นางงามดัง น้ำเพชร ฏีญาภาร์ ลั่น! ไม่ซื้อของ พิมรี่พาย แล้ว สั่งไปได้ไม่ครบ ซ้ำเจอทีมงานดูถูก แนะจัดระบบหลังบ้านให้ดีก่อน
หลังจากที่ เพ็ชร หรือ น้ำเพชร ฏีญาภาร์ กฤษณสุวรรณ นางงามคนดัง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีสั่งของจากร้าน พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่นอกจากจะส่งของช้าแล้ว ยังได้ไม่ครบตามจำนวน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 8 มิ.ย.64 เพ็ชร หรือ น้ำเพชร ฏีญาภาร์ ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงสาเหตุที่ออกมาโพสต์เรื่องราวดังกล่าว รวมถึงเรื่องที่ทีมงานของแม่ค้าคนดังเข้ามาตอบคอมเมนต์เชิงดูถูก งานนี้เจ้าตัวลั่น! ไม่ซื้อของพิมรี่พายแล้ว
ถามถึงเรื่องที่ออกมาโพสต์โวยว่าสั่งของพิมรี่พายแล้วได้ไม่ครบ? “หลังจากที่เพ็ชรสั่งของพี่พิมรี่พายไปตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. โอนเงินไปปุ๊บปั๊บเลยเพราะไม่อยากให้ทางเขารอนาน ด้วยความที่เราติดตามพี่พิมรี่พายมานานเห็นว่าเขาเป็นคนดี เอาเงินไปช่วยเหลือสังคม เราก็อยากร่วมบุญ บิลแรกที่เอฟของไปก็ค่อนข้างเยอะประมาณ 4,200 ได้มั้ง สินค้า 2 ตัว ทั้งหมด 5 ชิ้น”
“เราไม่เคยเอฟของอะไรแล้วรอนานขนาดนี้เพราะไม่เคยสั่งของพี่พิม พอสั่งปุ๊บรอนานหน่อยเราก็เข้าใจได้เพราะเขาค่อนข้างที่จะออเดอร์เยอะ แต่มันก็เหมือนกับการพรีออเดอร์ของเลย เพ็ชรไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินขนาดนั้น เพราะของที่สั่งก็เป็นสกินแคร์ฟุ่มเฟือย”
“ทีนี้พอตอนเปิดกล่องออกมาหลังจากรอของมา 2 อาทิตย์ คือของไม่ครบ อันนี้พูดกันในฐานะที่เป็นลูกค้า หงุดหงิด รู้สึกโกรธ ไม่โอเคกับการที่เราต้องรอของนาน แล้วเปิดออกมายังได้ไม่ครบอีก ซึ่งเราก็ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ไม่ได้จะเบลมหรือทำให้เขาเสื่อมเสีย แต่ถามขอความเห็นว่าใครเคยสั่งของพี่พิมแล้วเป็นแบบนี้บ้าง”
“แล้วมันก็จะมีคอมเมนต์มาว่าทุกคนเลยครับ โดนแบบนี้ ตอนนี้ระบบการจัดการของเขาแย่โน่นนี่นั่นให้ไปตามในกรุ๊ป พอเราไปตามในกรุ๊ปก็ไม่มีใครตอบ ในไลน์@ที่เขาให้ทักก็ไม่มีใครตอบ กลายเป็นว่ามีรุ่นพี่เพ็ชรคนหนึ่งทักมาบอกว่ารู้จักเขา เดี๋ยวให้ผู้จัดการโทรหา อันนี้เป็นเคสที่เป็นสเปเชี่ยล”
“พอตอนเย็นมีทีมงานของพี่พิมโทรกลับเข้ามาขอโทษและขอเลขออเดอร์ เลยเป็นการจัดการที่เร็ว แต่ทีนี้ถ้ามันไม่ใช่เรา ไม่ได้เป็นดารา ไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียง เขาจะติดต่อกลับมาเร็วขนาดนี้มั้ย แล้วในบทสนทนาก็คือคุยกันว่าทางเราจะให้โอนเงินคืนหรือจะรับสินค้าดี เราเลยบอกว่ายังไงก็ได้ไม่ซีเรียส เขาเลยบอกว่างั้นเดี๋ยวจะส่งสินค้าไปให้ภายในวันพรุ่งนี้ เพ็ชรก็บอกโอเคค่ะ”
