ชีวิตมีคนมาทักนะอย่างมีอาจารย์มาทักดั้งไม่มีแล้วนะ เดี๋ยวเงินมันไหลผ่านนะ ก็มีเพื่อนศิลปินของเราไปทำ เราเลยศึกษาแล้วก็ไปเสริมมานิดเดียวครับ ซึ่ง เจเน็ต เขียว ที่พาไปทำ เขาก็บอกว่าอาจารย์ที่ร้านทำให้ฟรีด้วย ผมก็เลยโอเคทันที ซึ่งช่วงที่ทำคือก่อนที่โควิดจะมานิดเดียวเอง แต่พอไปทำมาก็เกิดผลเพราะว่ามันเอียงๆไม่ตรง เพราะว่าด้วยความที่เราเป็นผู้ชายก็เลยไม่ค่อยได้ระวัง และด้วยความที่เราไม่รู้ 3-4 วันหลังจากที่ไปทำมาคือ ก็กินปลาร้า กินของที่เขาห้ามเลย (เพราะเราไม่รู้ว่ายังทานไม่ได้) ซึ่งหลังจากนั้น จมูกก็เริ่มแดงๆ เอียงๆ เราก็อยากไปถามอาจารย์หมอ แต่มันไปไม่ได้เพราะว่าติดโควิด จนผ่านไปประมาณ 5 เดือน เราถึงได้ไปหาอาจารย์หมอ ซึ่งสุดท้ายต้องถอดออกแล้วหมอใส่ให้ใหม่ แต่ต้องพักก่อนแล้วค่อยมาใส่ แต่เราก็ไม่ได้ไปทำแล้วครับเพราะว่าเข็ด แต่เราก็อยากเสริมโหงวเฮ้งของเรา และเราก็ได้สิ่งที่เราต้องการมาคือ เราได้ทำน้ำพริกกะเพรา ก็จะมีแก้มปลาทูอบกรอบ ซึ่งทุกกระปุกของเราเราลงมือทำเอง เราทำตามออร์เดอร์ ที่สั่งมาทั้งหมด ซึ่งถ้าใครอยากลองชิมดูสามารถสั่งได้ที่ เฟสบุ๊ค ต้อย หมวกแดง หรือ แอดไลน์ไปที่ @685llmss นะครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน