อ.ยิ่งศักดิ์ ผุดโครงการยิ่งสุข ทำอาหารแจกผู้ติดเชื้อโควิดรักษาตัวอยู่บ้าน เคลียร์ชัดโพสต์เดือดฟาดใคร ลั่นทำไปเพราะเจตนาดี
ผุดโครงการยิ่งสุขช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิดที่ต้องรับษาตัวอยู่ที่บ้าน จนไม่สามารถออกไปซื้อของกินได้ ด้วยการทำอาหารนำส่งถึงบ้าน สำหรับ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ พิธีกร-อาจารย์สอนทำอาหารชื่อดัง
ล่าสุด อ.ยิ่งศักดิ์ เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงโครงการช่วยเหลือกล่าว พร้อมเคลียร์ชัดโพสต์เดือดฟาดใคร “พูดเลอะเทอะ ลำบากลูกเมีย”
ถามถึง “โครงการยิ่งสุข” เกิดขึ้นได้ยังไง? “อาจารย์เห็นว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งรวมถึงสต๊าฟของเราด้วย คือเขาใช้วิธีการตรวจด้วยตัวเองแล้วเจอ หลังจากนั้นก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลพอได้รับการยืนยันว่าติดโควิดก็ให้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน เจ้าหน้าที่เอายามาให้ อาหารการกินก็ออกไปซื้อไม่ได้ อาจารย์ก็สงสาร อาจารย์เลยอาสาเองสีลม สาทร สุรวงศ์ พระราม3 ใกล้ๆ ละแวกที่อยู่มีใครเดือดร้อนจริงๆ มั้ย”
“อาจารย์จะทำกับข้าวซึ่งตอนนี้ทำได้เฉพาะมื้อเย็น บางวันก็เป็น 100 กล่องเลย ทำได้เท่านี้ ทำมาเป็นสัปดาห์แล้ว โอเคแฮปปี้กับสิ่งที่ตัวเองทำโดยที่อาจารย์ไม่รบกวนใคร แล้วก็ไม่ได้ขอบริจาคจากใคร ชั่วโมงนี้ถ้าเราทำหน้าที่ตัวเองให้เป็นประโยชน์ ไม่ไปด่าทอวุ่นวายกับใคร แค่นี้ถือว่าเราทำหน้าที่ของเพื่อนร่วมชาติ แล้วก็ของคนไทยด้วยกันดีที่สุดแล้วค่ะ”
ตั้งใจจะทำไปจนถึงเมื่อไหร่? “ยังตอบไม่ได้เพราะตอนนี้อาจารย์ก็เริ่มเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น คือตอนนี้ตลาดข้าวของก็เริ่มไม่ค่อยจะมี อาจารย์ทำกับข้าวจะต้องมีไข่ต้มหนึ่งฟองเพราะถือว่ามีประโยชน์มาก ใส่ลงไปแล้วก็มีกับข้าว บางวันก็มีความรู้สึกว่าไข่ยังหาซื้อไม่ได้เลย”
ได้รับคำขอบคุณมากแค่ไหน? “เขาก็ขอบคุณ ทุกคนจะบอกว่าได้รับแล้ว อร่อยมาก เราก็บอกขอให้รักษาสุขภาพ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ นะคะ อาจารย์มองว่ามูลค่าของเงินร้อยหนึ่ง พันหนึ่ง หมื่นหนึ่ง แสนหนึ่ง ล้านหนึ่ง อาจจะดูมากอาจจะดูน้อยในสายตาของใครบางคน แต่ข้าวหนึ่งกล่องในเวลาที่ฉันไม่มีปัญญาดูแลตัวเองมันมีค่ามากกว่าเงินทอง นั่นก็คือน้ำใจและความห่วงใย”
บางคนมองว่าทำไมประชาชนต้องดิ้นรนช่วยกันเอง? “ถ้าจะทำความดีก็อย่าไปคิดเลย ทำไมมึงไม่ทำกูต้องทำ จะต้องเหน็บแนมกันตลอดชีวิตเลยเหรอสังคมไทยเป็นอะไร คุณอย่าไปบอกเลยทำไมรัฐบาลไม่ทำ กูเสียภาษีแล้วก็ไม่ทำ…ก็รู้อยู่แก่ใจอะไรมันเป็นอะไร”
“จะพูดไปได้ประโยชน์อะไร ยิ่งพูดก็ยิ่งสาดโคลนใส่กันมันก็ยิ่งทำให้สังคมไม่ดีขึ้น แต่คนป่วยก็คือคนป่วย หนึ่งสังคมไม่ดีเพราะมีโรคภัยไข้เจ็บตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือรัฐบาลอาจจะดูแลพอไม่พอ อย่าไปกล่าวโทษ ถ้าจะบอกว่ารัฐบาลไม่ทำหน้าที่ที่ดี เอ้าตายแล้ว! ฉันมีความผิดอีกที่ฉันไปว่ารัฐบาล”
