อรชร เชิญยิ้ม ไม่ยอมแพ้หมา สู้ให้สุด มองบวกคนอื่นยังแย่กว่าเรา
อรชร เชิญยิ้ม เป็นตลกชื่อดังอีกคน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด ไม่มีงานทำ แถมเงินเก็บที่เคยมี ก็หมดลง แต่เจ้าตัวไม่ท้อ หันมาเป็นแม่ค้าขาย
ช่วงนี้ได้ยินว่าลำบากมาก? “จะว่าลำบากก็ลำบากนะ แต่เราเห็นคนอื่นลำบากกว่า เราก็มีทำให้เรามีความรู้สึกว่า เราต้องสู้เพราะคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา เค้ายังสู้เลย เราก็เลยเอาไอ้โน้นไอ้นี่มาขายบ้าง ตะกี้ก็รับออเดอร์หมี่กรอบอยู่ บางทีแฟนคลับก็แชตมา เราก็ต้องผูกโบว์แล้วก็คอลคุยกันรับกี่กล่องค่ะ อะไรแบบนี้”
เราก็ต้องสู้? “ใช่ค่ะ”
รายได้หายไปเยอะไหม? “โอ้โห ทุกวันนี้ต้องทำใจเลย คิดมากไม่ได้ ถ้าคิดมากเราทรุดแน่ คิดจะเอาเงินเท่าเดิมหรือต้องเอาให้มาก ตอนนี้มันไม่ได้แล้ว ต้องเก็บเล็กผสมน้อยค่อยเป็นค่อยไป ประคองไปก่อนตอนนี้ก็ประครองบ้านไว้ เรื่องรถถ้าจะโดนยึดก็ยอม เพราะว่ามันขาดส่งได้ 3 เดือน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ค้าง แต่เดือนหน้ายังไม่รู้ เพราะว่าเงินที่เราเก็บไว้มันสุดแล้ว”
เอาเงินเก็บออกมาใช้หมดแล้ว? “ใช่ค่ะ มันตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ตั้งแต่โควิดรอบแรกเลย โชคดีว่ารอบแรกเรายังพอมีเก็บ มาซีซั่นสองพอมี มาซีซั่นสามถ้าจะเก็บไม่ได้แล้วเพราะว่าของเก่าที่เราเป็นหนี้เราก็ต้องใช้เขา พอจะมีงานจะมีเงินเก็บซักหน่อยโควิดมาอีกแล้ว”
ที่ยังต้องผ่อนส่งอยู่ตอนนี้มีบ้านกับรถใช่ไหม? “มีบ้าน กับรถเท่านั้น แต่บ้านหลังที่อยู่ตอนนี้อรเก็บเงินเองตั้งแต่ทำงานได้เยอะๆ เราก็เอาเงินสดมาจ่าย แต่อีกหลังหนึ่งที่แม่อยู่ อันนั้นเรายังผ่อนอยู่ หลังนั้นนอกจากแม่ก็มีลูกหลาน แต่บ้านก็อยู่ติดกัน แต่รถเราก็ยังผ่อนอยู่ เหลืออีกสามปีแต่ก็ต้องสู้
รถยังไม่ขาดส่ง แต่คิดว่าคงเป็นเดือนหน้าต้องขาดแล้ว เราขายของทุกวันนี้ลงทุนให้แม่เอาเงินมาหมุนดีกว่า เอาเงินเก็บมากินอย่างเดียว มันก็มีแต่หมดไป เลยเอามาซื้อของพวกหมี่กรอบ มะม่วงกวน ซื้อโน้นนี้มาขายช่วยๆกัน น้อง ช่วยกันในบ้าน พอได้เงินมาแล้วก็เอามาหมุน ตอนนี้เหมือนเราเป็นลูกจ้างแม่ให้แม่บริหารเงินไป เราเอาทุนคืนแล้วแต่แม่เค้าจะให้ บางทีขายดีเค้าก็ให้ 200-300 ต่อวัน”
จากเมื่อก่อนรายได้เท่าไหร่ มาตอนนี้เหลือรายได้วันล่ะเท่าไร? “อย่าใช้คำว่าเหลือเลย ไม่มีเหลือเลย เงินในบัญชีของตัวเองตอนนี้มีไม่ถึงหมื่น ตอนนี้มีติดตัวอยู่ประมาณ 7 พันห้า ที่เก็บไว้หมุนไปซื้อของและเอามาขายเพื่อเอากำไรไปหมุนคิดสิวันละ 200 – 300 บาท
โชคดีลูกพี่ลูกน้องเค้าถูกหวยรางวัลที่สอง เค้าก็เลยเอาเงินมาให้สองพัน ตอนแรกก็จะไม่เอาเพราะเราก็รู้ต่างคนต่างเดือดร้อนเค้าเห็นว่าช่วงเรามีเราก็ให้เขาแบ่งปันกันเค้าเอามาให้ก็เลยมีเพิ่มงอกขึ้นมาอีกหน่อย”
ยุคที่ยังไม่เจอโควิด รายได้มีเข้ามาเยอะไหม? “เรารับงานทั่วไป รับไปหมดเคยเล่นลิเกเราก็ได้ บางทีไปเจ้าภาพให้เท่านี้เราก็ไป แต่เจ้าภาพก็ให้รางวัลอีกหน้าเวที พอเราได้เงินมาก็เก็บเข้าบัญชี สมมติได้มา7-8 พันบาท ก็เก็บแยกไปเลย 3 พัน เก็บค่ารถ 5 พัน เงินรางวัล เอามาใช้รายวัน ที่เหลือก็ให้แม่ ทำให้เราพอมีเงินเก็บ โดยที่ไม่เดือดร้อน พอมาเจอโควิดสามซีซั่น เจอซีซั่นที่สามล่วงเลย ยืนไม่อยู่แต่ก็พยายามทรงตัวให้ได้”
มีน้ำตามาบ้างไหมเพราะว่ามันหนักมากทั้งรถทั้งบ้านค่าใช้จ่ายรายเดือนอีก? “ยังยืมแหวนแม่ไป 50 สตางค์เอาไปจำนำได้หนึ่งหมื่นบาท เอามาหมุนก่อน แม่เค้าก็ให้ช่วงที่เรามีแล้วก็ซื้อให้เขาตั้งแต่ซีซั่นแรกเลยโควิด เอาสร้อยข้อมือเขาไป กะว่าจะไปเพิ่มให้ครบบาท จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้คืนเลย แล้วนี้มาเอาแหวนเค้าอีกหนึ่งวง เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องคิดมาก
แม่จากเคยป่วยท้อ เราพยายามดึงเขาขึ้นมา ตอนนี้เขาเห็นเราอยู่บ้านนอนห้องพระ เค้าพยายามให้หลานมาเล่นด้วย เค้าจะมาบอกว่าคนอื่นแย่กว่าเรานะไม่ต้องคิดเยอะสู้สู้ ไม่ต้องคิดมากมีกินก็มี ไม่มีเราก็อดกัน อย่างเนี่ยแม่เรา ก็มีกำลังใจแล้วมีน้องสาว มีลูกหลานเช้ามาเราก็ไปส่งเรียนกลับมาแล้วก็มารับออเดอร์ขายของ”
เรียกว่าดิ้นกันไป? “ใช่ค่ะ ถ้าไม่ดิ้นก็ตายแน่พูดเลย แต่ก็ต้องสู้เพื่อครอบครัว”
ตอนนี้เราต้องรับผิดชอบอีกกี่ชีวิต? “อยู่ในบ้านหกชีวิต บางคนก็มีงานแล้ว ก็ให้เขาไปตอนแรกมี 12 คน พอมีงานแล้วก็บอกให้เขาไปเลยไม่ต้องห่วง ไปทำงานเลยไม่ต้องห่วงทางนี้ หลานสาวลูกพี่ชายเค้ามีลูกอีกสองคน เราเอามาเลี้ยง แต่ตัวเค้าไปทำงานเราก็บอกว่าไม่ต้องห่วง ทางนี้เดี๋ยวจัดการเองเราถือว่าชีวิตเราเองเคยมีความสุข จะสุขคนเดียวมันไม่ได้ เพราะเคยลำบากด้วยกัน เคยอดมาด้วยกัน พอมีเราก็ไม่ทิ้งกันทิ้งกันไม่ได้”
เห็นที่โพสต์ว่าตอนนี้นับเป็นเดือนไม่ได้แล้วต้องนับเป็นวัน? “ ใช่ค่ะมันเหมือนวันต่อวันเลย ที่เราพูดไปแต่ละอย่างมันเหมือนทำให้เรามีกำลังใจทำให้เราสู้ด้วย แล้วคนเข้ามาให้กำลังใจ มันมีข้อแลกเปลี่ยน บางคนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่า พี่สู้สู้ ผมเหมือนพี่เลย เราก็คิดว่าไม่ใช่กูคนเดียวนะ กูยังมีเพื่อนพยายามโพสต์ไป แล้วคนที่เข้ามาคอมเมนต์ เค้าได้คุยกับเรา
บางทีเราคอลคุยกันเลยนะเค้าดีใจมากเลยที่เราคอลคุยด้วย บางคนบอกหนูได้เห็นหน้าพี่แล้ว หนูชอบพี่มากเลย พี่คือไอดอลหนูเลยนะ พี่เลี้ยงครอบครัว ก็บอกเขาว่าสู้สู้เหมือนกัน อย่าคิดมากเพราะพี่ไม่ใช่ดารา พูดได้เลยวันนี้พี่เป็นตลกเป็นตัวโจ๊กให้ลิเก เป็นนักแสดงธรรมดาคนหนึ่งได้คุยกันทุกคนก็โอเคเหมือนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตที่เราประสบเจอกันตอนนี้”
เป็นคนเก่ง ยังยิ้มได้ในภาวะที่เจอหนักแบบนี้? “บางครั้งจะร้องไห้(เสียงสั่น) แต่ก็อึบไว้ ไม่ได้เราคือหัวหน้าครอบครัว ถ้าเราร้องไห้ เราท้อ เราถอย ทุกคนในบ้านก็เขวหมดแน่ อย่างน้องเขยให้ไปขายของเลย ใครจะยังไงก็ช่างเราไปขายของ วันนี้ไม่ได้ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ได้ ก็ชวนคุยให้ขำๆ
ใครจะมีตังค์ซื้อมึงนักหนาเรายังแย่เลย เรายังอยากได้เงินเลย เค้าก็คงอยากได้เงิน วันนี้ไม่ได้ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ได้เค้าก็ครับพี่ เราก็ได้คุยกันให้กำลังใจกัน ประมาณสิ้นเดือนนี้ดูก่อนดูรายได้ก่อนเพราะช่วงนี้ส่งหมี่ได้ดี เราจะมาเปิดร้านขายน้ำสตอเบอรี่ปั่น 10 -15 บาทสิ้นเดือนนี้ เดี๋ยวหลานสาวจะกลับมาก็ให้มาช่วยกัน
ตอนนี้ขายหมี่กรอบกล่องละ 25 แต่ห้ากล่อง 100 บาท มะม่วงกวน มีพี่จากกรุงเทพ มีแฟนคลับบ้าง เพื่อนๆบ้าง ช่วยกัน มีโปรดิวเซอร์ช่วยซื้อ บางทีก็เป็นเจ้าภาพที่เคยหางานเราให้เราไปรำหน้านาค รำหน้ากระฐินเขามาช่วยบางทีซื้อเป็น 100 -200 กล่อง พอได้จากตรงนั้น กล่องละ 5 บาท ก็ยังดี 100 กล่องแล้วก็ได้ 500 แล้ว เก็บเล็กประสมน้อย
แล้วก็มีอาจารย์เป็นหนึ่ง ซื้อไป 20 กล่อง ราคา 400 ค่าส่ง 70 เค้าโอนมา 1000 เราก็บอกว่ามันเกินมา เค้าบอกว่านั่นแหละให้ติ๊บความน่ารัก เหมือนเขาช่วยเราอย่างอาจารย์เป็นหนึ่ง คืออันนี้มันเป็นอาหารพื้นบ้านอาจารย์เค้าอยู่ตรงโน้นแล้วเหมือน เค้ามาช่วยเรา
น้องสาวของพี่ส้มก็มาซื้อและให้กำลังใจ เค้าเคยช่วยเราเค้าก็ให้กำลังใจเรา เหมือนได้แนะนำคนอื่นด้วย ยิ้มสู้ เศร้าไม่ได้เลย บางครั้งก็แอบเศร้าเหมือนกัน พวกเด็กเด็กในบ้านจะรู้หลานสาวคนเล็กเค้าจะรู้ตามาแล้วอย่าขอตังค์ตานะเดี๋ยวตาเครียด”
คนในวงการก็ยังไม่ทิ้งกัน? “ใช่ๆ มีส่งกำลังใจมาให้ตลอด โดยเฉพาะพี่พี่ตลกที่เราสนิท เค้าก็จะเข้ามาคอมเมนต์บอกว่าสู้สู้นะ ยังเจ้าภาพที่เคยหางาน บรรดาเพื่อนเพื่อน เอฟซี เราก็รู้นะบางทีเค้าโพสต์เค้าก็แย่ เค้าก็ไม่ไหว เค้าเห็นเราขายหมี่กรอบ เค้ายังมาอุดหนุนเรา บางทีบอกว่าซื้อห้ากล่องนะคะ เค้าบอกหนูเอาแค่นี้นะไม่เอาเยอะ เราบอกว่าแค่นี้ก็ดีใจแล้วช่วยช่วยกัน
ขนาดนักร้องจอมขวัญ กัลยา เราก็เรียกเค้าหัวหน้า เค้ายังมาช่วยเลย เราก็บอกแค่นี้ก็ดีแล้วสู้สู้ไปด้วยกันเนาะ ยุ้ยญาติเยอะ เราก็ยังมีความรู้สึกว่าเหมือนเราตกที่นั่งเดียวกันก็สู้สู้กันไป”
ให้กำลังใจคนที่อยู่ในภาวะเดียวกันหน่อย? “บอกกับทุกคนนะคะยังไงเราต้องสู้นะ ถ้าเราไม่สู้เราตาย ยังไงก็ดิ้นให้สุด ให้สุดไปเลยจนไม่ไหวจริงๆ จนเราเดินไม่ได้ เคยเห็นหมามันโดนรถทับขาขาด มันยังกระเสือกกระสนมันยังไม่อยากตายเลย แล้วเราเป็นคนเราจะยอมหรอ ยอมตายหรอ ไม่ค่ะเราต้องดิ้น ดิ้นให้สุดไปเลยสู้สู้”
ขอบคุณรูปจากเฟซบุ๊ก : อรชร เชิญยิ้ม
https://www.facebook.com/129558990394402/videos/1930257227130388
