ฟลุค พชร ยอมรับ โพสต์เกี่ยวโยงถึงรุ่นน้องเดอะสตาร์ โตโน่ ภาคิน มองว่าเมื่อก่อน เห็นตื่นตัวเรื่องการเมือง แต่ตอนนี้เงียบ ไม่ติด ถ้าอีกฝ่ายจะโต้ตอบ กลับดีซะอีก
ฟลุค พชร หรือ ฟลุค เดอะสตาร์ ออกมาทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ถ้ากลัวโฆษณามีปัญหา กระทบเรตติ้ง นอนอยู่กับบ้าน แล้วประเทศไทยจะพัฒนาได้ยังไงล่ะครับ..?”
งานนี้ก็มีชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่าวลีเด็ดที่หนุ่มฟลุคโพสต์นั้นโพสต์ออกมาดันคุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหน ก่อนคนจะโยงไปถึงรุ่นน้องจากเวทีเดียวกันอย่างดารานักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน หรือ โตโน่ เดอะสตาร์
พร้อมแปะคลิปที่อีกฝ่ายเคยพูดไว้ เมื่อครั้งขึ้นไปพูดบนเวทีในช่วงเวลาที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยในยุคเป่านกหวีดหรือยุค กปปส.
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวยกหูหา หนุ่มฟลุค ได้ความว่า คำที่โพสต์นั้น ตนยอมรับเอามาจากคำพูดที่ หนุ่มโตโน่ เคยพูดไว้จริงๆ
เราเห็นสถาณการณ์บ้านเมืองที่มันเกิดขึ้น และย้อนไปดูข่าวต่างๆ แล้วเราได้แรงบันดาลใจจากคุณโตโน่ ก็เลยคิดคิดว่ายกข้อความมาพูดในตอนนี้ดูซิ ว่ามันจะเป็นยังไง รู้สึกมันเข้ากับสถาณการณ์ดี
ส่วนหลายคนที่มองว่า จะเป็นศึกบ้านดาวหรือไม่ เพราะทั้งคู่มาจากเวทีเดอะสตาร์ ฟลุคเผยว่า มันคงไม่เป็นศึกอะไร เพราะตนไม่ได้อยู่ในสังคมที่ต้องทำงาน ร่วมงาน หรือต้องพบเจอกับโตโน่ หรืคนอื่นๆในวงการบันเทิง เพราะตนออกมาจากตรงนั้น นานมากแล้ว
หากถามถึงความสนิท ตน และ โตโน่ แค่เคยได้ร่วมงานกันนิดหน่อย ไม่ได้สนิทกัน เคยได้ขึ้นไปร้องเพลงบนคอนเสิร์ตใหญ่วีคสุดท้ายของ เดอะสตาร์ 6 ในฐานะรุ่นพี่เดอะสตาร์ 5 มีการร่วมซ้อมด้วยกัน และหลังจากนั้นตนก็อยู่ที่ค่ายนั้นอีก1ปี ก่อนจะยกเลิกสัญญา
ฟลุค
กังวลไหม ถ้าโตโน่เห็นข่าวแล้วจะรู้สึกไม่ดีต่อเรา เรื่องนี้ ฟลุคเผยว่า อย่างที่บอกว่าในชีวิตจริงไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว คิดว่าถ้าเค้าเห็นคงขำๆ แต่ถ้าเค้าอ่านแล้วมันสะกิดใจ ทำให้เค้ามีความรู้สึกอยากจะออกมาแสดงความคิดเห็นอะไร หรือตอบโต้ หรืออยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับการเมือง ณ ตอนนี้ ฟลุคคิดว่ามันก็คงจะเป็นผลดีกับสังคมที่อยู่ ณ ตอนนี้
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ว่าเจตนาคืออยากกระตุ้นให้เค้าออกมาพูดเหมือน ณ ตอนนั้น ใช่หรือไม่ ฟลุคเผยแบบยิ้มๆ ว่า มีความรู้สึกคิดถึง ในฐานะที่ในช่วงหนึ่งเค้าเคยเป็นคนที่มีความตื่นตัวในเรื่องของการเมือง เป็นปากเป็นเสียง ในการขับเคลื่อนสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง จนมันเกิดการเปลี่ยนทางการเมืองที่มันสำคัญมาก มันก็ส่งผลมาถึงทุกวันนี้ เราก็เลยคิดถึงเค้าในบทบาทนั้น
สำหรับตัวฟลุค ในฐานะที่ออกมาพูดเรื่องการเมืองอยู่ตลอด จริงๆ การที่ออกมาพูดการเมือง มันมีผลมานานแล้ว เป็น 10 ปี และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราก็ไม่เคยได้รับงานแสดง งานในทีวี หรือว่างานร้องเพลงที่ต้องไปร่วมงานกับค่ายหลักๆ หรือแม้กระทั่งรายการทีวี มันทำให้ช่วงแรก เมื่อ 10 ปีก่อน เราอาจจะต้องปรับตัวเยอะ แต่พอนานๆไปเราก็ปรับตัวและเรียนรู้ได้
“สุดท้าย อยากบอกทุกคนว่าถ้าเราอยากเห็นสิ่งที่มันดี หรือต้องการให้ชีวิตเรามันดีขึ้น ฟลุคคิดว่า เราไม่สามารถไปถึงจุดหมายตรงนั้นได้ด้วยการนิ่งเฉย ฟลุคคิดว่า ถ้ามีความต้องการที่เราจะสร้างสังคมที่ดีขึ้นมา ต้องลงมือทำ เหมือนคล้ายๆกับที่พี่โนโน่เคยบอก”
โตโน่
