เปิดใจ น้ำเพชร ฏีญาภาร์ ของสมนาคุณทิพย์จากกล่องพิมรี่พาย เหวอซ้ำ! โดนเจ้าของงานแหกกลางวงนักข่าว เชิญไปสัมภาษณ์เรื่องนี้ที่อื่น
มีเรื่องให้ปวดหัวไม่หยุดหย่อน สำหรับ เพ็ชร หรือ น้ำเพชร ฏีญาภาร์ นามงามคนดัง หลังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีสั่งของจากร้าน พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่นอกจากจะส่งของช้าแล้ว ยังได้ไม่ครบตามจำนวน รวมถึงเรื่องที่ทีมงานของแม่ค้าคนดังเข้ามาตอบคอมเมนต์เชิงดูถูก ทั้งยังบอกด้วยว่าได้แพ็กของส่งให้เรียบร้อยพร้อมกับของสมนาคุณ
ทว่าหลังได้รับพัสดุจากร้านพิมรี่พาย เพ็ชร ได้ไลฟ์เปิดกล่องโชว์ ก่อนจะพบว่าได้ของที่ขาดครบแล้ว แต่ของสมนาคุณที่ทีมงานแจ้งไว้นั้นไม่มี!! แถมล่าสุดเจ้าตัวยังเจอเหตุการณ์ที่ทำเอาเหวอและอายสุดๆ ระหว่างสัมภาษณ์กรณี พิมรี่พาย อยู่ดีๆ กลับโดนเจ้าของงานเข้ามาไล่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ที่อื่น
ทั้งนี้ เพ็ชร หรือ น้ำเพชร ฏีญาภาร์ ได้เปิดใจกับทาง ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ถึงเรื่องราวทั้งหมด ให้ฟังว่า “สำหรับเรื่องของที่สั่งไป เพ็ชรบอกเลยว่ากล่องนี้เป็นกล่องเจ้าปัญหามาก ตั้งแต่ได้รับพัสดุมาจนถึงวันนี้ ชีวิตไม่เป็นสุขเลย จริงๆ ไม่ได้อยากจะมาขยี้เรื่องนี้เพิ่ม แต่ในเมื่อข่าวสดได้ขอสเปเชี่ยลสัมภาษณ์ เพ็ชรก็ขอบคุณมากที่จะให้เพ็ชรได้ชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง”
“เริ่มแรกจากที่สั่งของมาแล้วของได้ไม่ครบ ล่าสุดเพ็ชรได้มีการโพสต์หลักฐานกล่องพัสดุกล่องแรกกับกล่องที่สองว่ามันจะมีตรงเครื่องหมายติ๊กถูกกับวงกลม ซึ่งมันบ่งบอกได้ว่าของชิ้นที่สองไม่ได้ใส่มาในกล่องจริงๆ มันเป็นความจริงอย่างที่เราโวยไป หลังจากนั้นพอเรามาตามของที่ได้ไม่ครบก็เลยมีดราม่าแอดมินใช้คำพูดไม่ดีอะไรบ้าง”
“สุดท้ายประเด็นมันอยู่ที่เขาบอกว่าแพ็กของส่งให้เราแล้ว แพ็กตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เพราะของถึงวันที่ 8 มิ.ย. ตอนบ่ายสอง เท่ากับว่าเขาต้องแพ็กลงกล่องส่งเคอรี่มาเรียบร้อยแล้ว แต่พอเปิดมาในกล่องก็อย่างที่เห็นในไลฟ์เลยค่ะ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา(หัวเราะ) แต่เราก็มองมันเป็นเรื่องขำขันไป ประเด็นคือได้ของครบแล้วจบแล้ว”
“ส่วนเรื่องที่มันติดอยู่ในใจ เวลาที่เราตามของแล้วโดนตำหนิโดนด่ากลับเรารู้สึกไม่โอเคนะ แต่ทุกอย่างก็ขอให้มันผ่านไปเพราะไม่มีใครอยากมาพูดเรื่องนี้ซ้ำๆ ให้มันเป็นกระแสไปยาวๆ แบบนี้ เพ็ชรเองก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ค่ะ”
อยากได้คำขอโทษจากทีมงานที่ใช้ถ้อยคำอาจจะไม่สุภาพมากหรือไปในเชิงที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นการบูลลี่หรือเปล่า? “สำหรับเพ็ชรมันผ่านวันที่ 7 8 วันนี้เข้าสู่วันที่ 9 แล้วอ่ะ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะว่ามันก็เป็นการโชว์อัพให้เห็นถึงการทำงานของทีมงานเขา”
ย้ำว่าไม่ได้อยากได้ของสมนาคุณ แต่ตอนได้รับกล่องพัสดุมาแอบลุ้นไหม? “ถ้ามันเป็นปัญหาของร้านเพ็ชร ลูกค้าโวยวายมาอันดับแรกเพ็ชรจะขอโทษ แล้วก็ถ้าบอกลูกค้าว่าจะมีของแถมไปให้ ไม่ว่าลูกค้าจะอยากได้หรือไม่อยากได้ ถ้าเป็นร้านเพ็ชรจะให้เพราะว่าได้พูดไปแล้ว เขาเรียกว่ามันไม่ขายหน้าตัวเองอ่ะ เอาจริงๆ เราไม่ได้อยากได้ เพียงแค่อยากจะดูว่าคุณพูดอะไรไว้ คุณทำหรือเปล่าแค่นั้นเองค่ะ”
ล่าสุดเห็นว่ามีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยในคลับเฮ้าส์กับทีมงานคนนี้ที่คอมเมนต์มาหา? “โชคดีมากที่มีแฟนคลับทักมาบอกว่าตอนนี้เขาพูดเรื่องพี่เพ็ชรอยู่ไหนคลับเฮ้าส์ เข้าไปดูสิ เข้าไปดูเสร็จปุ๊บก็เลยยกมือ คนจริงไงขอเคลียร์เลย “หนูฟังพี่ แล้วพี่ฟังหนูนะคะ” เริ่มแรกประโยคสนทนาก็ไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าไหร่”
แล้วได้ถามเขาไหมว่าทำหน้าที่อะไร? “ตอนแรกพี่เขาก็บอกว่าเขาเป็นคนที่ตามแหกคุณพิมรี่พาย ระบบการจัดการเขาแย่จริงๆ ทุกอย่างมันติดต่อยากจริงๆ เขาเลยตั้งตัวเป็นแอดมินและทำงานกับพิมรี่พายตอนนี้ พิมรี่พายจ้างเขาเป็นฝ่ายตามสินค้าให้ลูกค้า”
สิ่งที่เขาคอมเมนต์ได้บูลลี่เราหรือเปล่า? “ถามค่ะ พี่คิดว่ามันเป็นการบูลลี่หนูมั้ย เขาบอกว่าเพ็ชรลองอ่านด้วยน้ำเสียงดีๆ สิ มันจะไม่ใช่การบูลลี่ แต่ว่าเราหลอกคอมเมนต์ไม่ได้นะคะ ถึงพี่เขาจะบอกว่าไม่ได้บูลลี่เพ็ชร แต่เสียงส่วนใหญ่บอกว่าพี่เขาแซะเพ็ชร”
“ในคลับเฮ้าส์เรามีการขอโทษขอโพยกัน แต่เพ็ชรเป็นคนที่ขอโทษเขาก่อน เขาถึงยอมขอโทษเพ็ชรกลับ แต่ทีนี้เรื่องมันเกิดในเฟซบุ๊ก เพ็ชรอยากเป็นฝ่ายได้รับคำขอโทษก่อนในเฟซบุ๊ก”
ยืนยันว่าตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว?“ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ หลังจากวันนี้ที่ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดเกี่ยวกับเรื่องของคุณพิมรี่พาย อยากจะขอเป็นสื่อสุดท้ายที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะเพ็ชรอยากที่จะขอไปทำอย่างอื่นแล้ว เอาเป็นว่าจบ แยก”
ล่าสุดเห็นโพสต์ว่า “เกิดมาไม่เคยอายต่อหน้านักข่าวขนาดนี้เลยค่ะ เมื่อวานครั้งแรกในชีวิตเหมือนกัน ทำตัวไม่ถูก” เกิดอะไรขึ้น? “เฮ้อ…พอเข้าเรื่องนี้แล้วมู้ดเปลี่ยนเลย เพ็ชรไปร่วมงานแถลงข่าว Miss Earth Thailand ในฐานะที่ตัวเองดำรงตำแหน่งเป็น Miss Earth Thailand 2020 อยู่ แล้วก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นเรียบร้อย รวมถึงให้สัมภาษณ์รวมกับนักข่าวเรื่องงานแถลงข่าวข้างล่างแล้ว”
“เหตุการณ์คือมีอยู่ว่าเพ็ชรกำลังจะกลับ แล้วนักข่าวก็ขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องของพี่พิมรี่พาย ในใจตอนนั้นก็รู้ตัวเองว่ามันเป็นเรื่องดราม่าเนอะจะกระทบกับเวทีมั้ย แต่ว่าจริงๆ แล้วสุดท้ายมันไม่ใช่เรื่องดราม่าที่แบบมันเสียหายหรือเพ็ชรทะเลาะกับใคร เราคิดว่ามันไม่ได้ทำให้เวทีเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด”
“เลยกลายเป็นว่านักข่าวขอสัมภาษณ์ที่เดิม ไม่มูฟ และขอสัมภาษณ์เดี่ยว เพ็ชรคงจะไปแย่งซีนใครหรืออะไรอย่างนี้ก็ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ระหว่างที่พูดไปสุดท้ายแล้วไม่ว่าเพ็ชรจะเคลียร์เรื่องอะไร เพ็ชรอยู่ในงาน พอนักข่าวให้ฝากถึงอะไรเพ็ชรก็จะต้องพูดอยู่แล้วว่าขอฝากการประกวดด้วยนะคะ”
“แต่สุดท้ายแล้วเจ้าของงานการประกวดเข้ามาพูดอย่างที่เห็นในคลิป เพ็ชรเสียความรู้สึก พูดออกไปไม่ได้ ถ้าเพ็ชรพูดก็เสีย ไม่พูดก็เสีย ทุกคนช็อก เลยขอไม่พูดถึงดีกว่า”
สัมภาษณ์เรื่องพิมรี่พายไปเยอะหรือยัง ถึงมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น? “ประมาณ 10 นาที กำลังจะจบแล้ว ถึงกำลังจะฝากทิ้งช่วงท้ายแล้วก็โดนเชิญให้ออกไปสัมภาษณ์ที่อื่นเลย หลังจากนั้นพี่ๆ นักข่าวก็มูฟจากในห้องออกไปข้างนอกกับเพ็ชรหมดเลย”
“ถามว่าเพ็ชรอายมั้ย เพ็ชรรู้สึกอายเหมือนกันนะคะ ณ ตอนนั้นเราแก้ไขสถานการณ์ได้ดีที่สุดก็เท่านั้นแหละค่ะ ทำดีที่สุดแล้วจริงๆ เพ็ชรรู้ว่าตอนนี้ทางผู้จัดงานคนที่มาพูดเขาเองก็เสียใจไม่แพ้เราเหมือนกัน”
“เพ็ชรเองก็เสียใจเพราะว่าเราบินมาจากภูเก็ต เพื่อมางานนี้โดยเฉพาะ ค่าเสียเวลาไม่ได้ ได้แค่ค่าเดินทาง ค่าเดินทางไปกลับบวกค่าแต่งหน้าบวกค่าตรวจโควิดอีกรอบหนึ่งยังไม่พอเลยค่ะที่ท่านให้มา เพ็ชรเดินเข้างานยังไม่มีข้าวหรือว่าน้ำกินสักขวดเลย แต่เราก็ไม่มายด์ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด”
มีโอกาสได้เคลียร์ใจกันไหมก่อนกลับ? “หลังจากที่ออกไปสัมภาษณ์ข้างนอกเสร็จ เพ็ชรก็แบบหรือว่าเราจะกลับเลย หรือว่าเราจะต้องไปลาผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วผู้ใหญ่ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว มีหลายคนที่อยู่ในงาน เพ็ชรจำเป็นที่จะต้องเดินเข้าไปในงานอีกรอบหนึ่งเพื่อสวัสดีและลาผู้ใหญ่ทุกคน บางคนเขาอาจจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เห็นอาการแล้วก็ดูเหวออยู่เหมือนกัน? “เพ็ชรผ่านงานแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อมาหลายครั้งมากๆ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เพ็ชรโดนแบบนี้ ค่อนข้างช็อก (ร้องไห้ไหม?) ตอนอยู่ในงานไม่น้ำตาไหลค่ะ แค่รู้สึกว่าอยากจะเอาตัวเองออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด (มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเราไหม?) ประเด็นนี้หนูไม่ขอตอบนะคะ”