“หลังจากนั้นก็วางสายและไปคุยงานต่อ ปรากฏว่ามีสายซ้อนโทรเข้ามาที่เขาโทรมาจิกๆๆ สุดท้ายมีทีมงานของพี่พิมรี่พายมาโพสต์ประจานด่าเพ็ชรว่าทางเราติดต่อไปแล้วแต่ทางคุณเพ็ชรตัดสายทิ้งตลอด แล้วเราก็ได้ส่งของสมนาคุณมาให้”
“เพ็ชรไม่ได้อยากได้ของสมนาคุณ เพียงแค่ว่าทางร้านค้าขอโทษเราอย่างจริงใจที่ส่งของช้าเพราะออเดอร์มันเยอะจริงๆ แต่เดี๋ยวจะจัดการให้อะไรก็ว่าไปด้วยคำสุภาพ ไม่ใช่มาโพสต์ด่าเราแบบนี้ เราก็ยิ่งแบบโกรธหนักเข้าไปใหญ่เลย มันเป็นอะไรที่ทำให้ลูกค้าอย่างเราเสียความรู้สึก”
สรุปของได้ครบไหม แล้วของสมนาคุณได้รับหรือยัง? “ของที่สั่งไปยังได้ไม่ครบ ของสมนาคุณก็ยังไม่ได้รับ แต่จริงๆ คือเราไม่ได้อยากได้ของสมนาคุณแล้วก็ไม่ได้อยากออกมาพูดอะไรแบบนี้ แต่ถ้าสมมติเพ็ชรสามารถเป็นตัวแทนลูกค้าของพี่พิมได้ทุกๆ คน เพ็ชรอยากให้พี่พิมจัดการระบบการจัดการหลังบ้าน ระบบการส่งของให้ดีก่อน ก่อนที่จะขาย”
“คือถ้ามันเป็นอย่างนี้จะมีลูกค้าอีกกี่คนที่เสียความรู้สึกแบบเพ็ชร แล้วถ้าเขาไม่ได้มีเสียงดังหรือมีพื้นที่สื่อในการพูดให้ทุกคนเข้าใจหรือให้ทุกคนรับรู้แบบนี้ เขาจะต้องรอ ต้องเสียความรู้สึก และเสียความชื่นชอบในตัวพี่พิมขนาดไหน สำหรับเพ็ชรที่เป็นน้อง แต่อยากแนะนำว่าจัดการระบบหลังบ้านของตัวเองให้ดีก่อน ให้เป็นโปรเฟสชันแนลก่อน ก่อนที่จะทำการขาย”
“ไม่ใช่คำแก้ตัวก็คือขอโทษนะคะ ออเดอร์พี่เยอะมากเลย หนึ่งแสนสี่หมื่นออเดอร์ต่อวันแพ็กไม่ทัน เอ้า! แพ็กไม่ทันก็หยุดขายก่อนแล้วก็ไปแพ็กของก่อน ไม่ใช่ทำแบบนี้ บ่าได้”
ทีมงานเข้ามาคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กไม่สุภาพ? “ทีมงานของพี่พิมเข้ามาคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำแบบนี้มันยิ่งทำให้รู้สึก…เธอดูถูกเราเหรอ ที่เราโพสต์ไม่ได้จะต้องการของสมนาคุณ แต่รู้สึกว่าถ้ามันเป็นแบบนี้เราขอเป็นเคสตัวอย่าง เรารู้ว่าตอนนี้แม่ค้าออนไลน์อันดับหนึ่งในการขายไลฟ์เป็นพี่พิม แต่สุดท้ายแล้วระบบของพี่พิมมันจะทำให้พี่พิมเสียเอง”
ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้างหลังจากที่โพสต์ไป? “หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจากประสบการณ์ของเขา เคยโดนมาเหมือนกัน เพื่อนๆ รอบข้างเคยสั่งของพี่พิมหมดแล้ว รอนาน ได้ของไม่ครบ เจอปัญหาเดียวกันจนเขาบอกว่าก็ไม่สั่งแล้ว”
“สำหรับเพ็ชรขอไม่ซื้อของกับพี่พิมแล้ว เพราะว่ามันยุ่งยาก ก่อนจะเปิดกล่องต้องถ่ายวิดีโอก่อนเพื่อเป็นหลักฐานให้เขา เฮ้ย! มันซับซ้อนแบบเนี้ย มันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดี เพราะฉะนั้นร้านพิมรี่พายขายทุกอย่างต้องหาวิธีที่จะช่วยเหลือลูกค้า และทำให้มันง่ายต่อการซื้อมากขึ้น เพ็ชรว่าพี่พิมจะขายดีกว่าเดิม”
“แต่ถ้าเขามีระบบการจัดการที่ดีขึ้นแล้วเพ็ชรก็อาจจะสนับสนุนเขาใหม่ เพราะจริงๆ แล้วเขาเป็นคนดีนะ การช่วยเหลือสังคมของเขามันอาจจะเป็นคอนเทนต์ แต่ว่ามันเป็นคอนเทนต์ที่ดีเพ็ชรก็ชอบก็อยากสนับสนุน ช็อปปิ้งด้วย ได้ของด้วย ได้บุญด้วย แต่สุดท้ายเราอยากให้ระบบการจัดการมันดูเป็นโปรเฟสชั่นแนลกว่านี้อีกนิดหนึ่ง”
พิมรี่พายมีแฟนคลับค่อนข้างเยอะ ออกมาโพสต์อะไรแบบนี้กลัวทัวร์ลงไหม? “เพ็ชรมองเรื่องความถูกต้องเป็นหลัก อะไรที่ดีเราก็ชม อย่างความดีพี่พิมเราก็ไม่เคยเอามาเหมารวมกับข้อที่มันผิดพลาด สำหรับแฟนคลับเราก็ไม่รู้ว่าทัวร์จะมาลงเรามั้ย”
“แต่ว่าสิ่งที่เราโพสต์ไปมันคือในฐานะลูกค้าคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเห็นพี่พิมดังแล้วจะมาเกาะกระแส เพ็ชรมีไฟส่องตัวเองมากพอแล้ว แล้วทุกวันนี้ก็ยืนอยู่จุดตรงนี้ได้ด้วยตัวของเราเองโดยที่เพ็ชรไม่ต้องไปเกาะใครดังเลย”
เห็นออกตัวไปว่าถ้าด่ามาก็ด่ากลับ? “อ้าว! ถูกค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นลูกค้า แม่ค้ามาด่าเราอย่างนี้ไม่ได้ค่ะ เราต้องด่ากลับ(หัวเราะ) แต่ว่ายังไม่โดนด่า”
แล้วที่โพสต์ว่า “แบบนี้เรียกว่าโกงลูกค้าไหม” กลัวเขามองว่าเป็นการหมิ่นประมาทหรือเปล่า? “ไม่ มันเป็นประโยคคำถาม ไม่ใช่ประโยคที่เราจะไปดิสเครดิตเขา บางครั้งมันมีคอมเมนต์ที่บอกว่าคุณพิมรี่พายไม่รู้เรื่องเลย ลูกน้องหลังบ้านเป็นคนจัดการส่งของ เพราะฉะนั้นเคสของเพ็ชรถ้าพี่พิมไม่รู้ พี่พิมต้องไปเช็กกับลูกน้องหลังบ้านแล้วว่ามันจริงมั้ย”
กลัวไหมว่าออกมาพูดแบบนี้แล้วจะทำให้พิมรี่พายเสียความรู้สึกกับตัวเรา? “เพ็ชรไม่กลัวนะ เพราะว่าเจตนาที่เราซื้อของตอนที่พี่พิมไลฟ์ก็ยังเมนต์แซวโน่นนี่นั่นกัน เราก็ประทับใจที่เขามองเห็นคอมเมนต์เล็กๆ ของเรา แต่ว่าเขาไม่น่าจะรู้จักเพ็ชร เขาแค่อ่านคอมเมนต์เหมือนเราเป็นแฟนคลับเฉยๆ”
“แต่ก็เอาเป็นว่าทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องนี้ถ้าสิ่งที่เพ็ชรโพสต์ไปทำให้พี่พิมเสียหาย เพ็ชรก็แสดงความบริสุทธิ์ใจในการขอโทษก่อนเป็นอันดับแรก อาจจะโพสต์ด้วยอารมณ์ด้วยเพราะเปิดกล่องออกมาได้ของไม่ครบก็หงุดหงิดแถมรอนาน ต้องยอมรับว่าเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เจอ”
ขอบคุณภาพ FB : เพชร ฏีญาภาร์, Pimrypie