“เพราะฉะนั้นเราเห็นกับตาว่ามีจุดบกพร่อง ไม่ต้องมาบอกว่าใครทำครบถ้วนไม่ครบถ้วน เราเห็นว่ามันยังไม่มี เราทำได้มั้ย ถ้าเราทำได้เราก็ทำ โดยที่ไม่ต้องไปว่าว่าดูแลยังไงทำไมคนแถวนี้จะเป็นจะตายไม่มาเอาใจใส่”
“เราทำแล้วเงียบซะดีกว่า พูดไปเราก็ไม่ดี คนที่เขาเข้าข้างก็มาด่าฉันอีก หาว่าฉันทำความดีแค่นี้จะมาด่าสาดเสียเทเสียให้กับผู้ปกครองบ้านเมือง โอ๊ยตายแล้ว น้องยิ่ง 70 แล้ว บอบช้ำจังเลยค่ะชั่วโมงนี้ พี่ออกความเห็นอะไรนิดเดียว ทัวร์ลงค่ะ”
ออกมาโพสต์เดือด หลายคนให้ความสนใจว่าหมายถึงใคร? “ไม่ได้หมายถึงใคร แล้วฉันก็ขอประกาศตรงนี้นะคะ ถ้าฉันจะพูดถึงชื่อคนฉันจะพูด อ่านให้จบสิคะ ฉันห่วงนะคะลูกเมียจะลำบาก ใครก็ตามที่จะทำหน้าที่ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ตาม มีคนเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยทันที แต่การออกความเห็นของเราต้องไม่กระทบกระเทือนความเป็นอยู่ของลูกเมีย”
หลายคนโยงไปถึงตลกชั้นครู? “ไม่รู้จัก น้องเอ่ยชื่อตลกชั้นครูอันนี้ฉันไม่รู้จัก ถ้าเอ่ยแบบนี้มันมีหลายคน พี่ขอบอกอย่างนี้นะคะสิ่งที่พี่พูดออกไปและโพสต์ออกไปนั้นเป็นเจตนาดี ฉันมีความรู้สึกว่าผู้ใหญ่แล้วเวลาจะพูดอะไรอย่างฉันฉันยังพูดนิดเดียว”
“พี่อยากจะพูดนิดเดียวเท่านั้นเองว่า อย่าเอาคำพูดคำจาของคนที่แสดงความคิดเห็นส่วนบุคคลไปเป็นผลประโยชน์ในการสร้างคะแนนและสร้างค่าให้กับฝั่งของตน บางทีคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเขาแสดงความคิดเห็นด้วยความซื่อและบริสุทธิ์”
“เขาถูกเลี้ยงและเติบโตมากับสังคมที่เป็นแบบนั้น เปลี่ยนแปลงเขาไม่ได้ แล้วเขาศรัทธาในการปกครอง และมีความสุขแบบนั้นไปเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ อันนี้ดิฉันไม่เห็นด้วย ตัวอาจารย์เองก็เช่นเดียวกัน ฉันถูกเลี้ยงดูมาไม่ให้มองซ้ายไม่ให้มองขวา แต่ให้มองด้วยเหตุและผล”
“วันนี้ฉันอาจจะมองข้างไหนข้างหนึ่งดี แต่วันพรุ่งนี้ฉันก็อาจจะมองไม่ดีได้ ไม่มีใครดีหมด ไม่มีใครสมบูรณ์หมด ไม่มีพรรคการเมืองไหน ไม่มีการปกครองของกลุ่มคนไหนที่จะดีไปหมดตลอดนิรันดร์กาล”
“อาจารย์เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างถ้าเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุและผล มันจะนำมาซึ่งความเจริญของทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ถ้ามันเปลี่ยนแปลงด้วยอารมณ์และความพึงพอใจของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ความหายนะจะเกิดแก่บ้านเมืองค่ะ”
“อาจารย์ต้องการให้เห็นว่าถ้ามันถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ขอให้เปลี่ยนแปลงอย่างมีเหตุผล ด้วยวิธีการสุภาพ ด้วยวิธีการที่ขึ้นชื่อว่าคนไทยเป็นชาติที่มีการศึกษา และรักคำว่าประชาธิปไตยอย่างแท้จริงค่ะ”