ม้า อรนภา เปิดใจ ชีวิตนอกวงการ แฮปปี้ ช่วยคุณแม่ขายห่อหมก ไม่เดือดร้อน ขอบคุณทุกกำลังใจ – มุ่งหน้าเปิดแบรนด์ MAR ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

ม้า อรนภา เปิดใจ – หลังถูกปลดจากการเป็นพิธีกรทุกรายการ เพราะกระแสดราม่าเรื่องการเมือง จนผันตัวมาช่วยคุณแม่ขายห่อหมก ห่างหายงานในวงการเกือบปี ล่าสุดออกมาเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสองของตัวเองในภาวะวิกฤติโควิด

ช่วงนี้ช่วงทำห่อหมกกับคุณแม่เต็มที่? “แม่ทำมาตั้ง 40 ปีแล้ว ทำมานานมาก ช่วงโควิดครั้งที่ 1 มีการล็อกดาวน์ ผู้ช่วยแม่เขาก็ขอลาออกไปทำงานที่ต่างจังหวัด พอผู้ช่วยไปแล้วก็คิดว่าเลิกทำดีกว่า พอเลิกทำไปแม่ก็สบายดี แต่มักจะชอบไปโรงพยาบาลอยู่เรื่อยๆ หลังจากนั้นเด็กที่ช่วยแม่อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาขายห่อหมกอยู่ข้างๆบ้าน ดังนั้นทั้งดิฉันกับน้องสาวก็เลยมีความรู้สึกโกรธพอสมควร แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกก็ให้เขามีวิชาชีพติดตัวไป ก็ให้ไปทำก็ได้ แต่ว่าขายข้างๆบ้าน

เลยคุยกับพี่สาวว่าเอาอย่างนี้มั้ยล่ะ ถ้าที่บ้านเป็นร้านเสริมสวยด้วย น้องสาวเป็นช่างเสริมสวย เลยคุยกันว่าเรามาขายห่อหมกกันใหม่มั้ยล่ะ โดยการที่ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้ อาทิตย์ละหนก็ได้เดี๋ยวจะรีวิวให้ว่าแม่กลับมาทำแล้ว ผลปรากฎว่าพอแม่ลุกมาทำทุกคนก็ตื่นเต้นที่ได้กลับมา ดิฉันเลยเขียนไปบอกว่ามาทวงบัลลังก์คืน ก็มีคนดีใจ กลับมาซื้อของแม่ต่อ

เผอิญช่วงนั้นดิฉันก็เจอวิกฤตพอดี ดิฉันก็ถูกไล่ออกไม่ได้ทำงานสักรายการเดียว เสร็จแล้วทางรายการอื่นๆ เขาเห็นก็สงสาร เพราะว่าทัวร์ไม่ได้ลงดิฉันคนเดียว แต่ว่าไปลงในเพจห่อหมกของคุณแม่ด้วย เขาก็เลยช่วงกันเชียร์ เพราะว่าสงสาร ผลปรากฎห่อหมกก็ขายก็ขายดีมาก ขายแบบว่าไม่ทันเลย จองกันข้ามปีเลยด้วยซ้ำช่วงนั้น ก็เลยเป็นห่อหมกที่ดังมากๆ

ตอนนั้นดิฉันก็ยังไม่ได้เริ่มเข้ามาช่วยอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งมันมีตลาดเป็นพวกวงการแฟชั่นเขาไปเปิดกัน ซึ่งตอนนั้นงานเกี่ยวกับวงการแฟชั่นมันก็ไม่มีเลย เพราะมันมีล็อกดาวน์ มันมีการหยุด เขาก็เลยไปเปิดตลาดกัน เอาของเก่ามาขาย ดิฉันก็เอาเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วไปขาย ผลปรากฎว่าขายดี

พอวันหนึ่งเขาก็ย้ายตลาดไปอยู่ในหมู่บ้านสรรพากร ดิฉันก็เลยไม่ได้ย้ายตาม แต่เขาก็ชวนกันว่ามาขายห่อหมกที่ตลาดนี่ดีไหม เขาบอกตลาดนัดโกกุ่ยค่ะ ก็เลยคุยกับน้องกับแม่ว่าฉันจะสัญจรเอาห่อหมกไปขายทุกวันเสาร์ อาทิตย์ก็แล้วกัน ก็ลงคลิปบอกลูกค้า ผลปรากฎว่าขายดีมาก

จนมาถึงทุกวันนี้ค่ะ ตอนนี้ก็จะมีที่ สุขุมวิท 26 เขาก็มาชวนว่ามาขายที่นี่มั้ย เขาจะให้พื้นที่ ขายทุกวันจันทร์เว้นจันทร์ เราก็บอกว่าลูกค้าแม่จริงๆแล้วจะอยู่แถวสุขุมวิทเยอะมาก เพราะว่าคนแถวนี้จะเป็นลูกค้ามานมนานมาก พอดิฉันมาขายก็ยิ่งแบบว่าขายดีมากเลย เพราะว่าลูกค้าสะดวก แฮปปี้ที่จะมาซื้อใกล้ๆตรงนี้ เลยทำอย่างนี้มาตลอดค่ะ สนุกดี”

คุณแม่ถ่ายทอดวิชาให้ด้วยเลยมั้ย? “ตอนนี้คุณแม่เหมือนจะเป็นคิวซี คอยควบคุม การลงมือเราก็จะมีน้อง มีผู้ช่วย ดิฉันก็รู้จักวิธีการทำ แต่ดิฉันจะอยู่แผนกใบตอง เพราะว่าเราเป็นห่อหมกโบราณเราจะห่อด้วยใบตอง”

ทำครั้งเยอะแค่ไหน? เราทำไม่ได้เยอะมาก แม่ทำได้มากสุดเมื่อก่อนคือ 100 ห่อ พอหลังจากนั้นมีน้องมาช่วยก็ได้มากขึ้น 160 ห่อ จนกระทั่งขายดีก็ขยับมาประมาณสัก 200 ห่อ ตอนนี้จะได้ 300 แล้ว หืดขึ้นคอมาก มันเหนื่อยไป คือจริงๆแล้วเราทำเยอะไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นอุตสาหกรรม เราเหมือนอาหารในครัวเรือน

ซึ่งจะเป็นแบบโบราณ เราก็ไม่ได้จะแบบให้รวยมากอ่ะ เราแค่เอาแบบให้อยู่ได้ แต่ว่ารสมือยังต้องอร่อย ตราบใดที่เป็นอุตสาหกรรมดิฉันคิดว่าความอร่อยมันคงจะหายไป เพราะว่าห่อหมกมันทำยากมากนะคะ จริงๆแล้วคนคิดว่ามันง่าย แต่มันยากมาก ขั้นตอนมันเยอะ

แม้กระทั่งการเลือกปลาช่อน การแร่เนื้อปลา แม่จะทำโดยที่ไม่มีก้างเลยนะ เอาที่ถอนคิ้วมาคอยดึงก้างออกซะด้วยซ้ำ ไม่คาว น้ำพริกก็ตำเอง มะพร้าวพี่ก็ต้องคั้นกันสดๆเลย ประณีตมาก กว่าจะได้ กว่าจะกวนในหม้อดิน แล้วก็ต้องขึ้นเป็นวุ้น มันถึงจะสามารถเอาไปห่อได้

สำหรับรายได้จากหาอหมกตรงนี้ ทางบ้านได้ทำธุรกิจหรือหาเงินในช่องทางอื่นเพิ่มไหม? “ไม่มีค่ะ ก็ทำนิดๆหน่อยๆ คือรายได้ตรงนี้มันเป็นรายได้ของแม่นะคะ ของดิฉันเนี่ยเอามาสัญจรก็ได้กำไรนิดๆหน่อยๆ มันเทียบไม่ได้กับทำพิธีกรค่ะตอนนั้น แล้วก็ทุกวันพฤหัฯตอน 1 ทุ่มค่ะ ดิฉันก็จะมีไลฟ์ขายของใน’เพจ แม่ม้ามาแล้ว’ ซึ่งเราทำคอนเทนต์มาตั้ง 4 ปีแล้วนะ

เราก็เลยมาไลฟ์เพราะมีคนเอาสินค้ามาให้เราขายค่ะ แรกๆก็จะเป็นแบบว่าเอาเสื้อผ้าของตัวเองไปขายก่อน แล้วเอาไปทำประมูล หลังๆก็จะมียาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ผงซักฟอก จนหลังเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในเอ้าต์เลตของคุณสมชัย แก้วทอง ศิลปินแห่งชาติ ก็เอามาไลฟ์พี่ไข่ขายแบบถูกมากก็ได้รับความนิยมมาก วันพฤหัฯก็จะทำ

ช่วงนี้ดิฉันเตรียมงานเกี่ยวกันเครื่องสำอางของตัวเองอยู่ จริงๆน่าจะเปิดตัวแล้ว แต่ว่ายังไม่เรียบร้อยดี แล้วพอดีมาช่วงโควิดกำลังระบาดพีกสุด ก็เลยคิดว่าจะเป็นเดือนหน้าก็เดี๋ยวจะลองถ่ายโฆษณาก่อน เป็นเครื่องสำอางมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวแรกที่ทำขึ้นมาผลิตในอเมริกา ชื่อ Mar เป็นแบรนด์ของตัวเอง เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับใบหน้า

ตัวนี้คิดมากนานแค่ไหนแล้ว? “ดิฉันใช้มา 15 ปีแล้ว เพราะว่ามันเป็นเครื่องสำอางที่ใช้จากคุณหมอที่ดูแลผิว แกผลิตมาเสร็จแล้วแกเห็นดิฉันเจอวิกฤตในชีวิต แกเลยบอกว่าจะเอาเครื่องสำอางตัวหนึ่งให้ แล้วพี่ท้าเอาไปทำเป็นแบรนด์ของตัวเอง ดิฉันก็เลยทำอันนี้มา ก็มีคนช่วยเหลือดิฉันเยอะค่ะ ต้องขอบพระคุณมากๆทำทุกอย่างค่ะ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ”

หลายคนชื่นชมพี่ม้า ภาพขายของท่ามกลางสายฝน? เป็นครั้งแรกที่เราเจอฝนค่ะ คือเราเคยเจอฝนแล้ว 2-3 หน ซึ่งห่อหมกที่มีออเดอร์อยู่ก็รับไปแล้ว แล้วมันยังขายไม่หมดเหลืออีก 30 ห่อ จริงๆถ้าฝนไม่ตกมันก็จะขายหมดนะคะ เผอิญฝนตกก็เลยยืนรอกะว่าเดี๋ยวฝนหาย ลูกค้าก็คงมา พอดีมีน้องแอบถ่ายรูป ดิฉันก็เลยเอามาลงค่ะ คือไม่ได้อะไรนะคะ ชีวิตมันก็ต้องต่อสู้ แต่ว่าไม่เคยฟูมฟาย คิดว่าพอเดี๋ยวฝนหาย ฟ้าหลังฝนทุกอย่างก็จะดีขึ้น ฝนตกอยู่ชั่วโมงนึงพอฝนหายก็ขายหมดเลยค่ะ คิอห่อหมกเราขายหมดทุกวัน เพราะว่ามันอร่อยมาก”

ท้อไหมในช่วงวิกฤตแบบนี้ มีอุปสรรคเข้ามาไหม? ไม่มีอะ เราต้องยอมรับสภาพได้ทุกอย่าง ไม่เคยท้อใดๆทั้งสิ้น ดิฉันเคยมีเงินเดือนสูงมากต่อเดือน ถึงแม้ตอนนี้เป็นศูนย์แต่ดิฉันก็ไม่เคยฟูมฟาย ไม่เคยท้อ ดิฉันมานั่งขายห่อหมก กำไรทีละ 1-2 พัน ดิฉันก็แฮปปี้ดี มีความสุข ดิฉันปลาบปลื้มใจอยู่เสมอเมื่อเวลามีคนมาเป็นกำลังใจให้ มาอุดหนุน มาให้กำลังใจ ก็จะแฮปปี้ตรงนี้ไม่เคยท้ออะไรเลยในชีวิตนี้ เพราะว่าจริงๆดิฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนนะคะ เพราะว่าเป็นคนไม่ประมาทในชีวิต หนี้สินก็ไม่มี

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน