วันที่ 19 พ.ย. ที่แบงค็อก ทัวริสต์ เล้าจน์ ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี พระราม 9 กีฟ-ดราภดา โสตถิพิทักษ์ นางร้ายหน้าหมวย ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าว “Mister International Thailand 2017” ถึงสาเหตุที่ขอยกเลิกสัญญากับช่อง 7 พร้อมแจงทำไมไม่เผาผี พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์ พระเอกช่อง 7 ซึ่งเป็นแฟนของ เกรซ-ชลิตา โสตถิวันวงศ์ น้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง

โดย กีฟ กล่าวว่า สัญญากับช่อง 7 หมดปีนี้ แต่กีฟขอช่องยุติสัญญาก่อนกำหนดเพราะเรื่องธุรกิจ ขอไปดูแลกิจการส่วนตัวซึ่งตอนนี้ยุ่งมาก คือโฟมล้างหน้าอัดก้อน และร้านเบเกอรี่ ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับช่วงหลังผลงานละครกับทางช่อง 7 มีน้อยลง ทั้งนี้ ผลงานกับช่อง 7 เหลือแค่เรื่องเดียวคือ “สารวัตรใหญ่” ซึ่งเพิ่งปิดกล้องไป

“ธุรกิจทั้งสองตัวนี้ หนึ่งในหุ้นส่วนมีพี่บูม (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) ด้วยค่ะ ถามว่าแอบกลัวมั้ยเป็นแฟนกันทำธุรกิจด้วยกันแล้วจะตีกันรึเปล่า ส่วนใหญ่ปัญหาการทำธุรกิจที่เจอคือเรื่องเงิน แต่กีฟมั่นใจและไว้ใจว่า กับพี่บูมจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีเพื่อนนอกวงการที่มาร่วมหุ้นส่วน” กีฟกล่าว

เมื่อถามถึงความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง กีฟบอกว่า ดีค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยเจอกันบ่อย เพราะคิวพี่บูมแน่นมาก ถ่ายละคร 7 วัน ถามว่าที่ทำธุรกิจกับพี่บูมเพื่อวางอนาคตร่วมกันรึเปล่า แน่นอนค่ะ เพราะอย่างน้อยก็ยังมีอะไรรองรับในอนาคต ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจในตัวพี่เขา สำหรับความรักของกีฟใช้เวลานานมากกว่าจะเปิดตัวเป็นแฟนกัน นั่นแสดงว่าต้องดูแล้วว่าไม่ได้คบกันเล่นๆ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็โอเคแฮปปี้ คุณพ่อคุณแม่ชอบพี่บูม ซึ่งปกติท่านชอบคนยากมาก คุณแม่บอกว่าพี่บูมเป็นคนจิตใจดีและขยันทำงาน ส่วนคุณพ่อชอบตรงที่รู้สึกว่าพี่บูมเหมือนตัวเขาคือเป็นคนรักเดียวใจเดียว แล้วก็เป็นผู้ชายที่ดีและให้เกียรติลูกเขา เวลามีอะไรพี่บูมจะเข้าไปคุยกับคุณพ่อตลอด

ถามถึงปัญหาเรื้อรังระหว่าง ‘พอร์ช-ศรัณย์’ แฟนน้องสาวของตัวเอง ดาราสาวกล่าวว่า มันเป็นแผลที่ไม่มีทางสมาน ซึ่งกีฟอธิบายไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็อยากให้ต่างคนต่างไปใช้ชีวิต ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก และไม่ต้องได้ยินชื่อกันและกันอีก ส่วนที่หลายคนแอบหวังว่าเวลาจะเยียวยาปัญหานี้ได้ แต่กลายเป็นว่าเหมือนน่าจะไม่เผาผีกันมากกว่านั้น กีฟว่าเวลาเยียวยาได้แค่บางเรื่อง แต่บางเรื่องเยียวยาไม่ได้นะคะ ถามว่าที่บ้านเป็นห่วงเรื่องนี้มั้ย คุณแม่ก็น่าจะเป็นห่วงแต่ไม่ได้ห่วงเรื่องความสัมพันธ์พี่น้อง แต่จะห่วงเรื่องวิธีคิดของแต่ละคนมากกว่า ซึ่งคุณแม่รู้อยู่แล้วว่ากีฟเป็นคนยังไง และเข้าใจว่าทำไมกีฟถึงทำแบบนี้ ยิ่งคุณพ่อยิ่งเข้าใจมากๆ เพราะกีฟสนิทกับคุณพ่อมาก

น้อยใจไหมที่ด้วยภาพความเป็นนางร้ายของตัวเรา ทำให้หลายคนคิดว่าต้นเหตุของปัญหาที่ไม่จบสิ้นมาจากตัวเรานี่แหละ กีฟกล่าวว่า ถ้าตามวิถีชาวเน็ตส่วนใหญ่จะตัดสินคนจากแค่พาดหัวข่าว และก็ดูว่าหน้าตาเป็นคนดีหรือไม่ ถ้าหน้าตาเป็นคนไม่ดีก็ฟันธงเลยว่าคุณคือคนไม่ดีแน่นอน ซึ่งกีฟไปห้ามความคิดตรงนั้นของเขาไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่คอยติดตามข่าวมาตลอด จะทราบว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ตอนนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะอยากให้จบแล้ว เขาสองคนมีข่าวอะไรออกมา กีฟไม่ได้สนใจอะไรเลย เขาไม่อยู่ในส่วนหนึ่งของชีวิตกีฟอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน