มุก โอลีฟส์ นักร้องดังที่ออกมา CALL OUT อยู่ตลอด เปิดจุดยืนทางการเมือง ไล่บี้รัฐบาล ส่งเสียงเพื่อประชาธิปไตย – ยอมรับ โกรธ “ปู ไปรยา” ที่เพิ่งออกมาส่งเสียง

นักร้องสาว มุก-กฤตพร มณฑีรรัตน์ หนึ่งในสมาชิกวงโอลีฟส์(Olives) เป็นอีกหนึ่งคนดัง มีชื่อเสียง ที่ใช้เสียงของตัวเอง ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่ตลอด

และไม่เคยเงียบ ที่จะวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลวอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงเข้าร่วม ม็อบ ปลดแอก มาโดยตลอด

 


ล่าสุด ข่าวสดออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ ถึงเรื่องจุดยืนทางการเมือง รวมถึงเรื่อง วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ประชาชนคนไทยออกมาเรียกร้องหามากที่สุดในตอนนี้

ร่วมม็อบ18กรกฎา “ปกติไปร่วมมอบเป็นสายซัพพอร์ตอยู่แล้ว ในเรื่องโควิด คนไปม็อบรู้ทุกคนว่ามันหนักมันระบาด แต่การที่จะให้อยู่เฉยๆที่บ้านก็อดตายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการออกไป มันได้เรียกร้องได้ส่งเสียง

ทุกคนที่ไป ก็คิดว่ายอมรับความเสี่ยงตรงนี้ได้แล้ว ก็เลยออกไปเรียกร้อง เพราะว่าทนไม่ไหวแล้ว และพ้อยต์หลักของตัวม็อบ เราไม่ได้ต้องการให้มีความรุนแรงอยู่แล้ว เราไปเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยซ้ำ

อย่างเช่นตัวหุ่นที่เราจะทำมาเพื่อที่จะเอามาเผา ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากการเผานั้นนะคะ เพราะว่าเหตุผลที่เราทำมาเราอ่ะ ตั้งใจเผาอยู่แล้ว แล้วมันถึงขั้นที่จะยิงกระสุนยางหรือเปล่า เพราะอย่างวันนั้น มีคนถูกกระสุนยางยิงที่หน้า ซึ่งมันผิดหลักมากๆ

กระสุนยางมันควรที่จะยิ่งลงต่ำ แล้วอย่างตัวแก๊สน้ำตา หรือว่ารถฉีดน้ำจีโน่ เราคิดว่าการกระทำหลายๆอย่าง มันเกินกว่าเหตุไปหน่อย เราไม่ได้ลุกลามไปทำลายข้าวของ หรืออะไร

ถามถึงจุดยืน “เราต้องท้าวความไปตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว ตั้งแต่เขาเข้ามา มันคือการที่เขารัฐประหารมา พอเขารัฐประหาร เกิดเป็น คสช. เขาก็แต่งตั้งตัวเองมาเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น มีการเลือกตั้ง แล้วก็มีบัตรเขย่งอะไรต่างๆนาๆ จนเขาได้เป็นนายกต่อ

ทั้งตัวคุณประยุทธิ์ และองคาพยพของเขา มันคือการ เข้ามาโดยไม่ชอบ มุกรู้และคิดว่าหลายๆคนรู้สึกเหมือนกัน ว่าสิ่งนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่ปกติ แล้วมันไม่โอเค เราได้คนที่มาบริหารประเทศที่เราไม่ได้เลือก

แต่ก็จะมีคนมาเถียงว่า แต่เขาชนะเลือกตั้งมานะ แล้วเลือกตั้งที่ไหนมันเป็นแบบนี้ เรื่องบัตรเขย่ง เรื่องผลที่กว่าจะออกมาได้ เรื่องที่ไม่รับคะแนนจากต่างประเทศ และอะไรอีกต่างๆนาๆ ที่มันดูไม่บริสุทธิ์ใจ หรือมันไม่ปกติ คือในหลายคนที่เค้าออกมาทุกวันนี้คือเค้ารู้สึกว่าไม่โอเคกับการกระทำแบบนี้”

 

โควิดในประเทศไทย “เรื่องโรคระบาด เขาเป็นกันทั่วโลก ทุกประเทศเจอวิกฤตเหมือนกันหมด ทุกประเทศล้มตาย แต่วิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศไหน จะพาคนในประเทศผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ได้ มันวัดกันตรงผู้นำของประเทศ

ซึ่งอย่างอเมริกา ที่เขามีผู้เสียชีวิตเป็นล้าน แต่ทุกวันนี้เขาเปิดประเทศแล้ว ไม่ใส่แมสก์กันแล้ว เพราะเขามีวัคซีนที่ดี เพราะมีการจัดการที่ดี

นิวซีแลนด์ ก็เหมือนกัน วิสัยทัศของผู้นำเขาสำคัญมากอยากให้ไปนั่งดูวิสัยทัศน์ของผู้นำนิวซีแลนด์มาก เพราะฉะนั้นอะไรต่างๆนาๆ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะวิกฤติโรคระบาด คีย์ที่มันจะสามารถแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจแก้ไขปัญหาประชาชนล้มตายได้ มันก็คือเรื่องวัคซีน

และวัคซีนมันต้องเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพด้วยนะ แต่ปรากฏว่าตอนนี้รัฐบาลไทย ที่นำวัคซีนเข้ามาตอนนี้ ที่ฉีดฟรีให้ประชาชน เป็นวัคซีนที่ไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์เดลต้าได้

แล้วเขาโฆษณาว่าไม่กันติดแต่กันตาย แต่สุดท้ายก็มีคนที่ฉีดครบสองโดสที่เป็นแพทย์ เสียชีวิตอยู่ดี และล่าสุด ผลวิจัยก็ออกมาแล้วว่า คนที่ฉีดซิโนแวคครบสองเข็ม ภูมิจะค่อยๆลดลงมาเรื่อยๆ

แล้วมันก็มีผลวิจัยออกมาจริงๆ ที่เขามีการเทียบคนที่ฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ แอสตร้าฯ j&j ว่าภูมิแต่ละคนมันเท่าไหร่ พวกนี้เรามีเปเปอร์ยืนยัน นู่นนี่นั่น แต่เราถามกลับว่า แล้วทำไมรัฐบาลไม่ดูตรงนี้

ยังเลือกที่จะดื้อดึงสั่งซิโนแวค เข้ามาต่อ ในเมื่อคุณรู้ว่าประสิทธิภาพมันไม่มี อันนี้คือหนึ่งแล้วนะที่ไม่เข้าใจรัฐบาล และสอง ทำไมไม่เอา mRNA เข้ามาให้ประชาชนฟรี เน้นว่าฟรีนะคะ

เพราะที่ตอนนี้เข้ามา เอกชนให้จองโมเดอร์นา หรือแม้กระทั่งไฟเซอร์ต่างๆ ทำไมต้องเสียเงินซื้อ ประเทศอื่น มันไม่มีประเทศไหนที่ต้องจ่ายเงินเพื่อวัคซีนดีดีนะคะ

ถ้าจะบอกว่าทำไมไม่ไปฉีดวัคซีนฟรีที่รัฐมีให้ แต่ถามก่อนว่าวัคซีนที่รัฐมีให้ มันดีพอที่จะคุ้มครองชีวิตเราหรือเปล่า คือคนที่เขามีกำลังจ่ายเขาก็ต้องยอมจ่ายเพื่อวัคซีนดีๆ

แต่ถามว่าคนที่เขาหาเช้ากินค่ำได้ค่าแรงวันละ 300 ไม่มีทางเลือก สุดท้ายเขาก็ยอมฉีดวัคซีนที่ไม่สามารถป้องกันอะไรได้

แล้วพอเขาก็ออกไปทำงานสุดท้ายเขาติดเชื้อ คือเขาเป็นหนึ่งชีวิตเหมือนกัน เขาไม่ควรที่จะถูกละเลยในส่วนนี้ด้วย”

 

เพราะฉะนั้นเรื่องวัคซีนต้องเปลี่ยนไดเร็กชั่นได้แล้ว ควรจะนั่งประชุมกันได้แล้วว่าตอนนี้ เทรนวัคซีนมันเป็นแบบไหน รีเสิร์ชมันก็ออกมาแล้ว รวมถึงวัคซีนเจนสองด้วยซ้ำ

วัคซีนเจนสอง โนวาแวกซ์ ที่ต่างประเทศเขาแพลนที่จะซื้อกันแล้ว แต่รัฐบาลไทยแพลนหรือยัง เพราะเข็มแรกของประเทศไทย สิบล้านกว่าคนยังไม่ได้ปักลงแขนเลย แต่ตอนนี้ต้องแพลนแล้วนะ ไอ้เรื่องวัคซีนเจนสอง

หน้าที่ของรัฐบาลตอนนี้ คือต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน แต่กลายเป็นว่าประชาชนไม่เชื่อมั่นเลย เพราะว่าข้อมูลของรัฐบาลที่ออกมาพูดกับเรา กับข้อมูลทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่ออกมา แย้ง มันคนละอย่างกันเลย

อย่างเช่น คุณอนุทิน พูดในสภาว่าไตรมาส3 2021 วัคซีน แอสตร้าเซนเนก้าจะปักลงบนแขนคนไทยทุกคน จะมีวัคซีนเหลือเฟือ แต่ว่าทุกวันนี้ไตรมาส3 2021 แอสตร้าเซนเนก้า เพิ่งมาบอกว่า ไม่เห็นรู้เลยว่าจะต้องกักของไว้ให้คนในประเทศด้วย

อ้าว..แล้วสรุปคือยังไง ไหนตอนแรก คุณอนุทิน บอกว่า จะมีวัคซีนเข้ามาเดือนละสิบล้านโดส กลายเป็นว่าทุกอย่างที่พูดมาตั้งแต่ต้นปี ก็ยังไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้น เราถามว่าคนไทยจะเอาอะไรไปเชื่อมั่น

โครงการ ไทยร่วมใจ อยู่ดีๆ ก็ถูกเลื่อน แล้วถามว่าคนที่ไม่มีตัวเลือก เขาเลือกอะไรได้บ้าง เขาไม่มีเงินจองวัคซีนเอกชน เขาก็ต้องรอโครงการไทยร่วมใจ ที่ถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ เขารออยู่ที่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ เขาต้องออกไปทำงาน

แต่ถ้าออกไปทำงาน ก็คือการเสี่ยง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเลือกที่จะออกไปทำงาน เพราะอยู่บ้านไม่มีอะไรกิน คือทุกอย่างมันพังไปหมดแล้วค่ะตอนนี้ เพียงพอเพราะการจัดการบริหารของรัฐบาล

 

ทุกวันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของทุกประเทศ มันคืออะไรเรื่องของสาธารณสุข เรื่องวัคซีน เรื่องของโรคระบาด เรื่องอื่นๆเอาไว้ทีหลังก่อน ตอนนี้คุณต้องเซฟชีวิตของคนในประเทศคุณก่อน เพื่อที่จะให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนไป ให้มีประชาชนที่จะขับเคลื่อนไปได้

แต่กลายเป็นว่าตอนนี้คุณยังจะดื้อดึงที่จะสั่งซื้อเรือดำน้ำ ไปอวกาศ ยังจะไปโดดร่ม ทั้งๆที่ตอนนี้คนในประเทศคุณมีคนล้มตายวันละร้อย

เข้าใจว่างบประมาณยื่นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว หรือสองปีที่แล้ว แต่ทุกวันนี้มันคือวิกฤต เรื่องงบประมาณมันสามารถปรับเปลี่ยนกันได้อยู่ แล้วอะไรที่ไม่สำคัญรอก่อน

มุกยังไม่นับเรื่องอื่นๆที่มันแปลกมาก อย่างเช่นล่าสุด มีโครงการดูแลเรื่องผักตบชวา ในวิกฤตอย่างนี้คือคุณยังมีเรื่องการดูแลผักตบชวา อันนี้คืออะไร งงมาก ก่อนที่จะไปจัดการผักตบชวา จัดการชีวิตคนประชาชนให้รอดก่อน

นายกควรลาออก “เอาจริงๆไหม มันไม่ทันแล้ว เราเข้าใจค่ะว่าบริหารไม่ได้ออกไป คนที่ดีกว่านี้มีอยู่แล้ว ที่สามารถแก้ปัญหาได้ เราไม่รู้หรอกนะว่าใคร แต่มันมีอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นถ้าคุณทำไม่ได้คุณไปหาคนเก่งๆ คุณเป็นรัฐบาล คุณสามารถหาคนเก่งๆมาแก้ปัญหาได้ ถ้าคุณไม่มีอีโก้ ถ้าคุณไม่มีพูดถึงเรื่องเงินทอน ถ้าคุณไม่มีคอรัปชั่น

ลองคิดถึงแค่ ประชาชน คุณหาคนมาแก้ได้อยู่แล้ว แต่ไอ้เรื่องการลาออก ถามว่าอยากให้ลาออกไหม ลาออกได้ แต่ว่ามันต้องมีการตรวจสอบย้อนหลังด้วย

เพราะสิ่งที่เขาทำมาตลอด มันสร้างความพังพินาศให้กับประเทศให้กับเศรษฐกิจเรา ให้กับประชาชน มันก็ต้องมีการตรวจย้อนหลังแน่นอน

โอเควิกฤตนี้ คุณทำไม่ได้ แค่หาคนใหม่ออกมา คุณลาออกไป แต่สิ่งที่คุณทำไว้คุณต้องได้รับผลด้วย​”

ฟาด ปู ไปรยา เพิ่งออกมาCall Out “การที่มุกไปพูดถึงเขา มุกไม่ได้จะไปกดดันเขา หรือการที่ไปกดดันให้ดาราคนอื่นๆออกมา Call Out มุกไม่ค่อยเห็นด้วย

แต่ในกรณี ของคุณปู ที่มุกออกมาพูด เพราะว่าตัวของคุณปูเขาเป็นทูตของ UNHCR ซึ่งเป็นองค์กรเกี่ยวกับเว็บ เรฟูจี (ผู้ลี้ภัย)

เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว คุณวันเฉลิม ถูกอุ้มหายที่กัมพูชา ณ ตอนนั้น คนที่คนที่เสียงค่อนข้างเบาอย่างเราพยายามส่งเสียงกันมาตลอด ปั่นแท็กตามหา คุณวันเฉลิม มาตลอด โดยที่ไม่มีตัวใหญ่ๆ หรือองค์กรไหนเข้ามาช่วยเหลือเลย

รวมถึงคุณปู ที่เป็นทูต UNHCR ที่เขากลับเงียบ ทั้งที่เขาเป็นผู้ทำงานเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย และเราจะไม่รู้สึกโกรธเลยเท่านี้เลย ถ้าเขาไม่ได้พูดตอนวันที่เค้ารับตำแหน่ง

ปูอยากเป็นกระบอกเสียง ปูมีเสียงที่ดัง ปูมีแสง ปูเป็นดารา ปูอยากพูดเพื่อประชาชนเพื่อประชาชน หรือประเทศชาติ

ที่ผ่านมาเขาไม่เคยขยับมาตลอด แล้วเขาพึ่งมาพูดตอนนี้ แค่เรื่องคนต่อแถว แต่ก่อนหน้าที่คุณจะเห็นต่อแถวเนี่ย มันผ่านอะไรมาเยอะมาก

ทั้งเรื่องรัฐบาลอะไรก็ตาม คุณวันเฉลิมหายจากเรื่องรัฐบาล หรืออะไรก็ตาม รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาวิกฤติ เรือดำน้ำ

หนึ่งปีที่ผ่านมาเนี่ย มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาเยอะมาก คุณพึ่งมาโพสต์ ณ ปัจจุบันว่าเศร้ามากเลย คุณรู้ว่าตัวคุณมีเสียงที่ดัง แต่คุณเลือกที่เงียบมาตลอด แล้วจะมาพูดตอนนี้เนี่ยนะว่า เศร้ามาก

มุกเคารพในประชาธิปไตย คุณปูมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด ถ้าคุณไม่ได้มีตำแหน่งนี้ค้ำคออยู่ ”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน