พลอย ชิดจันทร์ แจงดราม่าคอนเทนต์ ยาดีที่สุดในโลก มองคนคิดเยอะ ยืนยันเจตนาดี

จากกรณีที่นักแสดงสาวคุณแม่ลูก4 พลอย ชิดจันทร์ เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงคอนเทนต์ “ยาที่ดีที่สุดในโลก ทุกคนต้องกินเยอะๆ แล้วจะทำให้มีอายุยืนขึ้นอีก 10 ปี” และในคลิปดังกล่าว พลอยได้พูดไว้ว่า “ยาต้านมะเร็งที่ดีที่สุด คือ การเดิน, ยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุด คือ การหัวเราะ, ยาสำหรับความสวยที่ดีที่สุด คือ การนอน, ยาชูกำลังที่ดีที่สุด คือ การแช่เท้าในน้ำอุ่น, ยาที่มหัศจรรย์ที่สุด คือ การดื่มน้ำ, ยากระเพาะที่ดีที่สุด คือ การนวดท้อง, ยาดูแลปอดที่ดีที่สุด คือ การหายใจลึกๆ, ยาบำรุงกระดูกที่ดีที่สุด คือ การรับแสงแดด”

ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการส่งต่อความเชื่อแบบผิดๆ อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดได้ บางคนเสพสื่ออาจแยกแยะไม่ได้ ถ้าเขาคิดว่าจริงขึ้นมาจะแย่ นอกจากนี้ยังมีบางคนบอกว่าแม่แชร์คลิปนี้ในกรุ๊ปไลน์แล้วด้วย

 

ล่าสุด ​(2 มิ.ย.) สาวพลอย ได้เปิดใจถึงกระแสดราม่าดังกล่าวกับ ข่าวสดออนไลน์ ว่าเจตนาจริงๆแล้ว จะสื่อให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ดีมากกว่า

ถามถึงดราม่าในติ๊กต๊อกที่ไปพูดถึงยาที่ดีที่สุด? “จริงๆพลอยทำคอนเทนต์นี้ออกไป จุดมุ่งหมายไม่ได้มีอะไรมากแค่อยากให้คนหันมาดูแลตัวเอง อย่างเรื่องการดื่มน้ำ การเดิน มันคือการดูแลใส่ใจสุขภาพที่จริงๆแล้วเป็นเบสิกที่หลายคนอาจจะหลงลืมไป ร่างกายเรามีน้ำ 70 เปอร์เซ็นต์เราก็ต้องดื่มน้ำเยอะๆ อยู่แล้ว คุณหมอเขาก็จะแนะนำ มันก็คือสิ่งที่เราดูแลตัวเองได้ เหมือนเป็นยาอย่างหนึ่ง มันคือการเปรียบเปรยแหละ ว่าเป็นยาที่ดีที่สุดที่เราสื่อสารไป แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันมีอะไรมาปรู๊ฟหรอ หรือว่ามีหลักทางวิทยาศาสตร์ บางทีเขาอาจจะคิดเยอะเหมือนกันเนอะ คือคิดลึกซึ้ง คิดละเอียดในมุมนั้น ซึ่งเราก็ยอมรับในฟังในคอมเมนต์ตรงนั้น แล้วก็รู้สึกว่าต่อไปเราคงต้องระมัดระวังมากขึ้น ในการใช้คำพูด

แต่จริงๆพลอยไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย พลอยรู้สึกว่า ถ้าตีความหมายของคอนเทนต์ที่จะสื่อสารไปคือให้ดูแลตัวเองกันนะโดยวิธีการง่ายๆ ในความคิดพลอยนะ พลอยรู้สึกว่ามันเป็นยาที่ดีที่สุดตรงที่แบบคุณไม่ต้องไปซื้อหา ไม่ต้องใช้เงินซื้อเลย คือการตีความที่ดีที่สุด มันดีในมุมไหน จริงๆมันก็มองได้หลายมุมนะ ว่าดีบางครั้งมันอาจหมายถึงเราไม่ต้องใช้เงินไปซื้อไปหา เราแค่ดื่มน้ำ เดิน ออกกำลังกาย มันก็เป็นสิ่งที่เราดูแลตัวเองได้ค่ะ

แล้วหลักการดูแลตัวเองแบบนี้ จริงๆมันก็มีรีเสิร์ช มีผลวิจัยว่าการเดินมันช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งนะ พลอยก็อ่าน ก็มีทั้งในไทยและต่างประเทศค่ะ มันมีรีเสิร์ชแบบนั้นจริงๆว่าการเดินมันช่วยให้ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง หรือ ช่วยต้านมะเร็งแบบที่เราพูดไป ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่คนอาจจะคิดเยอะกันด้วย แต่ความคิด ความหมายของคอนเทนต์พลอยจริงๆคือสิ่งที่พลอยสื่อคืออยากให้ทุกคนหันมาใช้ยาที่สุดที่สุดในมุมของเรา มันทำได้ง่ายโดยการที่ไม่ต้องไปซื้อไปหาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีให้หันมาดูแลตัวเองกันที่เราแนะนำไป”

หลายคอมเมนต์บอกว่ามันไม่ควรที่จะเรียกว่าเป็นยา? “เราก็รับฟังเลยแหละ เราอยู่ตรงนี้ พอมีคอมเมนต์ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ตาม เรารับฟังว่ามันเป็นแบบนั้นจริงมั้ย สิ่งที่เขาคอมเมนต์มาเราก็เข้าใจได้ พลอยอาจจะต้องระวังเรื่องคำพูดมากขึ้นแหละ คือเราก็รู้สึกว่าในคอนเทนต์แบบนี้ก็ให้ทุกคนฟังแล้วก็เกิดความสนใจ แต่พอทำเป็นคำพูดออกมาให้คนสนใจ เลยอาจจะไปเทียบว่ามันเป็นยา แต่ทีนี้ก็เข้าใจได้ถ้าเขาจะคิดว่าการดื่มน้ำ การเดิน มันไม่ใช่ยา แต่มันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจได้แหละว่ามันอาจไม่ใช่ยา แต่ในมุมที่เราเปรียบเทียบเปรียบเปรยว่าเป็นยา เหมือนการที่พูดว่าการหัวเราะคือยาวิเศษ หรือ apple a day keeps the doctor away มันก็คือการเปรียบเปรยคล้ายๆกัน โดยที่มันอาจจะไม่ได้มีอะไรมาปรู๊ฟ หรือนักวิทยาศาสตร์มายืนยันได้ แต่ว่าก็มีวิจัยที่ช่วยเราจริงตามนี้ สุขภาพเราก็จะดีขึ้น แข็งแรงขึ้นห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ คือต้องการจะสื่อบอกพี่น้องชาวไทยแค่นี้เลยค่ะ”

มีทวิตเตอร์บอกว่า มีกลุ่มคนผู้สูงอายุแชร์ ห่วงว่าจะมีการเข้าใจอะไรที่ผิด? “พลอยคิดว่าในบางมุมที่เขา มองอย่างนั้นเราก็คิดว่าถ้าเขาป่วยไม่สบายหรือว่าเป็นโรคจริงๆเราก็ไม่ได้บอกนะว่าไม่ต้องไปหมอ แบบใช้ยาที่ดีที่สุดอันนี้แล้วมันโอเค ก็อาจจะต้องอยู่ในมุมมองของแต่ละคนด้วยที่จะตีความ แต่ก็ขอบคุณแหละที่เขาคอมเมนต์มาดูคลิปเรา ใส่ใจพลอยก็คิดอีกมุมว่าก็ดีที่เขาใส่ใจดูเรา แบบเอาไปแชร์ซึ่งยอดแชร์ก็เยอะจริงๆ หลายคนก็แชร์กลับมาให้พลอยด้วย เอาไปแชร์ทำซ้ำอีก บางคนก็บอกว่าดีได้ตีกลุ่มไลน์แฟมิลี่เขา ตีแตกแล้ว ผู้ใหญ่ก็แชร์กันเราก็รู้สึกว่าเป็นเทคนิคการดูแลตัวเองที่ทำได้ง่ายๆ เราเลยมองว่าเป็นยาที่ดีที่สุดที่เราไม่ต้องไปซื้อไปหา ลำบากอะไร เป็นเรื่องใกล้ตัวที่บางทีเราลืมไปแล้ว

จริงๆเมื่อก่อนสมัยเรียน เราก็รู้ว่าต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เป็นสิ่งสำคัญที่ร่างกายเราขาดไม่ได้ต้องดื่มเยอะๆ แต่พอโตมามันยุ่งทำงาน คนเราก็ลืมตรงนั้นไป ดื่มกันน้อยลงค่ะ หลายๆอย่างก็อยู่ที่มุมมอง แต่พลอยก็ขอบคุณนะคะที่ใส่ใจ ดูกัน แค่ดูกันพลอยก็ดีใจแล้ว ส่วนคอมเมนต์เราก็จะรับไปปรับปรุง แล้วก็ทำให้ดีขึ้น แต่เจตนาเราไม่ได้มีอะไรแบบนั้น เจตนาคือแค่อยากจะให้ดูแลสุขภาพกัน”

นอยด์ไหม โดนดราม่าอีกแล้ว? “นิดนึงนะ จริงๆก็นิดนึง เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งที่เราจะสื่อเขาน่าจะเข้าใจได้ มันคือเรื่องแค่นี้เองที่เราจะสื่อให้ว่าต้องดูแลตัวเองกันนะ แต่กลายเป็นว่ามันทำให้เขาคิดเยอะไปในหลายมุมแบบนั้น เราเองก็นิดนึง แต่คิดว่ามันก็ต้องมูฟออนแหละ อย่าไปนอยด์เยอะ แต่อ่านนะ แล้วก็ดูและฟังทุกคอมเมนต์แหละค่ะ ไม่ใช่ว่าปิดกั้น ก็รู้ว่าโลกโซเชี่ยลทุกคนมีสิทธิ์ออกความคิดเห็นคอมเมนต์กันเข้ามาได้ เราก็ยินดีรับฟังค่ะ ก็จะได้เอาไปปรับกันด้วยแหละสิ่งที่คอทเมนต์มาค่ะ”

พอมันมีดราม่าเข้ามา ทำให้คอนเทนต์ต่อๆไปทำยากขึ้นไหม? “จริงๆ เดี๋ยวทำคอนเทนต์อะไรให้พักสมองกันบ้าง(ยิ้ม) ให้คลายเครียดกันบ้าง เมื่อวานก็คุยกับทีมอยู่ว่าเรามาทำอะไรขำๆบ้างไหม จริงจังเกินไปหรือเปล่า เขาดูจนกลายเป็นเรื่องจริงจังไปค่ะ แต่ก็ดีแหละถ้าเขาใส่ใจ สนใจเราก็ถือว่าโอเคค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน