นักร้องหนุ่ม อ๊อฟ ศุภณัฐ รับไม่ได้คุย ธัญญ่า อาร์สยาม มา 3 วัน เผยอีกฝ่ายไม่พอใจรับงานกะดึก เคลียร์สัมพันธ์ชัด เลิก-ไม่เลิก?!
หลังจากที่นักร้องลูกทุ่งสาว ธัญญ่า อาร์สยาม ออกมาโพสต์ข้อความเศร้าผ่านไอจีสตอรี่แบบรัวๆ ว่า “จากนี้หนูขอโฟกัสที่งาน #หัวใจหนูว่าง” และ “เป้าหมายของชีวิต ไม่ใช่ทางเดียวกัน” พร้อมแปะอีโมจิรูปหัวใจสีดำ รวมถึงโพสต์ภาพตัวเองกับอีโมจีรูปชู 2 นิ้ว
จนหลายคนสงสัยว่าความสัมพันธ์กับนักร้องหนุ่มรุ่นพี่ อ๊อฟ ศุภณัฐ เดินมาถึงทางตันแล้วหรือเปล่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว ล่าสุด หนุ่มอ๊อฟ ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เกิดอะไรขึ้น ธัญญ่า อาร์สยาม ถึงได้ออกมาโพสต์ไอจีสตอรี่แบบนั้น? “ผมเห็นเมื่อคืน(20มิ.ย.) มีคนส่งมาให้ดูครับ จริงๆ ผมก็รู้แค่บางส่วน เรางอนกันแบบปกติ น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเวลาที่มีให้น้อยลงอะไรแบบเนี้ย แล้วก็น้องเขาก็เป็นห่วงเรา”
“ก่อนหน้านี้มันมีเหตุการณ์บังเอิญที่ลืมปิดระบบของอาชีพเสริม มันก็เลยมีงานเด้งเข้ามาตอนสี่ทุ่มบ้าง ห้าทุ่มเที่ยงคืน แล้วเหมือนน้องเขาเริ่มมีความกังวลในอนาคตว่าจะเหนื่อยไปมั้ย จะทำตลอดไปหรือเปล่า จะเจอแบบนี้มั้ย กลัวสุขภาพเราไม่ดี เขาก็เลยไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แล้ว”
“แต่ได้คุยกันบ้างบางส่วนเมื่อ 3 วันที่แล้ว ทีนี้ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ถ้าไม่ได้คุยกันแล้วเขาจะมีความสับสน แล้วผมไปทำงานที่จันทบุรีมา 3 วันก็เลยไม่ได้คุยกันเลย น้องเขาเลยไปเขียนระบายความในใจตัวเองนิดๆ หน่อยๆ เมื่อคืนก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมา”
“แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรนะครับ ผมก็เพิ่งจะส่งข้อความไปหาเขาบอกว่า…คิดถึงมากเลย ว่างมาคุยกัน(ยิ้ม) แต่คือยังไม่ได้โทรคุยกัน ผมตื่นมาก็เพิ่งจะได้เขียนไปบอกเขาว่า…ยังคิดถึง ยังรักเหมือนเดิมอยู่เลย น้องเขาอาจจะกังวลไปนิดนึง เลยพลาดเขียนข้อความอะไรไปแล้วคนก็เลยเข้าใจผิดครับ แต่จริงๆ ยังรักกันอยู่นะ”
ส่งข้อความไปหาเขาแล้ว เขาตอบกลับหรือว่ากดอ่านหรือยัง? “อ่านทันทีครับ(ยิ้ม) เขาก็ตอบว่าอยากคุยกับเรานั่นแหละ คือก่อนหน้านี้เห็นเราหายไปสองสามวันเขาก็เหมือนกับถอดใจ เหมือนคิดไปเองเยอะ คิดว่าพอไม่คุยกัน 3 วันปุ๊บเขาคงไม่อยากอยู่กับเราแล้วมั้งอะไรแบบนี้ตามประสาเด็ก แต่พอเราให้ข้อความแบบนั้นไปปุ๊บ เขาก็คุยกับเราปึ้บๆๆ เลย แก้ปัญหากันไม่ยากครับผม”
แต่ทางนั้นติดแฮชแท็ก #หัวใจหนูว่าง เลยไงคนเลยตกใจ? “อืม…มันเป็นอารมณ์อ่ะครับ ผมก็เคยเจอแบบนี้มาบ้าง ซึ่งปกติผมจะเป็นฝ่ายง้อเขาไงเวลาที่ลิ้นกับฟันกระทบกัน เวลาที่งอนๆ กันผมจะง้อเขา แต่อันนี้ผมยังไม่มีเวลาง้อเขาเลยไง เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด น้องเขาก็เลยเขียนไป”
เห็นโพสต์รัวๆ 3 สตอรี่ติดกันเลยคิดว่าเลิกกันแน่ๆ? “นั่นแหละ บางทีผมก็งอนเขาอยากให้เขาง้อ ปรากฏเขาก็ไม่ง้อเราอยู่ดี เขาก็เลยไปโพสต์แบบนั้น สุดท้ายแล้วผมก็เลือกที่จะง้ออยู่ดีแหละครับ…ก็เรารักเขาอ่ะ รู้สึกคิดถึงเขา เราก็ต้องเอากันอยู่ดีเพื่อที่อยากจะเห็นบรรยากาศที่ดีให้มันสงบสุข หรือว่ากลับมาคุยกันดีๆ เหมือนเดิมอ่ะ”
ตั้งเป้าจะไปง้อเมื่อไหร่? “เย็นนี้ ไปแบบเจอตัว เดี๋ยวเย็นนี้ได้เจอกัน จากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา วิธีผมก็น่าจะโอเคอยู่นะครับ ไปถึงเจอกันก็…อุ๊ย! ทำไมสวยขึ้นว้า เดี๋ยวก็หายแล้วแหละ(ยิ้ม) ไม่น่าจะมีอะไรหนักหนานะครับ น่าจะคุยกันแป๊บเดียวก็เข้าใจ”
“ไม่มีอะไรน่าห่วงนะครับ เพราะเหตุการณ์ของการงอนกันระดับนี้มันก็เกิดขึ้นมานานแล้ว หลายรอบแล้วแหละ ซึ่งมันก็ผ่านมาด้วยดี แค่ว่าครั้งนี้น้องเขายังรู้สึกสับสนอยู่ แล้วเรายังไม่ได้คุยกัน คือยังไม่ได้ง้อกันนั่นแหละ(หัวเราะ)”
สิ่งที่ธัญญ่าสับสนคือเรื่องการขับแกร็บที่ไม่อยากให้เราเหนื่อยมากใช่ไหม? “จริงครับ อันนี้น่าจะเป็นประเด็นหลักของน้องเลย ครั้งหนึ่งมันออกมาแล้วว่าเขาเคยเห็นเรารับงานกลางคืน แล้วด้วยความที่มันไม่คุ้มด้วย เขาก็เลยเป็นห่วงเรื่องอนาคตกลัวว่าอ๊อฟจะติดใจเรื่องนี้และทำไปตลอดชีวิตเลย รับงานเที่ยงคืนตีหนึ่งอีกหรือเปล่า เลยยังกังวลอยู่ แล้วผมยังไม่ได้เคลียร์กัน แค่นั้นเอง”
“แต่ถามใจอ๊อฟคือในเศรษฐกิจแบบนี้ ความที่นิวนอร์มัลของเราก่อนหน้านี้มันเป็นคนขี้เกียจไง แล้วพอได้เริ่มทำงานมาทั้งทีผมก็อยากทดลองเป็นคนขยันให้มันสุดโต่ง เลยเปิดรับงานไม่ปิดเลย จะได้เป็นประสบการณ์ให้เราด้วยว่าครั้งหนึ่งเราเคยทำแล้วเต็มที่ด้วย”
“ไม่ได้จะทำตลอดไป หรือว่าทำหนักๆ แบบนี้ตลอดหรอก อยากจะฝากไปบอกน้องด้วย รวมถึงแฟนๆ ทุกคนด้วยก็ไม่ต้องกังวล เพราะผมเข้าใจว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในเรื่องการทำงานหนักๆ แบบนี้ของผม”
ธัญญ่าบอกว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมพูดอะไรเพราะทุกอย่างยังคลุมเครืออยู่? “ใช่ ผมงอนเขา ไม่คุยกับเขามา 3 วัน เขาก็คิดว่าผมอยากเลิกกับเขาไง ผมงอนที่เขาไม่เข้าใจในเหตุผลของเราว่าทำไมเราถึงต้องไปรับงานกลางคืน เขาเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากทำมาก อยากรับกลางคืน จริงๆ ผมแค่ลืมปิดระบบเฉยๆ แล้วตอนนั้นยังคุยกันไม่จบยังไม่เข้าใจ”
“หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้คุยกันอีกเลยเพราะว่าเราต้องทำงานตื่นเช้าแล้วต้องนอนเร็ว เขาเลยเข้าใจไปทางโน้นเลยอ่ะ เข้าใจว่าเราอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้วเหรอ คิดไปไกลก็ต้องบอกเขาว่ากลับมานี่ก่อน(หัวเราะ) อย่าเพิ่งไปไหนไกล คือยังคิดถึงมากเลยไปจันทบุรีมา 3 วันเนี่ย”
ใจร้ายนะสองสามวันไม่คิดจะคุยกับเขาเลย? “อ๋อ…ไม่ใช่ครับ ไม่ได้ตั้งใจจะไม่คุยหรอก คือผมทำงานทั้งวัน จะมีเวลาได้คุยกันก็คือหลังเที่ยงคืน ผมก็ไม่ไหวเพราะว่าผมต้องตื่น 6 โมงเช้า ซึ่งการคุยกันมันก็ต้องใช้เวลาด้วย เลยว่ากลับมาถึงที่นี่ก่อน ใจว่างๆ กายว่างๆ ค่อยได้คุยกัน”
แล้วหลังจากนี้ยังจะรับงานกลางคืนอีกไหม? “ถ้าใจมันมาจริงๆ ก็คงเปิดครับ แต่ตอนนี้น่าจะไม่แล้วเพราะไปทำงานเป็นพิธีกรชุมชนต่างจังหวัดมาเหนื่อยมากเลย มีความรู้สึกว่ามันตามอารมณ์จริงๆ ครับ ทุ่มนึงสองทุ่มรู้สึกว่าอยากพักผ่อนแล้ว ช่วงนี้น่าจะเป็นแบบนี้แล้ว”
สุดท้ายถ้าต้องเลือก? “เลือกน้องสิครับ คิดทำไมครับ(หัวเราะ) ไม่หรอก จริงๆ น้องเขาก็เข้าใจว่าสิ่งที่เราชอบ คุยกับเขาเรื่องนี้มานานแล้ว อย่างเรื่องที่เขาชอบผมก็ไม่เคยได้ห้ามอะไร ส่งเสริมด้วยซ้ำ อย่างเรื่องนี้เขาแค่มีความเป็นห่วงและกังวลในความปลอดภัยของเราแค่นั้นเอง”
“เขารู้อยู่แล้วแหละว่าเราชอบ เขาไม่เคยคิดจะห้ามนะครับ แต่แค่กลัวว่าเวลาจะมีให้กันน้อยลงแล้วรักมันจะจืดจาง จริงๆ ถ้าคุยกันดีๆ มันก็เข้าใจกันได้ ไม่ต้องถึงกับเลือกหรอกครับว่าต้องให้เลิกขับมั้ย ยังไงผมก็แอบขับอยู่แล้วเพราะว่าชอบขับมอเตอร์ไซค์”
หลังจากนี้จะมีปรามธัญญ่าหน่อยไหมว่าก่อนจะลงอะไรต้องตั้งสตินิดหนึ่ง เดี๋ยวจะมีดราม่าแบบนี้อีก? “ไม่น่าจะต้องนะครับ รอบนี้ก็เหมือนเป็นประสบการณ์เพิ่มของเขาแล้วล่ะ เหมือนเป็นบทเรียนว่าถ้าทำแบบนี้แล้วผลที่ตามมามันก็จะเป็นแบบนี้นะ ผมก็เข้าใจครับ เข้าใจอยู่แล้วว่ามันเป็นอย่างนี้นะ ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ผมก็ได้บอกเขาไปแล้วว่าให้คิดดีๆ เพราะทุกสิ่งที่ทำไปมันมีผลแหละ”
ตรงนี้ถือว่ามันเป็นเรื่องช่องว่างระหว่างวัยด้วยไหม กลัวจะเป็นปัญหาในระยะยาวหรือเปล่า? “เราแก้ปัญหากันได้ครับ โดยที่เราต้องให้เหตุผลสักอย่างหนึ่งให้เขาเก็ตให้ได้ว่าสิ่งที่เราคิดมันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีหรือเป็นเรื่องที่คิดไม่ได้นะ ในมุมความคิดของเขาจะเป็นความรู้สึกว่าแบบเหมือนเราเดินทางผิด คิดว่าทางที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว”
“แต่จริงๆ ผมก็บอกเขาแล้วว่าทำไมลุงจะไม่รู้ล่ะ ที่ทำอยู่เพราะอารมณ์ ความชอบ ความสนุก แล้วก็เพราะความจำเป็นในเศรษฐกิจแบบนี้ มีอะไรต้องทำต้องขยันเอาไว้ก่อน มันยังเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตเลือกไม่ได้อ่ะครับ มีโอกาสอะไรเข้ามาเราก็ต้องคว้ามันเอาไว้ ทำทุกอย่างแหละ”
“เนี่ยผมยังไปทำงานพิธีกรชุมชน จากนี้ไปก็จะไม่ว่างทุกเสาร์-อาทิตย์ ถือว่ารับงานทุกอย่าง ผมก็ภูมิใจในความขยันของตัวเองอยู่ครับ เลยพยายามจะสื่อลักษณะความหมายแบบนี้ให้น้องเขาเข้าใจ”
ยืนยันชัดๆ เลิกหรือไม่เลิก? “ไม่ได้เลิกครับ เอาชัดๆ นะ…ไม่เลิกครับ(หัวเราะ) ยังดีเหมือนเดิม ผมก็มีความรู้สึกเหมือนเดิมครับ ถ้ากลับมาแล้วถามใจตัวเอง…เรายังคิดถึงเขา แปลว่าชัดเจนมากครับ…ผมยังรักเขาเหมือนเดิม”
